ศน.ขอยอดผู้แสวงบุญฮัจญ์นอกโควตาจากสถานทูตซาอุฯ เพื่อเตรียมความพร้อมด้านที่พัก หวั่นสร้างปัญหาซ้ำเหมือนปีที่ผ่านมา ด้าน ผอ.ทสภ.เตรียมอำนวยความสะดวกให้ผู้แสวงบุญทั้งขาไปและกลับ
นายจรูญ นราคร รองอธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเดินทางไปแสวงบุญฮัจญ์ของชาวไทยมุสลิมปี 2555 จำนวน 13,000 คน ว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ศน.ได้จัดพิธีส่งผู้แสวงบุญฮัจญ์ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) อย่างเป็นทางการ ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้เป็นไปอย่างเรียบร้อย แต่ยังพบว่า มีผู้แสวงบุญนอกระบบที่ได้รับวีซ่าจากสถานทูตโดยตรง เริ่มทยอยเดินทางไปบางส่วนแล้ว ศน.จึงได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสถานทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทย เพื่อขอทราบยอดผู้แสวงบุญที่ทางสถานทูตออกวีซ่าโดยไม่ได้ผ่านโควตาของ ศน.ว่า มีจำนวนมากน้อยเท่าไร เพื่อที่ ศน.จะได้เตรียมความพร้อมในเรื่องของที่พัก หรือความเป็นอยู่ของผู้แสวงบุญที่เดินทางนอกระบบและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาความไม่เป็นระบบอย่างที่ประเทศซาอุดีอาระเบียแจ้งมาเมื่อปีที่ผ่านมา
นายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการ ทสภ. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้ ศน.แจ้งว่า ผู้นับถือศาสนาอิสลามจะเริ่มเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ผ่านทาง ทสภ.ประมาณ 6,000 คน หรือเฉลี่ยวันละ 170 คน ทสภ.จึงได้มีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้รองรับ เช่น การจัดตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้คำแนะนำ และให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับขั้นตอน และรายละเอียดการเดินทาง จัดทำป้ายบอกทิศทางเป็นภาษามลายูติดตั้งในพื้นที่ต่างๆ จัดให้มีล่ามภาษามลายู ทำหน้าที่ให้คำแนะนำและช่วยเหลือในการประสานงานกับสายการบิน กองบังคับการตรวจหนังสือเดินทาง ศุลกากร เพื่อจัดช่องทางพิเศษในการตรวจบัตรโดยสารและหนังสือเดินทางให้ผู้เดินทางด้วย ส่วนการเดินทางกลับ ซึ่งผู้แสวงบุญจะทยอยเดินทางกลับตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมนั้น ทาง ทสภ. จะได้ประสานงานกับกองบังคับการตรวจคนเข้าเมืองศุลกากร เพื่ออำนวยความสะดวกให้เช่นกัน โดยสอบถามข้อมูล ได้ที่หมายเลข 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายจรูญ นราคร รองอธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเดินทางไปแสวงบุญฮัจญ์ของชาวไทยมุสลิมปี 2555 จำนวน 13,000 คน ว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ศน.ได้จัดพิธีส่งผู้แสวงบุญฮัจญ์ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) อย่างเป็นทางการ ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้เป็นไปอย่างเรียบร้อย แต่ยังพบว่า มีผู้แสวงบุญนอกระบบที่ได้รับวีซ่าจากสถานทูตโดยตรง เริ่มทยอยเดินทางไปบางส่วนแล้ว ศน.จึงได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสถานทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทย เพื่อขอทราบยอดผู้แสวงบุญที่ทางสถานทูตออกวีซ่าโดยไม่ได้ผ่านโควตาของ ศน.ว่า มีจำนวนมากน้อยเท่าไร เพื่อที่ ศน.จะได้เตรียมความพร้อมในเรื่องของที่พัก หรือความเป็นอยู่ของผู้แสวงบุญที่เดินทางนอกระบบและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาความไม่เป็นระบบอย่างที่ประเทศซาอุดีอาระเบียแจ้งมาเมื่อปีที่ผ่านมา
นายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการ ทสภ. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้ ศน.แจ้งว่า ผู้นับถือศาสนาอิสลามจะเริ่มเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ผ่านทาง ทสภ.ประมาณ 6,000 คน หรือเฉลี่ยวันละ 170 คน ทสภ.จึงได้มีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้รองรับ เช่น การจัดตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้คำแนะนำ และให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับขั้นตอน และรายละเอียดการเดินทาง จัดทำป้ายบอกทิศทางเป็นภาษามลายูติดตั้งในพื้นที่ต่างๆ จัดให้มีล่ามภาษามลายู ทำหน้าที่ให้คำแนะนำและช่วยเหลือในการประสานงานกับสายการบิน กองบังคับการตรวจหนังสือเดินทาง ศุลกากร เพื่อจัดช่องทางพิเศษในการตรวจบัตรโดยสารและหนังสือเดินทางให้ผู้เดินทางด้วย ส่วนการเดินทางกลับ ซึ่งผู้แสวงบุญจะทยอยเดินทางกลับตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมนั้น ทาง ทสภ. จะได้ประสานงานกับกองบังคับการตรวจคนเข้าเมืองศุลกากร เพื่ออำนวยความสะดวกให้เช่นกัน โดยสอบถามข้อมูล ได้ที่หมายเลข 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง
