“สุชาติ” ไปนอกฝากโผเสนอวาระจรเข้า ครม. ขณะที่ ครม.เห็นชอบโผโยกย้าย ศธ.15 ชื่อ “ศักดา” เผย ไม่รู้ล่วงหน้าโผจะเข้าสัปดาห์นี้ ระบุ เสียใจทำความเดือดร้อนให้กรรมการสอบวินัยร้ายแรงที่ตั้งมาช่วยสอบ “ศศิธารา” ขณะที่ “พินิติ” อึ้งไม่รู้ตัวถูกโยก รับทั้งชีวิต 33 ปีทำงานอุดมศึกษามาตลอด
วันนี้ (9 ต.ค.) นายศักดา คงเพชร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบตามที่ ศธ.เสนอรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 จำนวน 2 บัญชี รวม 15 ตำแหน่ง ดังนี้ บัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 จำนวน 11 ราย เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการและสับเปลี่ยนหมุนเวียน โดยบัญชีที่ 1 ได้แก่ 1.นายศุภกร วงศ์ปราชญ์ ผู้ตรวจราชการ ศธ.สำนักงานปลัดกระทรวง มาเป็น รองปลัด ศธ. 2.นางศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) มาเป็น รองปลัด ศธ. 3.นายพินิติ รตะนานุกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) มาเป็น ผู้ตรวจราชการ ศธ.4. น.ส.จิรพรรณ ปุณเกษม รองเลขาธิการสภาการศึกษา มาเป็น ผู้ตรวจราชการ ศธ.5.นายพิษณุ ตุลสุข รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) มาเป็น ผู้ตรวจราชการ ศธ.
6.นายกิตติรัตน์ มังคละคีรี ที่ปรึกษาด้านระบบการศึกษา (นักวิชาการศึกษาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา มาเป็นผู้ตรวจราชการ ศธ. 7. นางรัตนา ศรีเหรัญ ผู้ตรวจราชการ ศธ.มาเป็น เลขาธิการ ก.ค.ศ. 8.น.ส.จุไรรัตน์ แสงบุญนำ รองปลัด ศธ.มาเป็น รองเลขาธิการสภาการศึกษา 9.นางสุทธศรี วงษ์สมาน ผู้ตรวจราชการ ศธ.มาเป็น รองเลขาธิการสภาการศึกษา 10.นายกมล รอดคล้าย ผู้ตรวจราชการ ศธ.มาเป็น รองเลขาธิการ กพฐ. 11 น.ส.อาภรณ์ แก่นวงศ์ ผู้ตรวจราชการ ศธ.มาเป็นรองเลขาธิการ กกอ.
บัญชีที่ 2 การแต่งตั้งข้าราชการระดับ 9 ขึ้น 10 จำนวน 4 ราย 1.นายกมล ศิริบรรณ รองเลขาธิการ ก.ค.ศ.มาเป็น ผู้ตรวจราชการ ศธ. 2.นายธวัช ชลารักษ์ รองเลขาธิการ กศน.มาเป็น ผู้ตรวจราชการ ศธ. 3.นายโรจนะ กฤษเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) มาเป็น ผู้ตรวจราชการ ศธ. และ 4. นายวัชรินทร์ จำปี รองเลขาธิการ กศน.มาเป็น ผู้ตรวจราชการ ศธ.ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป
นายศักดา กล่าวต่อว่า ตนไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อนว่าจะมีการเสนอบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 เข้าพิจารณาในครม.สัปดาห์นี้ เพราะ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ เดินทางไปราชการที่ต่างประเทศ และเพิ่งมารู้เรื่องตอนมีการแจกวาระจรท้ายการประชุมครม. ซึ่ง ณ ตอนนั้นตนไม่มีสิทธิโต้แย้งอะไรแล้ว อย่างไรก็ตาม ศ.