สธ.ฟุ้ง หลักประกันสุขภาพไทยขายออก เวียดนาม-จีน สนใจแลกเปลี่ยน

ปลัด สธ.โว ต่างชาติสนใจระบบหลักประกันสุขภาพของไทย เพราะเป็นเจ้าแรกในอาเซียนที่ประสบความสำเร็จ ส่วนการประชุม รมต.สธ.อาเซียน เตรียมหารือคุมหวัดนก หวัดใหญ่ เหล้า และบุหรี่

วันนี้ (5 ก.ค.) ที่โรงแรมโมเวนพิค รีสอร์ต แอนด์ สปา จ.ภูเก็ต นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวหลังการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน ครั้งที่ 11 ระหว่างวันที่ 2-6 กรกฎาคม 2555 โดยมีประเทศสมาชิกเข้าร่วม ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม ลาว ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ บรูไน ไทย พม่า และ กัมพูชา ว่า การประชุมครั้งนี้เน้นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการเรียนรู้ข้อมูลด้านสุขภาพ 5 เรื่อง ได้แก่ 1.โรคติดต่อ โรคอุบัติใหม่ ซึ่งจะหารือถึงสถานการณ์โรคไข้หวัดนก และโรคไข้หวัดใหญ่ รวมถึงการเตรียมพร้อม และการป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการตั้งเครือข่ายทำงานสาธารณสุขอาเซียน (ISR) เพื่อทำหน้าที่ช่วยเหลือหากประเทศสมาชิกเกิดการระบาด 2.โรคติดต่อทั่วไป เช่น โรคไข้เลือดออก 3.โรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน และความดัน ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญจากบุหรี่และเหล้า โดยจะเน้นการป้องกันไม่ให้เกิดโรค รวมถึงมีการหารือในเรื่องของมาตรการควบคุมเหล้าและบุหรี่ในแต่ละประเทศ 4.การร่วมมือกับประเทศต่างๆนอกอาเซียน คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งจะมีการหารือว่าจะร่วมมืออย่างไรต่อไป และ 5.เรื่องหลักประกันสุขภาพของแต่ละประเทศ

นพ.ไพจิตร์ กล่าวอีกว่า ระบบหลักประกันสุขภาพของไทยได้รับการยอมรับมาก โดยหลายประเทศให้ความสนใจ ว่า ไทยมีการดำเนินการระบบหลักประกันสุขภาพอย่างไร มีปัญหาและการแก้ไขอย่างไรบ้าง ซึ่งประเทศเวียดนามได้ลงนามความร่วมมือกับไทยในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องนี้แล้วเมื่อปี 2554 นอกจากนี้ ยังมีจีนที่ให้ความสนใจ โดยต้องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เช่นกัน ซึ่งการประชุมครั้งนี้ยังชูในเรื่องของนโยบายลดความเหลื่อมล้ำ 3 กองทุนสุขภาพของไทย ให้กลุ่มอาเซียนรับทราบ โดยเฉพาะนโยบายบริการผู้ป่วยฉุกเฉินไม่ถามสิทธิ ไม่มีเงื่อนไข ทั้งกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า กองทุนประกันสังคม และกองทุนสิทธิสวัสดิการข้าราชการ

“จุดแข็งของไทยที่ต่างชาติให้ความสนใจ คือ เรื่องการควบคุมโรคระบาด โดยมีการฝึกนักระบาดวิทยาที่ทำในลักษณะเครือข่ายทั้งในประเทศและนอกประเทศ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งไทยริเริ่มตั้งแต่จ่าย 30 บาท รักษาทุกโรค และมีการพัฒนาระบบขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ แม้จะมีปัญหา แต่ก็สามารถแก้ไขจนกระทั่งปัจจุบัน และนับว่าไทยเป็นประเทศเดียวในกลุ่มอาเซียนที่ทำเรื่องหลักประกันสุขภาพโดยรัฐได้สำเร็จ” ปลัด สธ.กล่าว