กมธ.ท่องเที่ยวฯ ตั้งข้อสังเกต ศธ.ยังจัดการศึกษาที่ส่งเสริมการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานน้อย ด้าน รองปลัด ศธ.แจงเรื่องดังกล่าวทำอย่างต่อเนื่อง โดย สอศ.แต่ติดปัญหาค่านิยมพ่อแม่อยากให้ลูกจบปริญญาตรีมากกว่า พร้อมเสนอ 5 ยุทธศาสตร์และ 10 โครงการเตรียมพร้อมก่อนเข้าสู่อาเซียน และเตรียมทำรายละเอียดเข้าชี้แจงเพิ่มเติมกับ กมธ.ท่องเที่ยวฯ ต่อไป
น.ส.จุไรรัตน์ แสงบุญนำ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้เข้าชี้แจงเรื่องการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนต่อ คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ว่า ได้ชี้แจงว่า กระทรวงศึกษาฯ ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการทั้งหมด 5 ด้าน ประกอบด้วย 1.การให้ความสำคัญกับการศึกษา 2.การลงทุนในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ 3.การส่งเสริมการจ้างงานที่เหมาะสม 4.การส่งเสริมเทคโนโลยีสารสนเทศ และ 5.การอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเชิงประยุกต์ โดยทั้ง 5 ด้านนี้ หน่วยงานต่างๆ ของ ศธ.ได้นำไปจัดทำโครงการแผนงานสำคัญ 10 โครงการในปีงบประมาณ 2556-2558 ได้แก่ 1.แก้ไขปัญหาข้อจำกัดด้านทักษะภาษาอังกฤษ 2.สร้างอัตลักษณ์ความเป็นประชาคมอาเซียน 3.แก้ไขปัญหาการอ่านออกเขียนได้ของประชากร 4.เปิดเสรีและการลงทุนของสถานศึกษาเอกชนในอาเซียน 5.แลกเปลี่ยนเทียบโอนหน่วยการเรียนระหว่างมหาวิทยาลัย 6.สร้าง ส่งเสริม สนับสนุนศูนย์การเรียนรู้ในอาเซียน 7.สนับสนุนกิจกรรมเยาวชนอาเซียน 8.ยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนสายอาชีพ 9.การจัดทำหลักสูตรมาตรฐานสำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ 10.ผลิตบุคลากรให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน
“ได้ชี้แจงกับ กมธ.ท่องเที่ยวฯ ด้วยว่า การศึกษามีความสำคัญต่อการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนมาก และ ศธ.จึงเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดทำหลักสูตรมาตรฐานอาเซียน ซึ่ง กมธ.ตั้งข้อสังเกต และมองภาพการจัดการศึกษาว่าที่ควรเน้นส่งเสริมทักษะฝีมือแรงงานให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน และมองว่า ศธ.ยังทำในเรื่องนี้น้อย จึงได้ชี้แจงว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้ดำเนินการอยู่ตามนโยบาย เพียงแต่ที่ผลิตไม่ได้ตามเป้าหมายเกิดจากผู้ปกครองอยากให้บุตรหลานเรียนจบปริญญาตรีมากกว่า ซึ่งคณะกรรมาธิการ มองว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาทะเลาะวิวาท จึงชี้แจงไปว่าเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ที่สำคัญ ศธ.ได้มีนโยบายโครงการสุภาพบุรุษอาชีวะ เข้ามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายแล้ว ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการขอให้จัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมของทั้ง 10 โครงการ และจะเชิญไปชี้แจงอีกครั้ง” น.ส.จุไรรัตน์ กล่าว
น.ส.จุไรรัตน์ แสงบุญนำ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้เข้าชี้แจงเรื่องการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนต่อ คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ว่า ได้ชี้แจงว่า กระทรวงศึกษาฯ ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการทั้งหมด 5 ด้าน ประกอบด้วย 1.การให้ความสำคัญกับการศึกษา 2.การลงทุนในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ 3.การส่งเสริมการจ้างงานที่เหมาะสม 4.การส่งเสริมเทคโนโลยีสารสนเทศ และ 5.การอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเชิงประยุกต์ โดยทั้ง 5 ด้านนี้ หน่วยงานต่างๆ ของ ศธ.ได้นำไปจัดทำโครงการแผนงานสำคัญ 10 โครงการในปีงบประมาณ 2556-2558 ได้แก่ 1.แก้ไขปัญหาข้อจำกัดด้านทักษะภาษาอังกฤษ 2.สร้างอัตลักษณ์ความเป็นประชาคมอาเซียน 3.แก้ไขปัญหาการอ่านออกเขียนได้ของประชากร 4.เปิดเสรีและการลงทุนของสถานศึกษาเอกชนในอาเซียน 5.แลกเปลี่ยนเทียบโอนหน่วยการเรียนระหว่างมหาวิทยาลัย 6.สร้าง ส่งเสริม สนับสนุนศูนย์การเรียนรู้ในอาเซียน 7.สนับสนุนกิจกรรมเยาวชนอาเซียน 8.ยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนสายอาชีพ 9.การจัดทำหลักสูตรมาตรฐานสำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ 10.ผลิตบุคลากรให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน
“ได้ชี้แจงกับ กมธ.ท่องเที่ยวฯ ด้วยว่า การศึกษามีความสำคัญต่อการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนมาก และ ศธ.จึงเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดทำหลักสูตรมาตรฐานอาเซียน ซึ่ง กมธ.ตั้งข้อสังเกต และมองภาพการจัดการศึกษาว่าที่ควรเน้นส่งเสริมทักษะฝีมือแรงงานให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน และมองว่า ศธ.ยังทำในเรื่องนี้น้อย จึงได้ชี้แจงว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้ดำเนินการอยู่ตามนโยบาย เพียงแต่ที่ผลิตไม่ได้ตามเป้าหมายเกิดจากผู้ปกครองอยากให้บุตรหลานเรียนจบปริญญาตรีมากกว่า ซึ่งคณะกรรมาธิการ มองว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาทะเลาะวิวาท จึงชี้แจงไปว่าเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ที่สำคัญ ศธ.ได้มีนโยบายโครงการสุภาพบุรุษอาชีวะ เข้ามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายแล้ว ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการขอให้จัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมของทั้ง 10 โครงการ และจะเชิญไปชี้แจงอีกครั้ง” น.ส.จุไรรัตน์ กล่าว