กทม.ระดมสมองเตรียมแผนรับน้ำและบริหารจัดการน้ำเหนือหลังรัฐบาลเตรียมระบายน้ำจากเขื่อนชัยนาท
วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เวลา 15.00 น. พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมเพื่อเตรียมการป้องกันน้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากมีความห่วงใยต่อกรณีที่จะมีการเปิดเขื่อนชัยนาทเพื่อการระบายน้ำจากภาคเหนือ รวมถึงสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดอยุธยา โดยมี นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหา นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัด กทม. นางนินนาท ชลิตานนท์ นายจุมพล สำเภาพล รองปลัด กทม.พร้อมด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักการระบายน้ำ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสำนักเทศกิจ ร่วมประชุม
พญ.มาลินี เปิดเผยภายหลังว่า ที่ประชุมได้ประเมินสถานการณ์ รวมถึงแผนการรับน้ำเหนือและการระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น โดยในส่วนของปริมาณฝนช่วงนี้ยังไม่น่าห่วง กทม.สามารถรับปริมาณน้ำฝนได้ 60 มิลลิเมตร/วินาที ขณะที่น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถรับได้ 3,500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 1,500 ลบ.ม./วินาที อย่างไรก็ตาม กทม.ได้เตรียมมาตรการรองรับหากมีการปล่อยน้ำลงมาอย่างรวดเร็ว โดยจะเร่งผันน้ำออกสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด
ด้าน นายธีระชน กล่าวด้วยว่า กทม.ได้มอบหมายให้สำนักการะบายน้ำแจ้งไปยังรัฐบาล ให้เร่งระบายน้ำเหนือโดยไม่กักน้ำไว้เหมือนปีที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ กทม.จะประสานงานกับกรมชลประทานและจังหวัดปริมณฑล ได้แก่ อยุธยา ปทุมธานี สมุทรปราการ นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร ในการระบายน้ำสู่ทะเลโดยเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจในการบริหารจัดการน้ำให้กับประชาชน
วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เวลา 15.00 น. พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมเพื่อเตรียมการป้องกันน้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากมีความห่วงใยต่อกรณีที่จะมีการเปิดเขื่อนชัยนาทเพื่อการระบายน้ำจากภาคเหนือ รวมถึงสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดอยุธยา โดยมี นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหา นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัด กทม. นางนินนาท ชลิตานนท์ นายจุมพล สำเภาพล รองปลัด กทม.พร้อมด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักการระบายน้ำ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสำนักเทศกิจ ร่วมประชุม
พญ.มาลินี เปิดเผยภายหลังว่า ที่ประชุมได้ประเมินสถานการณ์ รวมถึงแผนการรับน้ำเหนือและการระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น โดยในส่วนของปริมาณฝนช่วงนี้ยังไม่น่าห่วง กทม.สามารถรับปริมาณน้ำฝนได้ 60 มิลลิเมตร/วินาที ขณะที่น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถรับได้ 3,500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 1,500 ลบ.ม./วินาที อย่างไรก็ตาม กทม.ได้เตรียมมาตรการรองรับหากมีการปล่อยน้ำลงมาอย่างรวดเร็ว โดยจะเร่งผันน้ำออกสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด
ด้าน นายธีระชน กล่าวด้วยว่า กทม.ได้มอบหมายให้สำนักการะบายน้ำแจ้งไปยังรัฐบาล ให้เร่งระบายน้ำเหนือโดยไม่กักน้ำไว้เหมือนปีที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ กทม.จะประสานงานกับกรมชลประทานและจังหวัดปริมณฑล ได้แก่ อยุธยา ปทุมธานี สมุทรปราการ นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร ในการระบายน้ำสู่ทะเลโดยเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจในการบริหารจัดการน้ำให้กับประชาชน
