เครือข่ายเหยื่อน้ำเมา ปลุกองค์กรร่วมสมัชชาสุขภาพ ต้านข้อเสนอกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ หลังพยายามยกเลิกมติ ครม. เพื่อเปิดทางค้าเสรีน้ำเมาไทย-อียู
นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ที่ปรึกษาเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อจัดทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสินค้าสำคัญในการเจรจา ว่า ความพยายามของกรมเจรจาฯ ในการเสนอให้ยกเลิกมติ ครม.ซึ่งให้การรับรองยุทธศาสตร์สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาวะของประชาชนรวมถึงความโปร่งใสเป็นสำคัญ จึงเป็นเรื่องที่ภาคประชาชนรับไม่ได้ เพราะยุทธศาสตร์สมัชชาสุขภาพมีตัวแทนภาคประชาชนจากทั่วประเทศกว่า 1,000 คน เข้ามามีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นจนเกิดเป็นฉันทามติที่ทุกคนร่วมเป็นเจ้าของ ซึ่งมิได้เกิดขึ้นง่ายๆ หรือจัดแค่เป็นพิธีกรรม ดังนั้น การเสนอให้ยกเลิกมติดังกล่าว จึงเท่ากับเป็นการล้มล้างมติของสมัชชาสุขภาพไปด้วย ซึ่งจะกระทบไปหลายภาคส่วนไม่ใช่เฉพาะเรื่องแอลกอฮอล์กับบุหรี่ จึงอยากเรียกร้องกับองค์กรที่เข้าร่วมประชุมสมัชชาสุขภาพ ให้ช่วยกันออกมาปกป้องเจตนารมณ์ของประชาชน มิให้ใครหรือองค์กรใดฉีกฉันทามติของประชาชน
นายจะเด็จ กล่าวว่า หากไปศึกษารายละเอียดยุทธศาสตร์สมัชชาสุขภาพ จะพบว่ามิได้ห้ามหรือขัดขวางการค้าเสรีแต่อย่างใด เพียงแต่กำหนดให้มีขั้นตอนที่ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมอย่างโปร่งใส และหากพบว่ามีความสุ่มเสี่ยงต่อสุขภาพโดยรวมของประชาชนอย่างมาก ก็ขอให้มีกระบวนการศึกษาผลกระทบด้านสุขภาพ หรือ Health Impect Assessment (HIA) เพื่อความรอบคอบ หรือไม่ให้เกิดการได้ไม่คุ้มเสีย จึงแปลกใจที่ ทำไมกรมเจรจาจึงเลือกที่จะให้ยกเลิกมติ ครม. แทนที่จะทำตามกระบวนการของสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ทั้งที่จะช่วยลดความเสี่ยงและเป็นเกราะป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี
“กรมเจรจาฯ มีการจัดรับฟังความคิดเห็นกรณียาและสินค้าอื่นๆไปแล้วเป็นการเฉพาะ แต่กลับเมิน เฉย ไม่จัดรับฟังในประเด็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ ทั้งที่มีเสียงคัดค้านอย่างกว้างขวาง และยังพยายามผลักดันให้การเจรจาเสรีทางการค้าไทยกับ สหภาพยุโรปเกิดขึ้นอย่างรีบเร่ง ทำให้เกิดข้อสงสัยถึงประโยชน์หรืออิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังของความพยายามในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามข้อเสนอของภาคประชาชน ให้ถอนบัญชีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ออกจากการเจรจามิได้เป็นแค่ความรู้สึกลอยๆ แต่ทั้งหมดอยู่บนฐานข้อมูลทางวิชาการ ซึ่งกรมเจรจาฯไม่ควรบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชน” นายจะเด็จ กล่าว