สพฐ.จ่อวัดคุณภาพโรงเรียนในสังกัด เตรียมนำค่าเฉลี่ยคะแนน O-Net ลากเส้นเขียว-แดงแยก ร.ร.เก่ง-ร.ร.ร่วง พร้อมให้มีผลต่อการเสนอขอใช้งบประมาณและพิจารณาความดีความชอบบุคลากรใน ร.ร.
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า สพฐ.เร่งขับเคลื่อนคุณภาพของโรงเรียนในสังกัดอยู่ จึงต้องการรู้ฐานะทางคุณภาพที่เป็นจริงของแต่ละโรงเรียน และได้เลือกใช้คะแนนทดสอบระดับการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) ซึ่งเป็นการประเมินผลระดับชาติที่ได้มาตรฐาน มาเป็นเครื่องมือเปรียบเทียบคุณภาพของโรงเรียน ดังนั้น ตนจึงสั่งการให้สำนักทดสอบทางการศึกษาของ สพฐ.นำค่าเฉลี่ย (Mean) ระดับประเทศของแต่ละวิชามาขีดเส้นแดงแล้วดูว่า โรงเรียนแต่ละแห่งอยู่ในตำแหน่งใด อยู่เหนือหรือต่ำกว่าเส้นแดง และ สพฐ.จะนำฐานข้อมูลตรงนี้ มาใช้ในการบริหารจัดการงบประมาณและบุคลากรของโรงเรียน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ สพฐ.มาสแกนดูว่า มีโรงเรียนจำนวนเท่าใดที่อยู่ใต้ค่าเฉลี่ยคะแนน O-Net
นายชินภัทร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา สพฐ.ไม่มีฐานข้อมูลใดๆ ที่จะใช้พิจารณาการจัดงบประมาณให้โรงเรียนจึงทำลักษณะของการหารเฉลี่ย และกระจายเงินให้โรงเรียนต่างๆ ไปตามสัดส่วน แต่ถ้ารู้ข้อมูลจริงของโรงเรียนแล้ว การจัดสรรงบประมาณให้โรงเรียนก็จะตอบโจทย์การพัฒนาคุณภาพมากขึ้น เป็นแนวทางให้โรงเรียนแต่ละแห่งเลือกทำโครงการที่ถูกต้องเพื่อพัฒนาในด้านที่ต้องการการปรับปรุง นอกจากนั้น จะมีการลากเส้นเขียวขึ้นด้วย ตัดเชือกที่ค่าเปอร์เซ็นไทล์ ที่ร้อยละ 70 ขึ้นไป โรงเรียนใดที่อยู่เหนือเส้นเขียวถือว่าประสบความสำเร็จในการจัดการเรียนการสอน และ สพฐ.ก็จะดึงครูผู้สอนจากโรงเรียนแห่งนั้นมาเป็นวิทยากรแกนนำอบรมครูของโรงเรียนอื่นๆ ตรงนี้เป็นการใช้ประโยชน์จากโรงเรียนที่ประสบความสำเร็จมาเป็นเครือข่ายขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพครู
นายชินภัทร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ครูและโรงเรียนทุ่มเทพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและให้ความสำคัญกับคะแนน O-Net สพฐ.จะนำเส้นแดงกับเส้นเขียวมาเชื่อมโยงกับระบบบริหารจัดการงบประมาณและบุคลากรด้วย โดยในส่วนของการบริหารจัดการงบประมาณนั้น โรงเรียนที่อยู่เหนือเส้นแดงและเขียว ก็จะมีสิทธิ์ที่จะเสนอแผนงานโครงการพัฒนาโรงเรียนต่างๆ และมีแนวโน้มได้รับการอนุมัติโครงการสูงกว่าโรงเรียนที่อยู่ใต้เส้นแดง ทั้งนี้ เพื่อเหนือเส้นได้ต่อยอดการพัฒนาโรงเรียน แต่ไม่ใช่ว่า สพฐ.จะตัดงบประมาณของโรงเรียนที่อยู่ใต้เส้นแดง เพราะหากทำเช่นนั้น โรงเรียนที่แย่อยู่แล้วจะไม่มีกำลังในการพัฒนา แต่โรงเรียนที่มีปัญหาด้านคุณภาพนั้น สพฐ.จะมีโครงการพัฒนาให้โดยเฉพาะ ที่สำคัญ ครูจากโรงเรียนที่อยู่บนเส้นแดง และโดยเฉพาะบนเส้นเขียน จะมีผลต่อการพิจารณาความดีความชอบ และจะใช้ข้อมูลส่วนนี้มาประกอบการพิจารณาเลื่อนวิทยฐานะด้วย ซึ่งขณะนี้ สพฐ.กำลังยกร่างเกณฑ์ประเมินวิทยฐานะแนวใหม่เสนอคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ซึ่งจะให้น้ำหนักกับสององค์ประกอบใหญ่ คือ สมรรถนะครูผู้สอนและผลที่เกิดขึ้นกับตัวนักเรียน ซึ่งก็คือ เส้นแดง และเส้นเขียว
