กทม.สั่ง 50 เขต เตรียมพร้อมรับมือฝนระลอกใหม่ 15-20 ต.ค.นี้ ทยอยติดตั้งประตูกันน้ำไหลย้อนตามท่อระบายน้ำที่มีฝาปิดตามถนน พร้อมเร่งส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้ ปภ.อนุมัติจ่ายเงินจ่ายเงินน้ำท่วมที่ยังตกค้าง
นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.เกี่ยวกับความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ผู้ว่าฯ กทม.ได้สั่งการให้ทุกสำนักงานเขตยังคงเตรียมพร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วม เพื่อสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชน แม้ว่าขณะนี้ปริมาณน้ำฝนเริ่มเบาบางลงแล้ว โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์สภาพอากาศใน 7 วันข้างหน้า ว่า ในช่วงวันที่ 15-20 ต.ค.2555 จะมีบริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้น อุณหภูมิจะลดลง โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้ผลกระทบในระยะต่อไป กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
สำหรับภาพรวมการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำดำเนินการไปแล้วร้อยละ 99.5 การขุดลอกคูคลองในพื้นที่ 18 เขตเร่งด่วน จำนวน 644 คลอง ความยาวรวม 988 กิโลเมตร คืบหน้าไปร้อยละ 97 ด้านสถานการณ์น้ำในเขื่อนขณะนี้เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำร้อยละ 63 และ 69 ตามลำดับ
นายวสันต์ ยังกล่าวถึงปัญหากระสอบทรายอุดท่อระบายน้ำว่า ขณะนี้กทม.ได้ทยอยนำกระสอบทรายในบางพื้นที่ออกแล้ว โดยเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ได้ทำความเข้าใจกับวิธีการป้องกันพื้นที่น้ำท่วมด้วยกระสอบทราย พร้อมทั้งกล่าวชื่นชมวิธีการบริหารจัดการน้ำของกรุงเทพฯ และได้พิจารณาแผนระยะยาวที่จะนำ Flap Gate หรือประตูกันน้ำไหลย้อนกลับมาติดตั้งตามท่อระบายน้ำที่มีฝาปิดตามถนน (Manhole) แทนการใช้กระสอบทราย ซึ่ง กทม.ได้เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้ว และจะทยอยติดตั้งเพิ่มเติมให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด โดยรัฐบาลจะให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการปรับปรุงระบบระบายน้ำของกทม.เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวต้องใช้งบประมาณสูง ประกอบกับท่อระบายน้ำของกทม.มีอายุการใช้งานมานาน จึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงระบบระบายน้ำของ กทม.ให้มีศักยภาพมากขึ้น
ส่วนความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประภัยน้ำท่วมนั้น นายวสันต์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ตามที่ ปภ.ได้ทำหนังสือขอข้อมูลเพิ่มเติมจากกทม. โดยกทม.ยินดีให้ความร่วมมือในการจัดส่งข้อมูลต่างๆ ที่ ปภ.ได้ร้องขอ เพื่อให้รัฐบาลอนุมัติวงเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีอุทกภัย) เพิ่มเติม จำนวน 1,142,979,400 บาท เพื่อนำมาใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยฯ เช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆ
นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.เกี่ยวกับความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ผู้ว่าฯ กทม.ได้สั่งการให้ทุกสำนักงานเขตยังคงเตรียมพร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วม เพื่อสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชน แม้ว่าขณะนี้ปริมาณน้ำฝนเริ่มเบาบางลงแล้ว โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์สภาพอากาศใน 7 วันข้างหน้า ว่า ในช่วงวันที่ 15-20 ต.ค.2555 จะมีบริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้น อุณหภูมิจะลดลง โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้ผลกระทบในระยะต่อไป กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
สำหรับภาพรวมการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำดำเนินการไปแล้วร้อยละ 99.5 การขุดลอกคูคลองในพื้นที่ 18 เขตเร่งด่วน จำนวน 644 คลอง ความยาวรวม 988 กิโลเมตร คืบหน้าไปร้อยละ 97 ด้านสถานการณ์น้ำในเขื่อนขณะนี้เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำร้อยละ 63 และ 69 ตามลำดับ
นายวสันต์ ยังกล่าวถึงปัญหากระสอบทรายอุดท่อระบายน้ำว่า ขณะนี้กทม.ได้ทยอยนำกระสอบทรายในบางพื้นที่ออกแล้ว โดยเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ได้ทำความเข้าใจกับวิธีการป้องกันพื้นที่น้ำท่วมด้วยกระสอบทราย พร้อมทั้งกล่าวชื่นชมวิธีการบริหารจัดการน้ำของกรุงเทพฯ และได้พิจารณาแผนระยะยาวที่จะนำ Flap Gate หรือประตูกันน้ำไหลย้อนกลับมาติดตั้งตามท่อระบายน้ำที่มีฝาปิดตามถนน (Manhole) แทนการใช้กระสอบทราย ซึ่ง กทม.ได้เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้ว และจะทยอยติดตั้งเพิ่มเติมให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด โดยรัฐบาลจะให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการปรับปรุงระบบระบายน้ำของกทม.เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวต้องใช้งบประมาณสูง ประกอบกับท่อระบายน้ำของกทม.มีอายุการใช้งานมานาน จึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงระบบระบายน้ำของ กทม.ให้มีศักยภาพมากขึ้น
ส่วนความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประภัยน้ำท่วมนั้น นายวสันต์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ตามที่ ปภ.ได้ทำหนังสือขอข้อมูลเพิ่มเติมจากกทม. โดยกทม.ยินดีให้ความร่วมมือในการจัดส่งข้อมูลต่างๆ ที่ ปภ.ได้ร้องขอ เพื่อให้รัฐบาลอนุมัติวงเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีอุทกภัย) เพิ่มเติม จำนวน 1,142,979,400 บาท เพื่อนำมาใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยฯ เช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