xs
xsm
sm
md
lg

เปิด AEC เด็กดอยเสี่ยงหลุดระบบการศึกษา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ห่วง! เปิด AEC กระทบเด็กดอยหลุดระบบการศึกษา เหตุ “ยากจน-ไอคิวต่ำ-ห่างไกลจากโรงเรียน” สคล.แนะจัดหลักสูตรแกนกลาง และเน้นสร้างทักษะอาชีพ-ทักษะชีวิต อย่างละครึ่ง

นายสมพงษ์ จิตระดับ ที่ปรึกษาคณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) กล่าวระหว่างการเสวนา “การจัดการศึกษาในพื้นที่สูงและถิ่นทุรกันดาร สุดขอบฟ้า ขุนเขา เราไปถึง” ที่ จ.เชียงใหม่ ว่า หลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 จะมีเด็กไทยได้ประโยชน์ 15-20% ขณะที่เด็กอีก 80% อยู่ในสถานการณ์เสี่ยง โดยเฉพาะเด็กด้อยโอกาสที่จะกลายเป็นเหยื่อ จึงมีความจำเป็นต้องสร้างทักษะชีวิตให้เด็ก ซึ่งการศึกษาจะช่วยลดความแตกต่างลงได้ โดยจำเป็นต้องจัดทำฐานข้อมูลและลงทะเบียนบุคคลที่สามารถตรวจสอบได้ เพื่อช่วยเหลือด้านสาธารณสุขและการศึกษา ไม่เช่นนั้นเมื่อเปิด AEC คนจะหลั่งไหลเข้ามามากขึ้น ซึ่งขณะนี้ สสค.กำลังจัดทำระบบฐานข้อมูลเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสกลุ่มต่างๆ

นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า วงจรชีวิตของเด็กด้อยโอกาสในพื้นที่สูง พบว่า หัวหน้าครอบครัวมีฐานะยากจน เพราะจบการศึกษาต่ำกว่ามัธยม และเด็กกลุ่มนี้ยังมีปัญหาทางสุขภาพ รวมถึงปัญหาการเดินทางมาโรงเรียน สุดท้ายจึงหลุดจากระบบการศึกษา ดังนั้น จึงต้องสนับสนุนให้ได้เรียนฟรี 15 ปี พร้อมทั้งอุปกรณ์ และการจัดการศึกษาในระดับอาชีวะมีความสำคัญมากสำหรับเด็กกลุ่มนี้ โดยหลักสูตรการสอน 50% เป็นหลักสูตรแกนกลาง อีก 50% ต้องเน้นทักษะอาชีพและทักษะชีวิตเพื่อการมีงานทำ เพราะเด็กกลุ่มนี้ไม่มีทางแข่งขันและกวดวิชาในเมืองได้ และไม่ควรใช้โอเน็ตเป็นตัวตัดสินการประเมินวิทยฐานะเพื่อเลื่อนขั้นครูเพียงอย่างเดียวจะอันตรายอย่างมาก เพราะการจัดการเรียนการสอนที่ต่างกันจึงไม่ควรใช้ระบบวัดจากลู่เดียว ซึ่งเป็นการทำลายลูกหลานของเราโดยไม่รู้ตัว

นายไกรยส ภัทราวาท นักวิเคราะห์นโยบายด้านการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์การศึกษา สสค. กล่าวว่า จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลวิจัยทางวิชาการของ สสค.ในปี 2554 พบว่า ปัจจุบันเรามีเด็กที่ขาดโอกาส กว่า 5 ล้านคน หรือเฉลี่ย 900 คน/ตำบล ประกอบด้วย เด็กยากจน 3 ล้านคน พิการ 1.7 ล้านคน และอยู่ในพื้นที่ห่างไกลอีกหลายแสนคน เป็นต้น หากไม่มีการแก้ปัญหาเด็กด้อยโอกาส จะส่งผลให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ ถึงปีละ 12,000 ล้านบาท/จังหวัด คำนวณจากรายได้ที่สูญเสียไปจากโอกาสในการเข้าสู่ตลาดแรงงาน ซึ่งสูงกว่าความเสียหายโดยเฉลี่ยต่อจังหวัดในเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 ถึง 10 เท่า

ดร.ไกรยส กล่าวอีกว่า ในพื้นที่ภาคเหนือยังพบว่า มีประชากรถึง 5% ที่เป็นผู้พิการ ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ สสค.จึงทำงานในพื้นที่นำร่อง จ.แม่ฮ่องสอน ในกลุ่มเด็กยากจน อยู่ในพื้นที่ห่างไกล และพิการ โดยพบข้อมูลที่สำคัญคือ ข้อมูลของเด็กพิการแรกคลอดในโรงพยาบาล ใน 1-2 ปีแรก ขาดการส่งต่อไปยังหน่วยงานให้บริการทางสาธารณสุข ทำให้เด็กหลุดออกจากการดูแลเผชิญกับความพิการขั้นรุนแรง จึงพัฒนาให้เกิดศูนย์การศึกษาพิเศษ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อดูแลเด็กพิการใน 3 อำเภอตอนใต้ของ จ.แม่ฮ่องสอน โดยร่วมกับศูนย์การศึกษาพิเศษจังหวัดแม่ฮ่องสอน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และจังหวัด พร้อมกับเชื่อมโยงฐานข้อมูลที่เป็นระบบตั้งแต่โรงพยาบาล พัฒนาสังคมจังหวัด สถาบันการศึกษา และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อรับรู้สถานการณ์ในพื้นที่ และนำสู่การสนับสนุนงบประมาณแก่ศูนย์เด็กเล็ก เมื่อเด็กโตขึ้นจะส่งต่อไปยัง ร.ร.ไทยรัฐวิทยา 33 ซึ่งเป็นโรงเรียนเรียนร่วมระหว่างเด็กปกติและเด็กพิการ พร้อมกับการฝึกทักษะอาชีพให้สามารถอยู่รอดได้
กำลังโหลดความคิดเห็น