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า สพฐ.เร่งขับเคลื่อนคุณภาพของโรงเรียนในสังกัดอยู่ จึงต้องการรู้ฐานะทางคุณภาพที่เป็นจริงของแต่ละโรงเรียน และได้เลือกใช้คะแนนทดสอบระดับการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) ซึ่งเป็นการประเมินผลระดับชาติที่ได้มาตรฐาน มาเป็นเครื่องมือเปรียบเทียบคุณภาพของโรงเรียน ดังนั้น ตนจึงสั่งการให้สำนักทดสอบทางการศึกษาของ สพฐ.นำค่าเฉลี่ย (Mean) ระดับประเทศของแต่ละวิชามาขีดเส้นแดงแล้วดูว่า โรงเรียนแต่ละแห่งอยู่ในตำแหน่งใด อยู่เหนือหรือต่ำกว่าเส้นแดง และ สพฐ.จะนำฐานข้อมูลตรงนี้ มาใช้ในการบริหารจัดการงบประมาณและบุคลากรของโรงเรียน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ สพฐ.มาสแกนดูว่า มีโรงเรียนจำนวนเท่าใดที่อยู่ใต้ค่าเฉลี่ยคะแนน O-Net
นายชินภัทร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา สพฐ.ไม่มีฐานข้อมูลใดๆ ที่จะใช้พิจารณาการจัดงบประมาณให้โรงเรียนจึงทำลักษณะของการหารเฉลี่ย และกระจายเงินให้โรงเรียนต่างๆ ไปตามสัดส่วน แต่ถ้ารู้ข้อมูลจริงของโรงเรียนแล้ว การจัดสรรงบประมาณให้โรงเรียนก็จะตอบโจทย์การพัฒนาคุณภาพมากขึ้น เป็นแนวทางให้โรงเรียนแต่ละแห่งเลือกทำโครงการที่ถูกต้องเพื่อพัฒนาในด้านที่ต้องการการปรับปรุง นอกจากนั้น จะมีการลากเส้นเขียวขึ้นด้วย ตัดเชือกที่ค่าเปอร์เซ็นไทล์ ที่ร้อยละ 70 ขึ้นไป โรงเรียนใดที่อยู่เหนือเส้นเขียวถือว่าประสบความสำเร็จในการจัดการเรียนการสอน และ สพฐ.ก็จะดึงครูผู้สอนจากโรงเรียนแห่งนั้นมาเป็นวิทยากรแกนนำอบรมครูของโรงเรียนอื่นๆ ตรงนี้เป็นการใช้ประโยชน์จากโรงเรียนที่ประสบความสำเร็จมาเป็นเครือข่ายขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพครู
นายชินภัทร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ครูและโรงเรียนทุ่มเทพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและให้ความสำคัญกับคะแนน O-Net สพฐ.จะนำเส้นแดงกับเส้นเขียวมาเชื่อมโยงกับระบบบริหารจัดการงบประมาณและบุคลากรด้วย โดยในส่วนของการบริหารจัดการงบประมาณนั้น โรงเรียนที่อยู่เหนือเส้นแดงและเขียว ก็จะมีสิทธิ์ที่จะเสนอแผนงานโครงการพัฒนาโรงเรียนต่างๆ และมีแนวโน้มได้รับการอนุมัติโครงการสูงกว่าโรงเรียนที่อยู่ใต้เส้นแดง ทั้งนี้ เพื่อเหนือเส้นได้ต่อยอดการพัฒนาโรงเรียน แต่ไม่ใช่ว่า สพฐ.จะตัดงบประมาณของโรงเรียนที่อยู่ใต้เส้นแดง เพราะหากทำเช่นนั้น โรงเรียนที่แย่อยู่แล้วจะไม่มีกำลังในการพัฒนา แต่โรงเรียนที่มีปัญหาด้านคุณภาพนั้น สพฐ.จะมีโครงการพัฒนาให้โดยเฉพาะ ที่สำคัญ ครูจากโรงเรียนที่อยู่บนเส้นแดง และโดยเฉพาะบนเส้นเขียน จะมีผลต่อการพิจารณาความดีความชอบ และจะใช้ข้อมูลส่วนนี้มาประกอบการพิจารณาเลื่อนวิทยฐานะด้วย ซึ่งขณะนี้ สพฐ.กำลังยกร่างเกณฑ์ประเมินวิทยฐานะแนวใหม่เสนอคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ซึ่งจะให้น้ำหนักกับสององค์ประกอบใหญ่ คือ สมรรถนะครูผู้สอนและผลที่เกิดขึ้นกับตัวนักเรียน ซึ่งก็คือ เส้นแดง และเส้นเขียว