พบทรัพย์สิน “ภาวนา ชนะจิต” หลายร้อยล้าน! ตร.เค้นคนใกล้ชิดหนัก-ญาติไม่เชื่อจมน้ำตายเอง

นครปฐม - ตำรวจนครปฐมเค้นคนใกล้ชิด “ภาวนา” หนัก นำเจ้าหน้าที่วิทยาการฯ ตรวจสอบบ้านพัก พบทรัพย์สินมหาศาลหลายร้อยล้าน ผบก.นครปฐม เผยญาติของ “ภาวนา” สงสัยการเสียชีวิตไม่น่าจะเป็นอุบัติเหตุ ตำรวจรอผลการผ่าชันสูติศพของสถาบันนิติเวชพรุ่งนี้

วันนี้ (10 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการเสียชีวิตของ “ภาวนา ชนะจิต” หรือ อรัญญาภรณ์ เหล่าแสงทอง อายุ 69 ปี อดีตดาราดังเจ้าของฉายาไข่มุกเอเชีย จมน้ำเสียชีวิตในบ่อน้ำหลังบ้านเลขที่ 44/42 ม.1 ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม โดยตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุจนเป็นสาเหตุของการจมน้ำตายเสียชีวิตในบ้านพัก

ต่อมาในช่วงสายของวันนี้ พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.7 ร่วมลงพื้นที่ในการคลี่คลายคดี โดยมี พล.ต.ต.เพชรรัตน์ แสงไชย ผบก.ภ.จว.นครปฐม นำทีมในการตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตของอดีตดาราดังโดยมี พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ สกุลวิวรรธน์ ผกก.สภ.นครชัยศรี พร้อมชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่วิทยาการเขต 15 กองวิทยาการ 1 สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุในบ้านพัก บนพื้นที่ 16 ไร่ ใกล้กับพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งริมถนนบรมราชชนนี ซึ่งพบว่าภายในมีสิ่งปลูกสร้างหลายหลัง และยังมีทรัพย์สินอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น รถยนต์ทั้งเก่าและใหม่ราว 20 คัน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายณัฐพงษ์ หลวงศิริกุล อายุ 57 ปี ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวเข้ามาเพื่อตรวจสอบภายในบ้านพัก ขณะที่เจ้าตัวนั้แสดงท่าทีห่วงทรัพย์สินภายในบ้าน โดยไม่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเพียงลำพังและอนุญาตให้ญาติของนางภาวนา ชนะจิต 3 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการอีก 3 นายเข้าตรวจสอบในบ้าน โดยมีทั้งยาประเภทต่างๆ ที่ผู้ตายใช้กินอยู่เป็นประจำ หลักฐานเอกสารต่างๆ ที่ครอบครอง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปยังสถานที่ต่างๆ ที่นายณัฐพงษ์ได้อ้างว่าไปกับนางภาวนาก่อนจะมาเสียชีวิตในเวลา 23.00 น.ก่อนมีการแจ้งว่านางภาวนาหายไป

ทั้งนี้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนจมน้ำภายในบ้านพักหลังดังกล่าวทราบว่า ในช่วงเวลารับแจ้งเหตุเป็นเวลาประมาณ 23.00 น.เศษ ทางญาติของภาวนา ชนะจิต ผู้ตาย มีนายอภิชา เหล่าแสงทอง อายุ 21 ปี บุตรชายบุญธรรม ได้แจ้งมาว่านางภาวนาได้หายออกจากบ้านพักและคาดว่าน่าจะจมน้ำในบ้านจึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตู้พักสายตรวจขุนแก้วเข้าไปงมน้ำในบ่อเลี้ยงปลาซึ่งมี 2 บ่อติดกัน แต่เมื่อช่วยกันงมเพียง 30 นาทีในบ่อที่ 1 พบว่านายณัฐพงษ์ สามีของผู้ตายได้กลับเข้ามาที่บ้านและแสดงอาการไม่พอใจพร้อมกับพยายามไล่เจ้าหน้าที่ออกจากบ้าน ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันน้องสาวของผู้ตายได้แสดงตัวบอกว่าเป็นผู้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ ขณะที่ญาติของผู้ตายได้มีปากเสียงกันในบ้าน

