ทูลกระหม่อมหญิงฯ ประทานทรัพย์ส่วนพระองค์ 80 ล้านบาท สร้าง รพ.มิราเคิล ออฟไลฟ์ “วิทยา” สนองพระดำริ จัดหน่วยพีซียูจาก รพ.ราชวิถี เปิดให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป เล็งพัฒนาบริการผ่าตัดตาและคลินิกรักษาโรคเฉพาะทางด้วย
วันนี้ (5 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นผู้แทนพระองค์ในพิธีเปิดโรงพยาบาลมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี อย่างเป็นทางการ ณ อาคารโรงพยาบาลมิราเคิล ออฟไลฟ์ ถ.ศูนย์การฝึกรถไฟ เขตจตุจักร กทม.
นายวิทยา กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของ สธ.และประชาชนชาวไทย ที่ทูลกระหม่อมทรงห่วงใยปัญหาสุขภาพชีวิตของประชาชน และมีพระดำริให้มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ สธ. และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ร่วมกันจัดสร้าง รพ.มิราเคิลออฟไลฟ์ ขนาด 2 ชั้น เพื่อให้การรักษาพยาบาลประชาชนในพื้นที่ กทม.และให้ความรู้ความเข้าใจ ให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพโดยได้ประทานทรัพย์ส่วนพระองค์ในการก่อสร้างจำนวน 80 ล้านบาท และทรงมีพระดำริให้มีการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการประชาชนในจุดที่ยากต่อเข้าถึงของหน่วยงานอื่นๆ อีกด้วย
นายวิทยา กล่าวอีกว่า สธ.ได้เร่งสนองพระดำริ โดยให้โรงพยาบาลราชวิถีเป็นหน่วยงานหลักในการจัดบริการ โดยจัดบุคลากรการแพทย์ เวชภัณฑ์ ยา และเครื่องมือแพทย์ เช่น เครื่องเอกซเรย์ เป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ หรือหน่วยพีซียู (Primary Care Unit : PCU) ของ รพ.ราชวิถี ในการตรวจรักษาประชาชนโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่อยู่ในเขตหลักสี่ ซึ่งมีประมาณ 20,000 คน และพื้นที่ใกล้เคียงมีศักยภาพเทียบเท่าศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วยโรคทั่วไป ฉีดวัคซีน ตรวจเลือดและตรวจการตั้งครรภ์ มาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาลราชวิถี หากมีผู้ป่วยฉุกเฉิน หรือจำเป็นต้องรับตัวนอนโรงพยาบาล จะส่งตัวไปที่รพ.ราชวิถี ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้รับบริการรวดเร็วขึ้นไม่ต้องไปเข้าคิวรับบริการที่โรงพยาบาลใหญ่
ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ.กล่าวว่า ขณะนี้ รพ.มิราเคิล ออฟไลฟ์ เปิดให้บริการที่ชั้น 1 มีห้องตรวจ ห้องจ่ายยา การเงิน และแผนกเวชระเบียน โดยมีรถพยาบาลฉุกเฉินประจำที่โรงพยาบาลจำนวน 2 คัน มีแพทย์และบุคลากรประจำทั้งหมดรวม 9 คน เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา ให้บริการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น.ส่วนชั้น 2 อยู่ระหว่างการพัฒนาให้เป็นห้องพักผู้ป่วยเพื่อสังเกตอาการจำนวน 3 ห้อง และห้องตรวจรักษาโรคเฉพาะทาง เช่น โรคเกี่ยวกับดวงตา โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ ยังให้เป็นศูนย์บริการให้ความรู้ ความเข้าใจ ให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพแก่ประชาชนที่ไปออกกำลังกายในบริเวณสวนวชิรเบญจทัศอีกด้วย