xs
xsm
sm
md
lg

“สุขุมพันธุ์” ฟุ้ง! ฝันเป็นจริง สร้างโรงเผาขยะนำร่องแห่งแรกในเมืองกรุง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“สุขุมพันธุ์” บอกฝันเป็นจริง สร้างโรงเผาขยะนำร่องแห่งแรกของเมืองกรุง เอกชนลงทุนทั้งหมด เผยหมดสัมปทานทรัพย์สินเป็นของกทม.

วันนี้ (30 ต.ค.) เวลา 14.30 น.ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ราชดำริ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานในการเปิดตัวโรงกำจัดมูลฝอยด้วยพลังงานความร้อนสูงโดยมีนายก่วน มู่ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย พลเอก อุทัย ชินวัตร ประธานกรรมการบริษัท ซีแอนด์จี เอ็นไวรอนเมนทอล โปรเท็คชั่น (ประเทศไทย) จำกัด นายเกา เหวิง ควัน ที่ปรึกษาฝ่ายการค้าและเศรษฐกิจ สถานทูตจีน ประจำประเทศไทย ผู้บริหาร กทม.และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมงาน ทั้งนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ กทม.ได้ริเริ่มให้มีโครงการเตาเผาขยะในกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ ในการบริหารจัดการขยะเขตเมืองในระยะยาว โดยใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุด ทันสมัยที่สุด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากปัจจุบัน กทม.ต้องนำขยะมูลฝอยไปกำจัดด้วยวิธีการฝังกลบในพื้นที่จังหวัดนครปฐม และจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งนอกจากจะเป็นวิธีการที่ไม่ยั่งยืนแล้ว ยังจะก่อให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและด้านการเมืองอีกด้วย ดังนั้น โครงการนำร่องเตาเผาขยะด้วยพลังงานความร้อนสูง จึงถือเป็นทางเลือกที่สำคัญ และเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก อาทิ ญี่ปุ่นที่มีโรงงานเตาเผาขยะอยู่ใกล้พระราชวังหลายแห่ง จีน และประเทศในแถบยุโรป นอกจากนี้ พลังงานจากเตาเผาขยะสามารถนำไปใช้ผลิตไฟฟ้า อีกทั้งส่วนที่เหลือจากการเผาไหม้ขยะสามารถนำไปแปรรูปเป็นวัสดุก่อสร้างได้อีกด้วย โดยโครงการดังกล่าวจะเริ่มในเร็วๆ นี้ และใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างรวม 700 วัน อย่างไรก็ตาม กทม.ได้เน้นให้ผู้รับผิดชอบโครงการสร้างความมั่นใจและตระหนักถึงความสำคัญของประชาชนและชุมชนโดยรอบโครงการ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าทางโครงการ มีการจ้างคนไทย 80 คน พร้อมทั้งจัดส่งเข้ารับการฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีการจัดการมูลฝอยพลังงานความร้อนสูง ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่สำคัญและเป็นประโยชน์กับประเทศไทย และกรุงเทพมหานคร ในอนาคต พร้อมกันนี้ ยังได้ก่อตั้งมูลนิธิรักกันเราทำได้ เพื่อให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนประชาชนและชุมชนโดยรอบโครงการ อีกด้วย

“ถือว่าฝันของผมเป็นจริงอีกครั้งนับแต่ที่ได่้หาเสียงเลือกตั้งเมื่อเกือบ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งนับแต่ตนได้เข้ามารับตำแหน่งก็ได้พยายามดำเนินการคัดเลืือกเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ทันสมัยที่สุด แต่เนื่องจากเกิดวิกฤตการเมืองปี 2552-2553 และเกิดน้ำท่วมใหญ่ 2554 หลายสิ่งหลายอย่างทำให้ล่าช้่า แต่วันนี้ดีใจืั้ซีแอนด์จีได้เสนอเทคโนโลยี และการลงทุนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการนำร่องการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของ กทม.ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้ฝันของผมเป็นจริง และ กทม.ได้รับการพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้องเยี่ยงอารยประเทศต่อไป”

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน กทม.มีมูลฝอยที่ต้องกำจัด 8,700-9,700 ตัน/วัน โดยใช้วิธีการฝังกลบอย่างถูกสุขลักษณะร้อยละ 88 และนำไปทำเป็นปุ๋ยร้อยละ 12 ซึ่งเป็นการฝังกลบนอกเขตกรุงเทพมหานคร ทำให้เกิดปัญหามลพิษในด้านการขนส่ง และไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนในพื้นที่ ดังนั้น กทม.จึงได้ลงนามสัญญาจ้างบริษัท ซีแอนด์จี เอ็นไวรอนแมนทอล โปรเทคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนอย่างเป็นทางการ เป็นผู้ลงทุนก่อสร้างและเดินระบบเตาเผาขยะมูลฝอยขนาด 300-500 ตัน/วัน ณ ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยหนองแขม ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในการบริหารจัดการขยะแทนการฝังกลบ โดยจะติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งบริหารจัดการโรงงานเป็นระยะเวลา 20 ปี จากนั้นจึงจะโอนให้กทม.ดำเนินการบริหารจัดการต่อไป ทั้งนี้ เตาเผาขยะดังกล่าวจะไม่ก่อให้เกิดมลพิษ เนื่องจากมีระบบกำจัดมลพิษต่างๆ ตามหลักสุขาภิบาล ไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งได้มาตรฐานการกำจัดมลพิษทางอากาศตามกฎหมายกำหนด ซึ่งในส่วนของการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมนั้น ได้ดำเนินการจ้างที่ปรึกษา บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมนเจเมนท์ จำกัด เป็นผู้จัดทำการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE) ด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และการประเมินมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย (EAS) แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 21 ก.ย.2555 ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีกลุ่มชาวบ้านย่านหนองแขม มาชุมนุมคัดค้านการสร้างโรงเผาขยะดังกล่าว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า มีชาวบ้านมาประมาณ 100 คน ซึ่งก็เข้าใจปัญหา แต่ก็ต้องถือว่าผ่าน เพราะได้มีการทำประชาพิจารณ์เรียบร้อยแล้ว ก็ขอให้ประชาในพื้นที่และโดยรอบมีความมั่นใจได้ ซึ่งตนเองได้แนะนำใหมีการเอาน้ำที่ได้รับการบำบัดแล้วมาใส่บ่อเลี้ยงปลาคาร์ฟ ซึ่งต้องอยู่ในน้ำที่สะอาดและมีออกซิเจนจำนวนมาก รวมทั้งมีการตรวจสอบสภาพอากาศจาก กทม.และองค์กรที่สามอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น