น้ำยังไหลท่วมพื้นที่ชลบุรี ชาวบ้านเร่งนำถุงทรายกั้น-ขนของหนีอลหม่าน

ศูนย์ข่าวศรีราชา - น้ำยังไหลทะละกเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดชลบุรีต่อเนื่อง ชาวบ้านต้องเร่งนำถุงทรายกั้นน้ำ และขนของหนีน้ำกันอย่างอลหม่าน

วันนี้ (20 ก.ย.) จากเหตุการณ์น้ำท่วม จ.ชลบุรี เป็นวันที่ 4 โดยจังหวัดชลบุรีประกาศให้ 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.บ่อทอง อ.เกาะจันทร์ อ.พนัสนิคม และ อ.พานทอง เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ระดับ 5 ซึ่งฝนยังคงตกระหน่ำลงในพื้นที่ อ.บ่อทอง และ อ.เกาะจันทร์ อย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลบ่าเข้า อ.พนัสนิคม และ อ.พานทอง มีปริมาณน้ำท่วมสูงระดับ 50-100 เซนติเมตร โดยไหลเข้าท่วมไร่นากว่า 1,000 ไร่ จมบาดาล

บ่อเลี้ยงปลาเพื่อจำหน่ายแตก 30 บ่อ ถนนสายหลัก และรองเสียหายกว่า 30 สาย คอสะพานถูกน้ำกัดเซาะอีก 4 สะพาน บ้านเรือนกว่า 200 หลังคาเรือน และประชาน กว่า 600 คนถูกตัดขาด โดยน้ำยังท่วมถนนสายหลัก เส้นทาง อ.พนัสนิคม-จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้การจราจรค่อนข้างช้า

นอกจากนี้ น้ำเริ่มไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขต ต.ไร่หลักทอง ต.วัดโบสถ์ ของ อ.พนัสนิคม จนโรงเรียนต่างๆ ต้องอนุญาตให้เด็กนักเรียนที่ไม่สามารถมาเรียนหยุดเรียนได้ โดยไม่ถือว่าขาดเรียน และเด็กนักเรียนก็ไปช่วยชาวบ้านขนย้ายข้าวของเครื่องใช้หนีน้ำ และยังช่วยกันนำกระสอบทรายมากั้นน้ำ บางครอบครัวพากันขนย้ายข้าวของออกมาตั้งเต็นท์กันตามริมทางข้างถนนสายรองกันแล้ว

ขณะนี้พบว่า บ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 200 หลังคาเรือน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนถึง 600 คน ซึ่งขาดแคลนอาหาร และยารักษาโรค ซึ่งญาติพี่น้องที่อยู่ใกล้เคียงต้องไปตกปลาบ้าง ทำอาหารมาส่งให้ ทางจังหวัดชลบุรีส่งถุงยังชีพ ยารักษาโรคไปแจกจ่าย พร้อมนำแพทย์และพยาบาลจาก รพ.ต่างๆ ผลัดเปลี่ยนกันเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น

ด้านนายมุรธาธีร์ รักชาติเจริญ นายอำเภอพานทอง กล่าวว่า ตนจ้างเรือติดตั้งเครื่องดันน้ำขนาดใหญ่ 2 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำที่บริเวณชลประทานคลองน้ำเค็ม เพื่อเร่งผลักน้ำไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกงอย่างเร่งด่วน โดยยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าน้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อไหร่ เนื่องจากปริมาณที่ไหลบ่าจาก อ.บ่อทอง และ อ.เกาะจันทร์ เข้ามาที่ อ.พนัสนิคม และ อ.พานทอง มีปริมาณน้ำมากกว่าทุกปีที่ผ่านมาอีกด้วย