โรงเรียนดังห่วงเกณฑ์ขั้นต่ำ 2.00 รับเด็กได้ไม่หมด ขณะที่ สพฐ.แจงกำหนดเพื่อความเป็นธรรม และไม่เกิดคำถามจากพ่อแม่ในอนาคต ย้ำ ผ่านการสอบถามความคิดเห็นและชี้แจง กมธ.ศึกษาแล้ว
นายเชิดศักดิ์ ศุภโสภณ ผู้อำนวยการโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ออกประกาศนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน สังกัด สพฐ.ปีการศึกษา 2556 ว่า สำหรับในปีการศึกษา 2556 นั้น โรงเรียนสวนกุหลาบฯ จะใช้หลักเกณฑ์เดิมในการคัดเลือกเข้าเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษา (ม.) ปีที่ 1 และ ม.4 คือ ใช้คะแนนสอบ 80% และคะแนนทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (O-Net) 20% โดย ม.1 รับในเขตพื้นที่บริการ 50% นอกพื้นที่ 50% ขณะที่นักเรียนชั้น ม.3 เดิมที่จะเลื่อนขึ้น ม.4 นั้น คิดว่า จะสามารถรับได้ทั้งหมด 100% เพราะทางโรงเรียนมีนักเรียนชั้น ม.3 น้อยกว่า ม.4 อยู่แล้ว และเชื่อว่า นักเรียนบางส่วนน่าจะไปสอบเรียนต่อโรงเรียนอื่น ดังนั้น จึงมีที่ว่างเหลือพอแน่นอน
สำหรับมาตรการป้องกันเด็กฝากนั้น โดยทั่วไปโรงเรียนจะต้องยึดตามเกณฑ์ของ สพฐ.อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเกณฑ์เงื่อนไขพิเศษต่างๆ อาทิ ผู้มีอุปการคุณ นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ นักกีฬา ซึ่งทั้งหมดต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการรับนักเรียนของโรงเรียน และผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ซึ่งตนอยากให้ทุกโรงเรียนปฏิบัติให้ถูกต้อง โดยควรจะสื่อสารทำความเข้าใจถึงหลักเกณฑ์ต่างๆ ให้ผู้ปกครองทราบล่วงหน้า ว่า จำนวนนักเรียนมีเท่าไหร่ สามารถรับได้เท่าไหร่ เพื่อจะได้ไม่ต้องเกิดปัญหา ถ้าไม่สามารถรับเด็ก ม.3 โรงเรียนเดิมเข้าเรียนชั้น ม.4 ได้ทั้งหมด
“ที่ผ่านมา ทางโรงเรียนต่างๆ มีข้อห่วงใยหลักเกณฑ์การรับนักเรียนชั้น ม.3 ขึ้น ม.4 ให้พิจารณาคัดเลือกนักเรียนชั้น ม.3 ที่มีศักยภาพเหมาะสมจากผลการเรียนเฉลี่ย 5 ภาคเรียน ไม่ต่ำกว่า 2.00 จะเกิดปัญหา เพราะโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูงส่วนใหญ่จะมีแต่เด็กเก่ง และเด็กเหล่านี้จะได้เกรดเฉลี่ยเกิน 2.00 อยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าโรงเรียนไม่สามารถรับเด็ก ม.3 เดิมขึ้น ม.4 ได้หมด ก็อาจจะถูกผู้ปกครองร้องเรียนได้ เท่าที่ทราบคิดว่า ทาง กพฐ.ก็เคยท้วงติงกรณีดังกล่าวแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทางโรงเรียนคงต้องเตรียมแผนรับให้สมดุลเพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหา” นายเชิดศักดิ์ กล่าว
ด้าน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า เชื่อว่า การรับนักเรียนปีการศึกษา 2556 จะไม่มีปัญหารับฝากเด็กเพื่อแลกที่นั่งเรียนแน่นอน เพราะการรับนักเรียนจะต้องเป็นไปตามกติกาที่ สพฐ.กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม เกณฑ์การรับ ม.3 เดิมขึ้น ม.4 โดยกำหนดเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำไว้ที่ 2.00 นั้น ได้ผ่านการหารือร่วมกับหลายหน่วยงานแล้ว รวมถึงได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการศึกษา ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำในการเข้าเรียนไว้เพื่อความเป็นธรรม และผู้ปกครองจะได้ไม่เกิดข้อสงสัยว่า ทำไม่ลูกได้เกรด 2.7 ถึงไม่ได้เข้าเรียนต่อโรงเรียนเดิม ดังนั้น สพฐ.จึงประกาศเกณฑ์ขั้นต่ำ เพราะถ้าเด็กได้เกรดเฉลี่ยที่ 2.00 ก็ควรได้เรียนต่อโรงเรียนเดิม
“กรณีโรงเรียนดังห่วงว่า จะไม่สามารถรับเด็ก ม.3 เดิมเข้าเรียนได้ทั้งหมดนั้น ที่ผ่านมา สพฐ.ได้ให้โรงเรียนไปจัดทำแผนการรับนักเรียน โดยประเมินศักยภาพนักเรียนชั้น ม.3 ที่มีอยู่ ว่า จะสามารถเรียนต่อชั้น ม.4 ได้กี่คน และจากนั้นค่อยนำมาทำแผนรับนักเรียน ให้เกิดความสมดุล” นายชินภัทร กล่าว