ดร.สุชาติ ไม่เคยปรึกษาเรื่องการโยกย้ายดังกล่าว ทั้งที่ ตนเป็นผู้ดูแลสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่มีข้าราชการเกษียณอายุ 2 ราย และยังติดปัญหาว่าคนของ สอศ.ไม่สามารถขึ้นมาเป็น รองเลขาธิการ กอศ.ได้ เพราะไม่เคยผ่านการเป็นผู้ตรวจมาก่อน แต่ตอนนี้คน สอศ.ก็ไม่สามารถเลื่อนไหลไปเป็นผู้ตรวจ ศธ.ได้ เพราะมีการแต่งตั้งผู้ตรวจราชการ ศธ.เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในนั้นไม่มีคนของ สอศ.ได้ขึ้นเป็นผู้ตรวจเลย
“ในบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้มีผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการสอบวินัยร้ายแรง น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ อดีตปลัด ศธ.2 ราย คือ นายพิษณุ และ นายกิตติรัตน์ ซึ่งกรรมการชุดนี้ตนเป็นคนแต่งตั้งเอง เมื่อคราวที่ดำรงตำแหน่งรักษาการรัฐมนตรีว่าการ ศธ.แทน ศ.ดร.สุชาติ ที่เดินทางไปราชการต่างประเทศ เพราะฉะนั้นก็เป็นกังวลใจว่า การที่ผมไปแต่งตั้งทั้งสองคนเป็นกรรมการสอบวินัย เป็นสาเหตุที่ทำให้ถูกโยกย้ายหรือไม่ อีกทั้งกังวลใจว่า เมื่อทั้ง 2 คนถูกโยกย้ายแล้วจะมีผลให้หลุดออกจากการเป็นกรรมการสอบวินัยร้ายแรงหรือไม่ ถ้ามีความจำเป็นก็จะอาศัยช่วงที่รักษาการแทน ศ.ดร.สุชาติ ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงทดแทน พร้อมทั้งเสนอตั้งกรรมการสอบครุภัณฑ์ สอศ.อีก 10 ชุด” นายศักดา กล่าว
นายศักดา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวเคยเสนอต่อ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ แล้วซึ่งทั้งสองคนเห็นชอบให้ตั้งกรรมการทั้ง 10 ชุดได้ แต่พอตนเสนอเรื่องขึ้นไปนายสุชาติกลับไม่ยอมเซ็นอนุมัติ โดยให้เหตุผลว่า ให้รอผลการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีเศษหรือดีเอสไอก่อน แต่ในการประชุม ครม.วันที่ 9 ตุลาคม ตนได้สอบถาม พลเอก ยุทธศักดิ์ อีกครั้ง และได้ ยุทธศักดิ์ ให้ตั้งได้ ดังนั้น ตนถือว่าได้ปรึกษากับผู้ใหญ่แล้ว ก็จะเร่งแต่งตั้งทั้ง 10 ชุด ในช่วงที่เป็นรักษาการ รมว.ศึกษาธิการ
ด้าน นายพินิติ กล่าวว่า ตนไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อนว่าจะถูกโยกย้าย คงต้องไปเรียนรู้งานในหน้าที่ผู้ตรวจราชการ ศธ.เพิ่มเติม เพราะในชีวิตการทำงาน 33 ปี อยู่กับอุดมศึกษา และดูแลเรื่องงานต่างประเทศมาตลอด ตอนนี้คงต้องเคลียร์งานที่รับมาล่วงหน้า ถึง 2 เดือน ก่อนย้ายมาประจำที่ ศธ.ในฐานะผู้ตรวจราชการ ซึ่งยังไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง และคงไม่คิดจะลาออกจากราชการแน่นอน เพราะอยากทำงานเพื่อการศึกษาต่อไป ส่วนเหตุผลของการโยกย้ายครั้งนี้ เชื่อว่า ศ.ดร.สุชาติ คงพิจารณาด้วยความเหมาะสมแล้ว