จากนั้นนายณัฐพงษ์ได้พกปืนออกมาทำให้เจ้าหน้าที่ได้ออกมากันทั้งหมดจากบ้านหลังดังกล่าว ไม่นานก็พบมีเสียงปืนดังออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว ทราบต่อมาคือ นายณัฐพงษ์ ได้เป็นผู้ยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อแสดงความไม่พอใจญาติและเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปในบ้านพัก

จากนั้นเวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าให้เข้ามารับศพของภาวนาในบ้านหลังเดิม แต่คราวนี้เมื่อไปถึงพบว่ามีการนำศพของภาวนาที่สวมเสื้อเชิ้ตสีดำคลุมทับด้วยเสื้อลายสกอตสีแดง กางเกงขาสั้นเท่าเข่าสีดำลายดอก นอนเสียชีวิตอยู่ริมบ่อเลี้ยงปลาบ่อที่ 1 โดยพบรองเท้าของผู้ตายลอยอยู่ในน้ำและแจ้งว่าทางนายณัฐพงษ์เป็นผู้พบศพและนำขึ้นมาจากบ่อเลี้ยงปลาเอง

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพบประเด็นที่น่าสงสัยในตัวของนายณัฐพงษ์ จึงได้เชิญตัวไปสอบปากคำ พร้อมกับผู้ที่อยู่ในรั้วบ้านเพื่อหาข้อมูลการเสียชีวิตที่แน่ชัด พร้อมส่งศพของภาวนาไปผ้าชันสูตรที่สถาบันนิติเวช คาดว่าพรุ่งนี้จึงจะทราบผล

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดูกล้องวงจรปิดภายในบ้านพัก พบว่า กล้องวงจรปิดที่มีอยู่ 7 ตัวในบ้านได้จับภาพของนายณัฐพงษ์ช่วงที่หยิบปืนออกมาได้ แต่เมื่อสอบถามก็ยังให้การวกวนไปมาอ้างว่าเสียงปืนที่ดังขึ้นนั้นเป็นเสียงของปืนแก๊ปและปืนนั้นได้ให้เด็กในบ้านเอาไปซ่อม และให้การจนหลายคนงงไปตามๆ กัน

พล.ต.ต.เพชรรัตน์ แสงไชย ผบก.ภ.จว.นครปฐม เปิดเผยเพียงว่า ตอนนี้ญาติของภาวนาสงสัยว่าการเสียชีวิตนั้นไม่น่าจะเป็นอุบัติเหตุ ทางตำรวจจึงได้นำหลักฐานพยานแวดล้อมต่างๆ มาทำการรวบรวมและประมวลหาข้อเท็จจริง ตอนนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใคร และต้องรอผลการชันสูติของสถาบันนิติเวชด้วย ขั้นนี้ตำรวจจึงได้ทำหน้าที่ในการเก็บหลักฐานต่างๆ ไว้ก่อนและต้องขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานสักระยะน่าจะมีข้อมูลที่ชัดเจน

โดยจากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า นางภาวนาได้อาศัยในบ้านหลังดังกล่าวกับนายณัฐพงษ์มากว่า 10 ปี โดยดูจากภายนอกพบว่าที่ดินและสิ่งก่อสร้างนั้นน่าจะมีราคาประมาณหลายร้อยล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นคนที่มีฐานะดีคนหนึ่ง โดยข้อมูลที่นายณัฐพงษ์ได้ให้ไว้อีกประเด็นคือ เมื่อวานนี้ได้มีการออกไปกับนางภาวนาเพื่อจะเปิดร้านอาหารหรูที่ย่านอ้อมน้อย ในช่วงปลายปีนี้ ก่อนจะมาเกิดเหตุเสียชีวิตปริศนาเสียก่อน