สธ.มอบป้ายส้วมสะอาด ได้มาตรฐาน HAS ให้กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ปรากฏสู่สายตานานาชาติ
วันนี้ (15 ส.ค.) นายแพทย์ สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมช.สธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบป้ายส้วมสะอาดได้มาตรฐาน HAS ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการพัฒนาส้วมสาธารณะของประเทศให้ได้มาตรฐาน HAS คือ สะอาด (Health) เพียงพอ (Accessibility) และ ปลอดภัย (Safety) มาตั้งแต่ ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นการขับเคลื่อนให้มีการพัฒนาส้วมสาธารณะให้ได้มาตรฐาน และขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนผลักดันจนประสบความสำเร็จทำให้มีส้วมสาธารณะที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน HAS ร้อยละ 55.47
นายแพทย์ สุรวิทย์ กล่าวต่อว่า จากผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน 1,000 คน ในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เมื่อปี 2553 พบว่า ปัจจัยในการเลือกส้วมสาธารณะที่จะไปใช้บริการ คือ ความสะอาดของส้วมสูงถึงร้อยละ 86.3 ตรงกับความต้องการของประชาชนที่ต้องการให้ปรับปรุงส้วมสาธารณะเรื่องกลิ่นเหม็น และความสะอาดมากที่สุด ร้อยละ 76.5 กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัย จึงร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนพัฒนาและปรับปรุงส้วมสาธารณะในสถานที่ต่างๆ 12 ประเภทที่ประชาชนจำเป็นต้องใช้มากที่สุด ได้แก่ สถานที่ราชการ สถานศึกษา โรงพยาบาล ศาสนสถาน ตลาดสด ร้านจำหน่ายอาหาร แหล่งท่องเที่ยว สวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์การค้า สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ส้วมสาธารณะริมทาง และสถานีขนส่งทางบกและทางอากาศ ซึ่งล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขได้มอบรางวัลให้กับสถานที่ที่ได้เป็นสุดยอดส้วมแห่งปี 2554 จำนวน 22 แห่ง
“ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายการพัฒนาส้วมสาธารณะทุกภาคส่วน ช่วยกันผลักดันจนประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย เช่น บริษัทผู้ค้าน้ำมัน ชมรมส้วมยิ้ม ชมรมคนรักษ์ส้วม ทูตส้วม สมาคมภัตตาคารไทย กรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ซึ่ง ทอท.มีท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบอีก 5 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานภูเก็ต ที่มีมาตรฐานในการให้บริการห้องส้วมของ ทอท.และให้ความสำคัญในการพัฒนาสู่มาตรฐาน HAS ของกรมอนามัยเช่นเดียวกันกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
นายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) มีเป้าหมายในการติดอันดับท่าอากาศยานดีเด่นระดับโลก ของสภาท่าอากาศยานสากล (Airport Service Quality หรือ ACI) จึงได้พัฒนาการให้บริการในทุกด้าน และการพัฒนาห้องน้ำเป็นบริการที่ ทสภ.ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะจากการสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ พบว่า ห้องน้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเสริมสร้างความพึงพอใจให้กับผู้โดยสารได้อย่างมาก ทสภ.จึงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องของความเพียงพอของจำนวนห้องน้ำ โดยขณะนี้มีถึง 1,498 ห้อง การสร้างห้องน้ำเพื่อรองรับผู้ใช้บริการทุกประเภท เช่น ห้องน้ำสำหรับผู้ชาย ห้องน้ำสำหรับผู้หญิง ห้องน้ำสำหรับผู้พิการ ห้องน้ำสำหรับผู้สูงวัย พื้นที่สำหรับสตรีที่มีเด็กอ่อน การดูแลความสะอาด ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประจำห้องน้ำเพื่อดูแลความสะอาด มีการใช้สุขภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน และใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การจัดบรรยากาศให้น่าใช้งานทั้งระบบแสง สี และกลิ่น รวมทั้งมีการประดับ ต้นไม้ ดอกไม้ให้ดูสดชื่น สวยงาม เพื่อให้การบริการห้องน้ำเป็นไปตามมาตรฐานสากล
นายสมชัย กล่าวต่อว่า แต่ละปี ทสภ.มีนักท่องเที่ยวผ่านเข้าออกกว่า 48 ล้านคน ซึ่งการที่ ทสภ.มีห้องน้ำที่มีมาตรฐาน สามารถเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้มอบป้ายส้วมสะอาด ได้มาตรฐาน HAS ให้ยิ่งจะเป็นการช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับ ทสภ.ได้อีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ทสภ.ยังคงพัฒนาการให้บริการห้องน้ำให้ดียิ่งๆขึ้นไป โดย ทสภ.ได้วางเป้าหมาย คือ การได้รับรางวัล “สุดยอดส้วมแห่งปี 2555” จากกระทรวงสาธารณสุข ในประเภทสถานีขนส่งทางอากาศ ซึ่งจะมีการประกาศผลรางวัลในต้นปีหน้า
นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การให้ความสำคัญถึงการให้บริการห้องน้ำของ ทอท.นั้น มิได้ให้ความสำคัญเฉพาะ ทสภ.เท่านั้น แต่ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท.ทั้ง 5 แห่ง คือ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ท่าอากาศยานภูเก็ต ต่างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นเดียวกัน เพราะทุกท่าอากาศยานเป็นท่าอากาศยานนานาชาติ ที่มีผู้โดยสารเดินทางผ่านเข้า-ออกหลายล้านคน ซึ่งจะเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้กับ ทสภ.และประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
