“ศักดา” เผย ประสาน บช.น.ขอข้อมูลจุดเสี่ยงที่เด็กอาชีวะชอบรวมต่อก่อเหตุ พร้อมสั่งสถาบันคัดเด็กกลุ่มเสี่ยงมาบวชพระ ยันมีเด็กหัวโจกเป็นเพียงส่วนน้อย และเพียงแค่หลงทางเท่านั้น ด้าน รองเลขาธิการ กอศ.เผย รมว.ศึกษาฯ กำชับให้นำคุณธรรม จริยธรรม เป็นธงนำ โดยเฉพาะใช้แก้ปัญหาตีกัน สั่ง 2 สัปดาห์ต้องเห็นผล
นายศักดา คงเพชร รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหานักเรียน นักศึกษาทะเลาะวิวาท ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกำลังอยู่ในกระบวนการขั้นตอนของกฎหมายที่จำเป็นต้องดำเนินการทางคดีต่อไป ซึ่งตนได้พูดคุยกับรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในเบื้องต้น ว่า อยากประสานขอเชื่อมข้อมูลพื้นที่เสี่ยง ว่า มีจุดไหนบ้างที่นักเรียนอาชีวะจะใช้รวมตัวก่อเหตุ เพื่อจะได้หามาตรการป้องกันและควบคุมให้เกิดประสิทธิภาพต่อไป รวมถึงประสานไปยังกรุงเทพมหานครให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดตามจุดเสี่ยงต่างๆ ด้วย ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ยังมีบางจุดที่ กทม.ยังไม่ได้ไปติดตั้ง ตลอดจนให้สถาบันการศึกษาคัดนักเรียนกลุ่มเสี่ยงมาบวชพระ เพราะต้องการให้ศาสนาเป็นเครื่องกล่อมเกลาจิตใจเด็ก และเชื่อว่า จะลดพฤติกรรมรุนแรงได้ นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเพิ่มเติม คือ หากสถาบันการศึกษาใดไม่มีประวัติก่อเหตุทะเลาะวิวาทอีกก็จะอนุมัติวันหยุดเพิ่มเติมให้ โดยจะให้นักเรียนอาชีวะไปบำเพ็ญประโยชน์ทำงานด้านจิตอาสาเพื่อสังคม
“เวลานี้มีเด็กอาชีวะส่วนนน้อยเท่านั้นที่หลงทาง และก่อเหตุให้ภาพลักษณ์ของอาชีวะเสียหาย เพราะฉะนั้น เราต้องมาหาทางเพื่อจะช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ เพราะเราไม่มองว่าเด็กเหล่านี้เป็นเด็กเลวทรามชั่วช้าช้า หรือเป็น เด็กผี แต่เป็นแค่เด็กหลงทาง เท่านั้นซึ่งจะพยายามหาแนวทางวิธีการดึงเขามาสู่ทิศทางที่ถูกต้อง คือ จะต้องมีวิธีการแก้ไขปัญหาทั้งแบบองค์รวม และแบบเฉพาะส่วน เช่น คนไหนที่ไม่พร้อมและไม่เก่งเรื่องวิชาการ ก็จะคัดกรองดึงเด็กออกมาและส่งเสริมอาชีพเฉพาะด้านให้เขา เช่น งานในส่วนช่างก่อสร้าง ยังขาดบุคลากรที่มีทักษะในการขับรถหนัก รถแม็คโค จะประสานหน่วยงานส่งเด็กไปฝึกฝน เป็นต้น” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว
ด้าน นายอกนิษฐ์ คลังแสง รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (รองเลขาธิการ กอศ.) กล่าวว่า ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ ได้เน้นย้ำให้ สอศ.ใช้คุณธรรม และจริยธรรม นำวิชาชีพ และควรนำมาใช้แก้ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียน นักศึกษา ซึ่งอยากให้มีเครือข่ายร่วมกับสถานศึกษา ทหาร ตำรวจ ท้องถิ่น และศาสนา เพื่อจัดการให้เด็ดขาดกลับกลุ่มเด็กที่มีปัญหา โดย รมว.ศึกษาธิการ อยากให้การขับเคลื่อนดังกล่าวเห็นผลภายใน 2 สัปดาห์นี้
