xs
xsm
sm
md
lg

“สมิทธ” ชี้ จับตาพายุเข้าไทยถึง ก.ย.ระบุภัยแล้ง ส.ค.-ต.ค.น่าห่วง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมิทธ ธรรมสโรช
“สมิทธ” ชี้ จับตาพายุเข้าไทย ถึงเดือน ก.ย. หากถล่มไทยโดยตรง ผนวกลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ นำฝนเข้ามาตอนบน หรือตอนกลาง อาจเสี่ยงน้ำท่วม แต่น่าห่วงภัยแล้ง ช่วง ส.ค.-ต.ค.หากฝนไม่ตก และเขื่อนยังพร่องน้ำไว้จนเหลือไม่เพียงพอ คาด ไม่เกิน 10 ปีน้ำท่วมกรุง แนะสร้างเขื่อนกั้นน้ำทะเลระยะทาง 90 กิโลเมตร จากบริเวณอำเภอชะอำ จนถึงบางปะกง ปิดปากแม่น้ำ

นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวในการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การจัดการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมเผชิญสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ว่า แนวโน้มการเกิดภัยพิบัติในประเทศไทยในปีนี้ยังคงต้องติดตามสถานการณ์พายุที่จะเข้าประเทศไทยจนถึงช่วงเดือนกันยายน จึงจะชี้ได้ว่าจะมีน้ำท่วมใหญ่ในประเทศไทยหรือไม่ หากมีพายุเข้ามาโดยตรง หรือมีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้นำฝนเข้ามาตอนบน หรือตอนกลางของประเทศไทย แล้วมีปริมาณน้ำมากเกินกว่าจะบริหารจัดการได้ ก็จะมีโอกาสที่จะเกิดน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันยังถือว่าเป็นปกติ ฝนยังไม่มากนัก และมีการพร่องน้ำเตรียมรองรับแล้ว

นายสมิทธ กล่าวว่า สิ่งที่น่าห่วงในขณะนี้ คือ หากมีฝนตกน้อยในช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม อาจเกิดสถานการณ์ภัยแล้งอย่างหนักในประเทศไทย กระทบกับพื้นที่เพาะปลูกในภาพตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางอย่างหนัก อีกทั้งมีการพร่องน้ำในเขื่อนไว้อาจทำให้ไม่มีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคและการเกษตร ซึ่งหลายสำนักพยากรณ์ในต่างประเทศก็ระบุไว้ว่าบริเวณประเทศไทยจะเกิดสถานการณ์เอลนิโน

นายสมิทธ กล่าวด้วยว่า ในระยะ 8-9 ปีนับจากนี้ ประเทศไทยยังมีความเสี่ยงจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งหากไม่มีการดำเนินการป้องกันใดๆ จะทำให้น้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลภายในเวลาไม่ถึง 10 ปีนับจากนี้ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ก็ยังเป็นไปตามลำดับดังกล่าว สังเกตได้จากชายหาดหลายแห่ง เริ่มมีระยะสั้นลงเรื่อยๆ เนื่องจากน้ำทะเลสูงขึ้น สำหรับแนวทางที่จะป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว คือ จะต้องมีการสร้างเขื่อนกั้นน้ำทะเลระยะทาง 90 กิโลเมตร จากบริเวณอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี จนถึงบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อปิดปากแม่น้ำสำคัญ ทั้งแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำบางปะกง
กำลังโหลดความคิดเห็น