วันนี้ (15 ส.ค.) นายแพทย์ สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมช.สธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบป้ายส้วมสะอาดได้มาตรฐาน HAS ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการพัฒนาส้วมสาธารณะของประเทศให้ได้มาตรฐาน HAS คือ สะอาด (Health) เพียงพอ (Accessibility) และ ปลอดภัย (Safety) มาตั้งแต่ ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นการขับเคลื่อนให้มีการพัฒนาส้วมสาธารณะให้ได้มาตรฐาน และขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนผลักดันจนประสบความสำเร็จทำให้มีส้วมสาธารณะที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน HAS ร้อยละ 55.47
นายแพทย์ สุรวิทย์ กล่าวต่อว่า จากผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน 1,000 คน ในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เมื่อปี 2553 พบว่า ปัจจัยในการเลือกส้วมสาธารณะที่จะไปใช้บริการ คือ ความสะอาดของส้วมสูงถึงร้อยละ 86.3 ตรงกับความต้องการของประชาชนที่ต้องการให้ปรับปรุงส้วมสาธารณะเรื่องกลิ่นเหม็น และความสะอาดมากที่สุด ร้อยละ 76.5 กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัย จึงร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนพัฒนาและปรับปรุงส้วมสาธารณะในสถานที่ต่างๆ 12 ประเภทที่ประชาชนจำเป็นต้องใช้มากที่สุด ได้แก่ สถานที่ราชการ สถานศึกษา โรงพยาบาล ศาสนสถาน ตลาดสด ร้านจำหน่ายอาหาร แหล่งท่องเที่ยว สวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์การค้า สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ส้วมสาธารณะริมทาง และสถานีขนส่งทางบกและทางอากาศ ซึ่งล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขได้มอบรางวัลให้กับสถานที่ที่ได้เป็นสุดยอดส้วมแห่งปี 2554 จำนวน 22 แห่ง
“ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายการพัฒนาส้วมสาธารณะทุกภาคส่วน ช่วยกันผลักดันจนประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย เช่น บริษัทผู้ค้าน้ำมัน ชมรมส้วมยิ้ม ชมรมคนรักษ์ส้วม ทูตส้วม สมาคมภัตตาคารไทย กรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ซึ่ง ทอท.มีท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบอีก 5 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานภูเก็ต ที่มีมาตรฐานในการให้บริการห้องส้วมของ ทอท.และให้ความสำคัญในการพัฒนาสู่มาตรฐาน HAS ของกรมอนามัยเช่นเดียวกันกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
นายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) มีเป้าหมายในการติดอันดับท่าอากาศยานดีเด่นระดับโลก ของสภาท่าอากาศยานสากล (Airport Service Quality หรือ ACI) จึงได้พัฒนาการให้บริการในทุกด้าน และการพัฒนาห้องน้ำเป็นบริการที่ ทสภ.ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะจากการสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ พบว่า ห้องน้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเสริมสร้างความพึงพอใจให้กับผู้โดยสารได้อย่างมาก ทสภ.จึงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องของความเพียงพอของจำนวนห้องน้ำ โดยขณะนี้มีถึง 1,498 ห้อง การสร้างห้องน้ำเพื่อรองรับผู้ใช้บริการทุกประเภท เช่น ห้องน้ำสำหรับผู้ชาย ห้องน้ำสำหรับผู้หญิง ห้องน้ำสำหรับผู้พิการ ห้องน้ำสำหรับผู้สูงวัย พื้นที่สำหรับสตรีที่มีเด็กอ่อน การดูแลความสะอาด ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประจำห้องน้ำเพื่อดูแลความสะอาด มีการใช้สุขภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน และใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การจัดบรรยากาศให้น่าใช้งานทั้งระบบแสง สี และกลิ่น รวมทั้งมีการประดับ ต้นไม้ ดอกไม้ให้ดูสดชื่น สวยงาม เพื่อให้การบริการห้องน้ำเป็นไปตามมาตรฐานสากล
นายสมชัย กล่าวต่อว่า แต่ละปี ทสภ.มีนักท่องเที่ยวผ่านเข้าออกกว่า 48 ล้านคน ซึ่งการที่ ทสภ.มีห้องน้ำที่มีมาตรฐาน สามารถเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้มอบป้ายส้วมสะอาด ได้มาตรฐาน HAS ให้ยิ่งจะเป็นการช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับ ทสภ.ได้อีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ทสภ.ยังคงพัฒนาการให้บริการห้องน้ำให้ดียิ่งๆขึ้นไป โดย ทสภ.ได้วางเป้าหมาย คือ การได้รับรางวัล “สุดยอดส้วมแห่งปี 2555” จากกระทรวงสาธารณสุข ในประเภทสถานีขนส่งทางอากาศ ซึ่งจะมีการประกาศผลรางวัลในต้นปีหน้า
นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การให้ความสำคัญถึงการให้บริการห้องน้ำของ ทอท.นั้น มิได้ให้ความสำคัญเฉพาะ ทสภ.เท่านั้น แต่ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท.ทั้ง 5 แห่ง คือ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ท่าอากาศยานภูเก็ต ต่างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นเดียวกัน เพราะทุกท่าอากาศยานเป็นท่าอากาศยานนานาชาติ ที่มีผู้โดยสารเดินทางผ่านเข้า-ออกหลายล้านคน ซึ่งจะเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้กับ ทสภ.และประเทศไทยได้เป็นอย่างดี