“ยิ่งลักษณ์” ร่วมภาคีเครือข่าย ผู้ประกอบการ ประกาศเจตนารมณ์ขจัดโรคขาดสารไอโอดีน ชวนแม่และเด็กกินเกลือไอโอดีน เสริมสร้างสติปัญญา หลังพบพัฒนาการเด็กไทยสมวัยเพียง 73% ไอคิวเฉลี่ย 99 จุด ต่ำกว่ามาตรฐานสากล ตั้งเป้า 4 ปี เด็กไทยต้องมีพัฒนาการสมวัย 90% ไอคิวสูงกว่า 100 จุด
วันนี้ (21 ก.ย.) ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดงาน “รวมพลังสร้างชาติ แม่ และเด็ก ไม่ขาดไอโอดีน” เพื่อส่งเสริมสุขภาพหญิงตั้งครรภ์และเด็กให้ได้รับไอโอดีนคุณภาพอย่างต่อเนื่อง และเพียงพอ ซึ่งเป็นกลยุทธ์การพัฒนาทรัพยากรหลักของประเทศ ด้วยการเสริมสร้างสติปัญญาเด็กไทย พร้อมมอบโล่เกียรติคุณแก่องค์กรที่สนับสนุนการควบคุมป้องกันโรคขาดสารไอโอดีน และลงนามข้อตกลง (MOU) ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับชมรมผู้ประกอบการเกลือเสริมไอโอดีนภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ
นายวิทยา กล่าวว่า จากการสำรวจพัฒนาการเด็กไทยโดยกรมอนามัย สมวัยร้อยละ 73 และการสำรวจไอคิวของนักเรียนไทยอายุ 6-15 ปี โดยกรมสุขภาพจิต พบไอคิวเฉลี่ย 99 จุด สูงสุดที่ กทม.105 จุด ต่ำสุดที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 96 จุด ต่ำกว่ามาตรฐานสากลคือ 100 จุด สาเหตุหลักเกิดจากการขาดสารไอโอดีน ซึ่งสำคัญต่อการพัฒนาสมอง ตลอดจนการเลี้ยงดูของพ่อแม่ สธ.จึงตั้งเป้าให้เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการสมวัยร้อยละ 90 และมีไอคิวเกิน 100 จุด ภายในปี 2559
นายวิทยา กล่าวอีกว่า การดำเนินการใน 4 ปีนี้ จะเน้นหนัก 3 เรื่อง ได้แก่ 1.การส่งเสริมสุขภาพประชากร 5 กลุ่ม ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร เด็กทารก เด็กปฐมวัย และเด็กวัยเรียน รวมปีละ 14 ล้านคน โดยหญิงตั้งครรภ์ต้องฝากครรภ์ทันทีที่รู้ว่าตั้งครรภ์ หรืออายุครรภ์น้อยกว่า 12 สัปดาห์ให้ได้มากกว่าร้อยละ 80 และเฝ้าระวังระดับไอโอดีนในปัสสาวะให้อยู่ระหว่าง 150-249 ไมโครกรัมต่อเดซิลิตร โดยสนับสนุนให้ได้รับยาเม็ดเสริมไอโอดีน เหล็ก และโฟเลต ทุกคนตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึงหลังคลอด 6 เดือน ซึ่งขณะนี้ให้บริการฟรีในโรงพยาบาลทุกแห่งครอบคลุมถึงโรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทั่วประเทศ ส่วนกลุ่มเด็กทารกให้โรงพยาบาลทุกแห่งเจาะเลือดเมื่ออายุครบ 48 ชั่วโมง เพื่อตรวจระดับฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ และผลักดันนโยบาย “กิน กอด เล่น เล่า”
2.กำหนดให้เกลือบริโภคทั้งคนและสัตว์ทุกชนิด ต้องเป็นเกลือเสริมไอโอดีน โดยออกกฎหมายให้เกลือบริโภคต้องมีปริมาณไอโอดีน 20-40 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม สร้างศูนย์เรียนรู้การผลิตเกลือบริโภคเสริม ไอโอดีนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยในปีนี้ได้สนับสนุนเครื่องผสมเกลือไอโอดีนที่ได้มาตรฐาน 100 เครื่อง และสารโพแทสเซียมไอโอเดทให้กับผู้ประกอบการผลิตเกลือเสริมไอโอดีนที่มี คุณภาพและเป็นไปตามหลักกฎหมาย นอกจากนี้ จะร่วมมือกับภาคีเครือข่ายพัฒนาหมู่บ้านทั่วประเทศ 77,000 แห่งให้เป็นชุมชน/หมู่บ้านไอโอดีน และพัฒนาสู่ความยั่งยืนเป็นจังหวัดไอโอดีนทั้งหมด ภายในปี 2558
และ 3.เสริมไอโอดีนในน้ำดื่มในพื้นที่ทุรกันดาร ในโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และรณรงค์สร้างกระแส ความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักเรื่องไอโอดีนที่มีผลต่อพัฒนาการสมวัยและสติปัญญา