xs
xsm
sm
md
lg

รัฐสภาเตรียมเปิดร้านอาหารสุขภาพต้นแบบ ลดอ้วน ส.ส.-ส.ว.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รัฐสภาเตรียมผุดร้านอาหารสุขภาพต้นแบบ ส่งเสริม ส.ส.-ส.ว.ดูแลสุขภาพตัวเองอย่าพึ่งแต่หมอ หลังพบคนไทยเป็นโรคอ้วนติดอันดับ 5 เอเชียแปซิฟิก เสี่ยง 5 โรคเรื้อรัง ด้าน กทม.ขานรับโครงการ “มหานครแห่งสุขภาพ” ชู 3 อ. อาหาร ออกกำลัง อารมณ์ เล็งขยายร้านต้นแบบ 4 พื้นที่ กทม.ก่อนกระจายทั่วเมือง
นิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา (แฟ้มภาพ)
วันนี้ (11 ต.ค.) นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กล่าวระหว่างแถลงข่าวโครงการ “ร้านอาหารรัฐสภาต้นแบบสร้างเสริมสุขภาพ” ซึ่งจัดโดยวุฒิสภา ร่วมกับองค์กรต่างๆ อาทิ กรุงเทพมหานคร (กทม.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สมาคมภัตตาคารอาหารไทย และเครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย เพื่อรณรงค์และส่งเสริมการให้ ส.ส. ส.ว.และข้าราชการรัฐสภา ได้มีความรู้ด้านโภชนาการอย่างเหมาะสม และถูกหลักโภชนาการ พร้อมทั้งสร้างค่านิยมและพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ว่า คนไทยประสบปัญหาสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะโรคอ้วนลงพุง ซึ่งส่งผลให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมา เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น โดยโรคเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขและคุณภาพของคนไทย ดังนั้น จึงได้มีนโยบายส่งเสริมให้สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และบุคลากรในรัฐสภา ได้รับความรู้ที่ถูกต้อง เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีในการดูแลสุขภาพตนเอง โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและออกกำลังกายอย่างถูกวิธี เหมาะสม และต่อเนื่อง

โครงการร้านอาหารรัฐสภาต้นแบบสร้างเสริมสุขภาพ เป็นการรณรงค์และส่งเสริมให้ความรู้ด้านโภชนาการแก่ผู้ที่เข้ามารับประทานอาหาร และเพิ่มทางเลือกในการบริโภคอาหารสุขภาพ สะอาด ปลอดภัย ลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและโรคทางเดินอาหาร โดยใช้ร้านอาหารของรัฐสภาเป็นต้นแบบการส่งเสริมสุขภาพด้านโภชนาการ ทั้งด้านอาหารปลอดภัย โรงครัวมาตรฐานกรมอนามัย โรงอาหารมาตรฐาน ร้านอาหารสะอาดรสชาติอร่อย เมนูชูสุขภาพ” ประธานวุฒิสภา กล่าว

นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล นายกสโมสรรัฐสภา กล่าวว่า ที่ผ่านมา สโมสรรัฐสภาได้ร่วมกับ สสส.จัดกิจกรรมที่มีประโยชน์หลายโครงการ เพราะอยากเห็น ส.ส. ส.ว.และข้าราชการรัฐสภาได้คำนึงถึงความสำคัญของสุขภาพตัวเอง นอกจากการพึ่งแต่ทางการแพทย์เท่านั้น เนื่องจากโรคที่ประชากรโลกกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ไม่ใช่โรคระบาดร้ายแรงหลายโรคเหมือนในอดีต แต่เป็นโรคไม่ติดต่อ เช่น ความดัน เบาหวาน โรคหัวใจ หลอดเลือดหัวใจตีบตัน ซึ่งล้วนมาจากโรคอ้วน โดยประชากรโลกมีอัตราอ้วนสูงมาก และนำมาสารพัดโรค ซึ่งวิธีการแก้ไขนอกจากทางการแพทย์แล้ว คือ การต้องช่วยตัวเอง เช่น ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ โดยทางสโมสรรัฐสภาจะเป็นต้นแบบการส่งเสริมสุขภาพด้านโภชนาการ ทั้งด้านอาการปลอดภัย โรงครัวตามมาตรฐานกรมอนามัย และจัดจำหน่ายให้กับสมาชิกทุกคน รวมไปถึงการร่วมจัดกิจกรรมกับสสส.ในโครงการต่างๆ เช่น โครงการออกกำลังกายด้วย

นพ.สามารถ ตันอริยกุล รักษาการผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม.กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ “มหานครแห่งสุขภาพ” ปลูกฝังให้ประชาชนมีความรู้ทางโภชนาการ ภายใต้หลัก 3 อ.ได้แก่ 1.อาหาร ที่มีประโยชน์ในปริมาณเพียงพอ เหมาะสมกับร่างกายและวัย 2.ออกกำลังกาย ที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอเสริมสร้างร่างกายและสร้างภูมิคุ้มกัน และ 3.อารมณ์ ที่เน้นทำกิจกรรมสร้างความสุข สดชื่น แจ่มใส ให้จิตใจเข้มแข็ง มีสติและมีสมาธิ ซึ่งจะสร้างสุขภาพกาย ใจ และห่างไกลโรคได้ ส่วนร้านอาหารส่งเสริมสุขภาพในเขตพื้นที่นำร่องของกรุงเทพฯ 4 เขต ได้แก่ เขตบางรัก เขตราชเทวี เขตภาษีเจริญ และเขตหนองแขม ก่อนขยายไปพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ

ด้าน ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส.กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดจากการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) พบว่า 3 ใน 10 ของผู้ชายไทย และ 4 ใน 10 ของผู้หญิงไทย อยู่ในเกณฑ์อ้วน ซึ่งเพิ่มขึ้นเฉลี่ย ร้อยละ 10 ส่งผลให้คนไทยอายุ 15 ปี ขึ้นไปเป็นโรคอ้วน ติดอันดับ 5 ของเอเชียแปซิฟิก ถือเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และรณรงค์เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยการเลือกบริโภคอย่างถูกวิธี โดยคำนึงถึงระบบห่วงโซ่อาหาร เน้นส่งเสริมวัตถุดิบที่มาจากการผลิตและการเพาะปลูกที่ปลอดภัยสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น เพื่อให้ได้อาหารที่ดีทั้งต่อสุขภาพของผู้เพาะปลูกไปจนถึงสุขภาพของผู้บริโภค

“ร้านอาหารต้นแบบที่สโมสรรัฐสภา จะถูกปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการได้รับความรู้ด้านการบริโภคอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ โดยมีป้ายแสดงค่าพลังงานที่ได้รับจากการบริโภคอาหารแต่ละชนิด เปรียบเทียบกับการออกกำลังกาย เพื่อให้ผู้บริโภคได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกกิน และวิธีออกกำลังกาย นอกจากนี้ จะมีการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบอาหาร ให้ทราบถึงเมนูที่ถูกหลักโภชนาการ และการจัดสภาพแวดล้อมให้เกิดการบริโภคอาหารปลอดภัยด้วย” ผู้จัดการ สสส.กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น