สธ.เผย สถิติผู้ป่วยฉุกเฉินมาตรฐานเดียวกัน 3 กองทุน ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา พบใช้บริการทั้งหมด 2,714 ราย สปสช.จ่ายเงินชดเชยให้รพ.เอกชนแล้ว 26 ล้านบาท เฉลี่ยเดือนละ 10 ล้านบาท ฟุ้งโครงการให้ผลดี ช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินได้กว่าร้อยละ 96
นายแพทย์ ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าของโครงการบริการดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินมาตรฐานเดียวกันใน 3 กองทุน โดยไม่ทวงถามสิทธิ์ ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 ว่า จนถึงวันที่ 28 มิถุนายนนี้ มีผู้ป่วยฉุกเฉินใช้บริการรวมทั้งสิ้น 2,714 ราย เป็นผู้ป่วยใน 1,992 ราย ผู้ป่วยนอก 732 ราย สำหรับค่าใช้จ่ายการรักษา สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้จ่ายเงินงบประมาณชดเชยให้โรงพยาบาลเอกชนที่ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นเงิน 26 ล้านกว่าบาท เฉลี่ยเดือนละประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่แตกต่างจากระบบปกติทั่วไป แต่ผลที่ได้ที่เหนือและสำคัญกว่าค่าตัวเงินก็คือการรอดชีวิตของผู้ป่วย ซึ่งโครงการนี้สามารถช่วยผู้ป่วยฉุกเฉินพ้นขีดอันตรายและรอดชีวิตได้กว่าร้อยละ 96
ปลัด สธ.กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่โรงพยาบาลเอกชนรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินจนพ้นขีดอันตรายแล้ว จะส่งผู้ป่วยเข้าสู่ระบบปกติตามสิทธิที่ใช้อยู่เดิม ขณะนี้ใช้เวลาในการหาเตียงประมาณ 2 วัน ซึ่งโรงพยาบาลเอกชนจะขอให้พัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้เหลือระยะเวลา 1 วัน ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกำลังร่วมกันพัฒนาระบบอยู่ โดยประสานโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งในเขต กทม.และปริมณฑล เช่น โรงพยาบาลสมุทรปราการ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า และโรงพยาบาลเอกชน 2-3 แห่งที่จะให้เตรียมเตียงไว้รับการส่งตัว จะช่วยบรรเทาปัญหาได้ ที่ผ่านมามีผู้ป่วยที่ต้องประสานหาเตียงร้อยละ 17.42
“ขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายในกรณีที่ยังหาเตียงรับกลับไม่ได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบการคำนวณหาต้นทุนการจัดบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งจะต้องเป็นหลักการที่ยอมรับได้ทั้ง 2 ฝ่าย จากนั้น สปสช.จะเสนอมาตรการดังกล่าวให้ 3 กองทุนร่วมพิจารณาต่อไป” นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าว
นายแพทย์ ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าของโครงการบริการดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินมาตรฐานเดียวกันใน 3 กองทุน โดยไม่ทวงถามสิทธิ์ ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 ว่า จนถึงวันที่ 28 มิถุนายนนี้ มีผู้ป่วยฉุกเฉินใช้บริการรวมทั้งสิ้น 2,714 ราย เป็นผู้ป่วยใน 1,992 ราย ผู้ป่วยนอก 732 ราย สำหรับค่าใช้จ่ายการรักษา สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้จ่ายเงินงบประมาณชดเชยให้โรงพยาบาลเอกชนที่ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นเงิน 26 ล้านกว่าบาท เฉลี่ยเดือนละประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่แตกต่างจากระบบปกติทั่วไป แต่ผลที่ได้ที่เหนือและสำคัญกว่าค่าตัวเงินก็คือการรอดชีวิตของผู้ป่วย ซึ่งโครงการนี้สามารถช่วยผู้ป่วยฉุกเฉินพ้นขีดอันตรายและรอดชีวิตได้กว่าร้อยละ 96
ปลัด สธ.กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่โรงพยาบาลเอกชนรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินจนพ้นขีดอันตรายแล้ว จะส่งผู้ป่วยเข้าสู่ระบบปกติตามสิทธิที่ใช้อยู่เดิม ขณะนี้ใช้เวลาในการหาเตียงประมาณ 2 วัน ซึ่งโรงพยาบาลเอกชนจะขอให้พัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้เหลือระยะเวลา 1 วัน ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกำลังร่วมกันพัฒนาระบบอยู่ โดยประสานโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งในเขต กทม.และปริมณฑล เช่น โรงพยาบาลสมุทรปราการ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า และโรงพยาบาลเอกชน 2-3 แห่งที่จะให้เตรียมเตียงไว้รับการส่งตัว จะช่วยบรรเทาปัญหาได้ ที่ผ่านมามีผู้ป่วยที่ต้องประสานหาเตียงร้อยละ 17.42
“ขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายในกรณีที่ยังหาเตียงรับกลับไม่ได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบการคำนวณหาต้นทุนการจัดบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งจะต้องเป็นหลักการที่ยอมรับได้ทั้ง 2 ฝ่าย จากนั้น สปสช.จะเสนอมาตรการดังกล่าวให้ 3 กองทุนร่วมพิจารณาต่อไป” นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าว