นายเชิดศักดิ์ ศุภโสภณ ผู้อำนวยการโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ออกประกาศนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน สังกัด สพฐ.ปีการศึกษา 2556 ว่า สำหรับในปีการศึกษา 2556 นั้น โรงเรียนสวนกุหลาบฯ จะใช้หลักเกณฑ์เดิมในการคัดเลือกเข้าเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษา (ม.) ปีที่ 1 และ ม.4 คือ ใช้คะแนนสอบ 80% และคะแนนทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (O-Net) 20% โดย ม.1 รับในเขตพื้นที่บริการ 50% นอกพื้นที่ 50% ขณะที่นักเรียนชั้น ม.3 เดิมที่จะเลื่อนขึ้น ม.4 นั้น คิดว่า จะสามารถรับได้ทั้งหมด 100% เพราะทางโรงเรียนมีนักเรียนชั้น ม.3 น้อยกว่า ม.4 อยู่แล้ว และเชื่อว่า นักเรียนบางส่วนน่าจะไปสอบเรียนต่อโรงเรียนอื่น ดังนั้น จึงมีที่ว่างเหลือพอแน่นอน
สำหรับมาตรการป้องกันเด็กฝากนั้น โดยทั่วไปโรงเรียนจะต้องยึดตามเกณฑ์ของ สพฐ.อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเกณฑ์เงื่อนไขพิเศษต่างๆ อาทิ ผู้มีอุปการคุณ นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ นักกีฬา ซึ่งทั้งหมดต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการรับนักเรียนของโรงเรียน และผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ซึ่งตนอยากให้ทุกโรงเรียนปฏิบัติให้ถูกต้อง โดยควรจะสื่อสารทำความเข้าใจถึงหลักเกณฑ์ต่างๆ ให้ผู้ปกครองทราบล่วงหน้า ว่า จำนวนนักเรียนมีเท่าไหร่ สามารถรับได้เท่าไหร่ เพื่อจะได้ไม่ต้องเกิดปัญหา ถ้าไม่สามารถรับเด็ก ม.3 โรงเรียนเดิมเข้าเรียนชั้น ม.4 ได้ทั้งหมด
“ที่ผ่านมา ทางโรงเรียนต่างๆ มีข้อห่วงใยหลักเกณฑ์การรับนักเรียนชั้น ม.3 ขึ้น ม.4 ให้พิจารณาคัดเลือกนักเรียนชั้น ม.3 ที่มีศักยภาพเหมาะสมจากผลการเรียนเฉลี่ย 5 ภาคเรียน ไม่ต่ำกว่า 2.00 จะเกิดปัญหา เพราะโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูงส่วนใหญ่จะมีแต่เด็กเก่ง และเด็กเหล่านี้จะได้เกรดเฉลี่ยเกิน 2.00 อยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าโรงเรียนไม่สามารถรับเด็ก ม.3 เดิมขึ้น ม.4 ได้หมด ก็อาจจะถูกผู้ปกครองร้องเรียนได้ เท่าที่ทราบคิดว่า ทาง กพฐ.ก็เคยท้วงติงกรณีดังกล่าวแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทางโรงเรียนคงต้องเตรียมแผนรับให้สมดุลเพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหา” นายเชิดศักดิ์ กล่าว
ด้าน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า เชื่อว่า การรับนักเรียนปีการศึกษา 2556 จะไม่มีปัญหารับฝากเด็กเพื่อแลกที่นั่งเรียนแน่นอน เพราะการรับนักเรียนจะต้องเป็นไปตามกติกาที่ สพฐ.กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม เกณฑ์การรับ ม.3 เดิมขึ้น ม.4 โดยกำหนดเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำไว้ที่ 2.00 นั้น ได้ผ่านการหารือร่วมกับหลายหน่วยงานแล้ว รวมถึงได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการศึกษา ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำในการเข้าเรียนไว้เพื่อความเป็นธรรม และผู้ปกครองจะได้ไม่เกิดข้อสงสัยว่า ทำไม่ลูกได้เกรด 2.7 ถึงไม่ได้เข้าเรียนต่อโรงเรียนเดิม ดังนั้น สพฐ.จึงประกาศเกณฑ์ขั้นต่ำ เพราะถ้าเด็กได้เกรดเฉลี่ยที่ 2.00 ก็ควรได้เรียนต่อโรงเรียนเดิม
“กรณีโรงเรียนดังห่วงว่า จะไม่สามารถรับเด็ก ม.3 เดิมเข้าเรียนได้ทั้งหมดนั้น ที่ผ่านมา สพฐ.ได้ให้โรงเรียนไปจัดทำแผนการรับนักเรียน โดยประเมินศักยภาพนักเรียนชั้น ม.3 ที่มีอยู่ ว่า จะสามารถเรียนต่อชั้น ม.4 ได้กี่คน และจากนั้นค่อยนำมาทำแผนรับนักเรียน ให้เกิดความสมดุล” นายชินภัทร กล่าว