xs
xsm
sm
md
lg

เตรียมยกร่าง พ.ร.ฎ.ขยายสิทธิสุขภาพให้ อปท.ทั่วประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“วิทยา” เร่งหารือขยายสิทธิรักษาพยาบาลให้ อปท.เข้าถึงบริการตามนโยบายสร้างความเสมอภาค 3 กองทุน เตรียมเสนอ ครม.พิจารณาเห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทย ออกประกาศให้ อปท.ได้รับสิทธิฉุกเฉิน และสิทธิสาธารณสุข ด้าน สปสช.เตรียมยกร่าง พ.ร.ฎ.ให้ อปท.ได้รับสิทธิรักษาพยาบาลตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 พร้อมตั้งคณะกรรมการจัดระบบสวัสดิการรักษาพยาบาล อปท.กำหนดค่าใช้จ่ายต่อหัวในแต่ละปี ขณะที่สิทธิประโยชน์เป็นไปตามระเบียบเดิม

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2555 ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) เป็นประธานการประชุมการขยายความครอบคลุมการให้บริการเจ็บป่วยฉุกเฉินและการคุ้มครองความมั่นคงสิทธิด้านการรักษาพยาบาลสำหรับข้าราชการพนักงานส่วนท้องถิ่นครั้งที่ 2
ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต
นายวิทยา กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายสร้างความเสมอภาคการรักษาพยาบาลของ 3 กองทุนประกันสุขภาพภาครัฐ แต่ยังไม่สามารถครอบคลุมข้าราชการ และพนักงานส่วนท้องถิ่นจำนวนกว่า 400,000 คนได้ อีกทั้งสถานการณ์ปัจจุบันท้องถิ่นประสบปัญหาเรื่องค่ารักษาพยาบาล โดยเฉพาะโรคค่าใช้จ่ายสูงเนื่องจากท้องถิ่นต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเอง เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีกฎหมายและระเบียบเฉพาะรวมทั้งการเบิกจ่ายค่ารักษาแยกส่วนแต่ละองค์กร และแตกต่างจาก 3 กองทุนจากประเด็นนี้ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อให้นโยบายสร้างความเสมอภาค 3 กองทุนคุ้มครองทุกคนอย่างแท้จริง ภายใต้มาตรฐานเดียวกันทุกคนทุกสิทธิ

นายวิทยา กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าของข้อเสนอการขยายสิทธิรับบริการเจ็บป่วยฉุกเฉินของข้าราชการ/พนักงานส่วนท้องถิ่น ตามนโยบายการพัฒนาระบบประกันสุขภาพของรัฐบาล ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ใน 3 ประเด็น คือ 1.เห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทยออกประกาศและแจ้งให้ อปท.เพิ่มสิทธิแก่ข้าราชการ/พนักงานส่วนท้องถิ่น ให้ได้สิทธิรับบริการเจ็บป่วยฉุกเฉิน เช่นเดียวกับผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 ทั้งนี้ รวมถึงบริการสาธารณสุขอื่นๆ ที่จะมีการบูรณาการต่อไปตามนโยบายรัฐบาลด้วย 2.เห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทยแก้ไขระเบียบและแจ้งให้อปท.ใช้หน่วยงานกลางในการจัดการธุรกรรมการเบิกจ่ายค่ารักษาและระบบข้อมูลต่างๆ (Clearing House) โดยสปสช.สำรองจ่ายและให้ อปท.จ่ายเงินคืนให้แก่ สปสช.ภายใน 30 วัน รวมทั้งจัดส่งฐานข้อมูลของอปท.ให้สปสช.เพื่อจัดทำฐานข้อมูลผู้มีสิทธิและให้มีการปรับปรุงต่อเนื่อง 3.เห็นชอบให้สปสช.ทำข้อตกลงความร่วมมือกับอปท.ทุกแห่ง เพื่อดำเนินการตามรายละเอียดข้อ 1 และ 2

นายวิทยา กล่าวอีกว่า ได้มอบให้ สปสช.ทำหน้าที่ยกร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้พนักงานและลูกจ้างของอปท.ใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขตามพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 นั้น สาระสำคัญดังนี้ ผู้ที่ได้รับสิทธิ คือ พนักงานและลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างประจำจากงบประมาณของอปท. ผู้ได้รับบำนาญตามกฎหมายบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารอปท. ประธานหรือรองประธานหรือสมาชิกสภาพอปท. บิดา มารดา คู่สมรส และบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายไม่เกิน 3 คน เว้นแต่บุคคลที่ได้รับสิทธิจากงบประมาณอื่นหรือสิทธิประกันสังคม โดยสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาลให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของพนักงานส่วนท้องถิ่น และให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจัดสรรเงินในส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลสำหรับพนักงานหรือลูกจ้างให้แก่กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในอัตราค่าใช้จ่ายต่อผู้มีสิทธิ ซึ่งได้ตกลงเป็นรายปีโดยคณะกรรมการจัดระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของพนักงานและลูกจ้าง อปท.ร่วมทั้งค่าบริหารจัดการในวงเงิน 1.5% ของเงินค่าใช้จ่ายสวัสดิการรวมในแต่ละปี อย่างไรก็ตาม สธ.ได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบในหลักการที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น