สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จับมือกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการยุวทูตอาชีวศึกษาอาเซียน หวังสร้างนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าของประเทศไทยในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
นายสมบัติ แสงสว่างสัจกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า โครงการยุวทูตอาชีวศึกษาอาเซียนเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กับนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษา ให้เกิดการเรียนรู้และเข้าใจโลกในอีกมิติหนึ่งนอกห้องเรียน จึงต้องใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยผู้ที่ได้รับการคัดเลือกทั้ง 90 คน จะเป็นตัวแทนประเทศไทยเดินทางไปร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ จากประเทศสมาชิก 10 ประเทศกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อสร้างเครือข่ายการค้าการลงทุนระหว่างเยาวชน ซึ่งถือว่าเป็นทั้งคู่ค้าและคู่แข่งด้านเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจขนาดย่อม เตรียมความพร้อมการเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และตระหนักรู้ถึงผลกระทบของการเปิดตลาดการค้าเสรีอาเซียนที่จะเกิดขึ้นต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ ซึ่งขณะนี้ตลาดแรงงานของประเทศไทยได้มีแรงงานไร้ฝีมือเข้ามาประกอบอาชีพจำนวนมาก ดังนั้น นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษา จะต้องพัฒนาทักษะฝีมือให้เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในวิชาชีพของตนเอง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้กำหนดมาตรฐานวิชาชีพไปแล้วใน 7 สาขา และจะดำเนินการให้ครบทุกสาขา จะทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานในมาตรฐานวิชาชีพที่กำหนด ซึ่งประเทศอาเซียนกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ แต่ปัญหาสำคัญ คือ ทักษะด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ และภาษาอาเซียน หากไม่สามารถสื่อสารได้ก็ขาดโอกาสได้เป็นหัวหน้างาน ดังนั้น นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาจะต้องเรียนรู้ให้สามารถสื่อสารได้ โดยเฉพาะจังหวัดที่อยู่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน
รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้ได้รับความสนใจจากนักเรียน นักศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ระดับ ปวช.และ ปวส.เข้าร่วมการคัดเลือกจำนวนกว่า 2,000 คน โดยคัดเลือกระดับภูมิภาคให้เหลือ 360 คน เข้ากลั่นกรองและคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม จำนวน 90 คน มาเป็นยุวทูตอาชีวศึกษาอาเซียน และเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมกิจกรรมกับเยาวชนกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน นำไปสู่การขับเคลื่อนการค้าการลงทุนของประเทศให้แข็งแกร่งในอนาคตต่อไป
นายสมบัติ แสงสว่างสัจกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า โครงการยุวทูตอาชีวศึกษาอาเซียนเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กับนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษา ให้เกิดการเรียนรู้และเข้าใจโลกในอีกมิติหนึ่งนอกห้องเรียน จึงต้องใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยผู้ที่ได้รับการคัดเลือกทั้ง 90 คน จะเป็นตัวแทนประเทศไทยเดินทางไปร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ จากประเทศสมาชิก 10 ประเทศกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อสร้างเครือข่ายการค้าการลงทุนระหว่างเยาวชน ซึ่งถือว่าเป็นทั้งคู่ค้าและคู่แข่งด้านเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจขนาดย่อม เตรียมความพร้อมการเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และตระหนักรู้ถึงผลกระทบของการเปิดตลาดการค้าเสรีอาเซียนที่จะเกิดขึ้นต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ ซึ่งขณะนี้ตลาดแรงงานของประเทศไทยได้มีแรงงานไร้ฝีมือเข้ามาประกอบอาชีพจำนวนมาก ดังนั้น นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษา จะต้องพัฒนาทักษะฝีมือให้เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในวิชาชีพของตนเอง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้กำหนดมาตรฐานวิชาชีพไปแล้วใน 7 สาขา และจะดำเนินการให้ครบทุกสาขา จะทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานในมาตรฐานวิชาชีพที่กำหนด ซึ่งประเทศอาเซียนกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ แต่ปัญหาสำคัญ คือ ทักษะด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ และภาษาอาเซียน หากไม่สามารถสื่อสารได้ก็ขาดโอกาสได้เป็นหัวหน้างาน ดังนั้น นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาจะต้องเรียนรู้ให้สามารถสื่อสารได้ โดยเฉพาะจังหวัดที่อยู่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน
รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้ได้รับความสนใจจากนักเรียน นักศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ระดับ ปวช.และ ปวส.เข้าร่วมการคัดเลือกจำนวนกว่า 2,000 คน โดยคัดเลือกระดับภูมิภาคให้เหลือ 360 คน เข้ากลั่นกรองและคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม จำนวน 90 คน มาเป็นยุวทูตอาชีวศึกษาอาเซียน และเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมกิจกรรมกับเยาวชนกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน นำไปสู่การขับเคลื่อนการค้าการลงทุนของประเทศให้แข็งแกร่งในอนาคตต่อไป