“เอนก” ทิ้งทวนก่อนซบ อสมท จี้ ฝ่ายการเมือง ข้าราชการประจำ เดินหน้าปฏิรูปการศึกษารอบ 2 แนะปัดฝุ่นกรอบปฏิรูปการศึกษาสมัยรัฐบาล “อภิสิทธิ์” ด้าน “ศศิธารา” ไม่เชื่อกระแสข่างถูกเด้งเพื่อเคลียร์เก้าอี้ปลัดให้ ศธ.จะเป็นจริง
นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กล่าวว่า ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษาให้ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ แล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อไปรับตำแหน่ง ผอ.ใหญ่ บมจ.อสมท โดยใบลาออกจะมีผลวันที่ 30 ก.ย.ทั้งนี้ ในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษานั้น อยากฝากให้ ศธ.สานต่อเรื่องการปฏิรูปการศึกษารอบ 2 ที่ผ่านมา ปฏิรูปการศึกษาไม่ค่อยเดินหน้า เพราะผู้ปฏิบัติมองว่า ฝ่ายการเมืองไม่สนใจ แผนปฏิรูปการศึกษาในเรื่องต่างๆ เช่น สหกิจศึกษา การพัฒนาครู จึงไม่มีการดำเนินการ ทั้งนี้ ศธ.สามารถนำกรอบปฏิรูปการศึกษารอบ 2 ที่คณะกรรมการนโยบายปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2 (กนป.) ทำไว้มาสานต่อได้ แม้ว่าจะเป็นกรอบปฏิรูปการศึกษาที่ทำไว้ในสมัยรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่สิ่งที่อยู่ในนั้นก็สอดคล้องกับนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลนี้อยู่แล้ว อย่างเช่น กรอบปฏิรูปการศึกษาฯให้ความสำคัญกับการศึกษาตลอดชีวิต ขณะที่นโยบายของนายกรัฐมนตรี ก็ให้ความสำคัญกับเด็กปฐมวัย
“ ฝ่ายการเมืองยังไม่ค่อยเห็นความสำคัญกับการปฏิรูปการศึกษา ทั้งที่เป็นเรื่องจำเป็น เพราะคุณภาพการศึกษานั้นเกี่ยวพันถึงขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การพัฒนาการศึกษาและการพัฒนาเศรษฐกิจต้องไปด้วยกัน มิฉะนั้นแล้ว อาจทำให้การพัฒนาประเทศไม่รุดหน้าเท่าที่ควร เพราะฉะนั้น ฝ่ายการเมืองควรให้ความสำคัญ และเข้ามาผลักดันการปฏิรูปการศึกษารอบ 2 มากขึ้น ขณะที่ฝ่ายข้าราชการประจำเอง ก็ต้องพยายามผลักดันด้วย ไม่ใช่พอฝ่ายการเมืองไม่เดินหน้า ก็อยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไร” นายเอนก กล่าว
นายเอนก กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวโยก นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี มาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ว่า ถ้ามีการโยกนางพนิตา มาเป็นปลัด ศธ.จริง ก็ไม่น่าเกิดปัญหาต่อการทำงาน เพราะนางพนิตา เป็นผู้บริหารระดับ 11 เคยดำรงตำแหน่งปลัดมาก่อนในกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) น่าจะปรับตัวได้ โดยเฉพาะเจ้าตัวเคยเป็นปลัดมา ย่อมเข้าใจนโยบายของรัฐบาลเป็นอย่างดี จึงสามารถทำความเข้าใจนโยบาย ศธ.ได้ไม่ยาก ส่วนน.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัด ศธ.ที่มีข่าวจะย้ายมาเป็นเลขาธิการ สกศ.นั้น จริงๆ แล้ว น.ส.ศศิธารา ก็เป็นนักการศึกษา เป็นคนเก่ง สามารถมาคุมนโยบายด้านการศึกษาได้อย่างแน่นอน
