สปสช.เตรียมนัด สธ.โรงพยาบาลเอกชน ตัวแทน 3 กองทุน หารืออัตราค่าบริการเจ็บป่วยฉุกเฉิน เหตุ รพ.เอกชนร้องเรียนเกรงขาดทุน “หมอวินัย” ชี้ ต้นเหตุเพราะระบบส่งต่อ โรงพยาบาลต้นสังกัดหาเตียงรองรับผู้ป่วยที่พ้นวิกฤตได้ช้า
นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงความคืบหน้านโนบายเจ็บป่วยฉุกเฉินมาตรฐานเดียว โดยไม่ต้องสอบถามสิทธิ และไม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้า ของ 3 กองทุนสุขภาพ คือ กองทุนข้าราชการพลเรือน กองทุนหลักประกันสุขภาพ และกองทุนประกันสังคม โดยสมาคมโรงพยาบาลเอกชนได้ทำหนังสือถึง สปสช.และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เนื่องจากต้องการปรับค่าบริการเจ็บป่วยฉุกเฉินกำหนดอัตราใหม่ให้มากกว่า 10,500 บาทนั้น ขณะนี้ สปสช.และ สธ.อยู่ระหว่างการนัดหมายเพื่อประชุมหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตัวแทน 3 กองทุน และโรงพยาบาลเอกชน เพื่อดำเนินการในการศึกษาต้นทุนที่แท้จริงในการรักษาพยาบาล เนื่องจากช่วง 3 เดือน ที่ผ่านมา โรงพยาบาลเอกชนร้องเรียนเข้ามา ว่า ประสบปัญหาอาจจะขาดทุนในการให้บริการฉุกเฉินเพื่อให้ผู้ป่วยพ้นขีดอันตราย
นพ.วินัย กล่าวต่อว่า จากการศึกษาโรงพยาบาลรัฐในสังกัดมีอัตราการให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉินในอัตราที่ต่ำกว่า 10,500 บาท สะท้อนว่า การบริการฉุกเฉินโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมได้รับผลกระทบจากกรณีการส่งต่อ เช่น รักษา หรือช่วยชีวิตให้พ้นขีดอันตรายแล้ว โรงพยาบาลต้นสังกัดไม่มีเตียงรองรับ ซึ่งโรงพยาบาล เอกชนมีข้อเสนอให้โรงพยาบาลต้นสังกัดเร่งหาเตียงภายใน 24 ชั่วโมง แต่ในการดำเนินการจริงกลับหาเตียงได้อย่างเร็วที่สุด 2 วัน ในการรองรับผู้ป่วยฉุกเฉินที่อาการดีขึ้นแล้ว ซึ่งส่วนนี้จะต้องหารือกันว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร แต่หากเน้นศึกษาต้นทุนของการรักษา อาจต้องใช้เวลานานพอสมควร เนื่องจากแต่ละโรงพยาบาลอาจมีต้นทุนที่ต่างกันไป
เมื่อถามว่า โรงพยาบาลเอกชนได้เสนอให้ปรับเปลี่ยนราคาอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ เลขาธิการ สปสช.กล่าวว่า ยังไม่มีใครเสนอตัวเลข เพราะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดเดาได้ อย่างไรก็ตามในการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น สปสช.ได้ประสานกับโรงพยาบาลเอกชนแห่งอื่นๆ เพื่อรองรับผู้ป่วยฉุกเฉินที่พ้นขีดอันรายแล้ว ทั้งนี้ ปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เป็นปัญหาที่มีมาก่อนแล้ว เนื่องจาก พ.ร.บ.การแพทย์ฉุกเฉิน ก็กำหนดให้โรงพยาบาลรับผู้ป่วยในภาวะวิกฤตโดยอันติโนมัติ แต่โรงพยาบาลก็ยังเรียกเก็บเงินจากผู้ป่วยแล้ว อ้างว่า เมื่อเบิกเงินได้จะนำมาคืนให้ซึ่งส่วนนี้ต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ทราบสิทธิของตัวเองและไม่ควรจ่ายก่อน