ด้าน น.ส.ศศิธารา กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าจะไม่ถูกปรับออกจากตำแหน่งปลัดศธ. กระแสข่าวก็เป็นกระแสข่าว แต่ไม่ค่อยเชื่ออะไร ตนเป็นครู เป็นอาจารย์ จะเชื่อตามข้อมูลความจริงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยังไม่มีการพูดคุยกับ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กล่าวว่า ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษาให้ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ แล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อไปรับตำแหน่ง ผอ.ใหญ่ บมจ.อสมท โดยใบลาออกจะมีผลวันที่ 30 ก.ย.ทั้งนี้ ในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษานั้น อยากฝากให้ ศธ.สานต่อเรื่องการปฏิรูปการศึกษารอบ 2 ที่ผ่านมา ปฏิรูปการศึกษาไม่ค่อยเดินหน้า เพราะผู้ปฏิบัติมองว่า ฝ่ายการเมืองไม่สนใจ แผนปฏิรูปการศึกษาในเรื่องต่างๆ เช่น สหกิจศึกษา การพัฒนาครู จึงไม่มีการดำเนินการ ทั้งนี้ ศธ.สามารถนำกรอบปฏิรูปการศึกษารอบ 2 ที่คณะกรรมการนโยบายปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2 (กนป.) ทำไว้มาสานต่อได้ แม้ว่าจะเป็นกรอบปฏิรูปการศึกษาที่ทำไว้ในสมัยรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่สิ่งที่อยู่ในนั้นก็สอดคล้องกับนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลนี้อยู่แล้ว อย่างเช่น กรอบปฏิรูปการศึกษาฯให้ความสำคัญกับการศึกษาตลอดชีวิต ขณะที่นโยบายของนายกรัฐมนตรี ก็ให้ความสำคัญกับเด็กปฐมวัย
“ ฝ่ายการเมืองยังไม่ค่อยเห็นความสำคัญกับการปฏิรูปการศึกษา ทั้งที่เป็นเรื่องจำเป็น เพราะคุณภาพการศึกษานั้นเกี่ยวพันถึงขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การพัฒนาการศึกษาและการพัฒนาเศรษฐกิจต้องไปด้วยกัน มิฉะนั้นแล้ว อาจทำให้การพัฒนาประเทศไม่รุดหน้าเท่าที่ควร เพราะฉะนั้น ฝ่ายการเมืองควรให้ความสำคัญ และเข้ามาผลักดันการปฏิรูปการศึกษารอบ 2 มากขึ้น ขณะที่ฝ่ายข้าราชการประจำเอง ก็ต้องพยายามผลักดันด้วย ไม่ใช่พอฝ่ายการเมืองไม่เดินหน้า ก็อยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไร” นายเอนก กล่าว
นายเอนก กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวโยก นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี มาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ว่า ถ้ามีการโยกนางพนิตา มาเป็นปลัด ศธ.จริง ก็ไม่น่าเกิดปัญหาต่อการทำงาน เพราะนางพนิตา เป็นผู้บริหารระดับ 11 เคยดำรงตำแหน่งปลัดมาก่อนในกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) น่าจะปรับตัวได้ โดยเฉพาะเจ้าตัวเคยเป็นปลัดมา ย่อมเข้าใจนโยบายของรัฐบาลเป็นอย่างดี จึงสามารถทำความเข้าใจนโยบาย ศธ.ได้ไม่ยาก ส่วนน.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัด ศธ.ที่มีข่าวจะย้ายมาเป็นเลขาธิการ สกศ.นั้น จริงๆ แล้ว น.ส.ศศิธารา ก็เป็นนักการศึกษา เป็นคนเก่ง สามารถมาคุมนโยบายด้านการศึกษาได้อย่างแน่นอน
ด้าน น.ส.ศศิธารา กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าจะไม่ถูกปรับออกจากตำแหน่งปลัดศธ. กระแสข่าวก็เป็นกระแสข่าว แต่ไม่ค่อยเชื่ออะไร ตนเป็นครู เป็นอาจารย์ จะเชื่อตามข้อมูลความจริงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยังไม่มีการพูดคุยกับ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
