“บรรหาร” หารือ “สุขุมพันธุ์” ส่ง “นิกร” ตัวกลางประสานงานบริหารจัดการน้ำ กทม.-กรมชล เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 24 ชุด ระบบคลองรังสิต ช่วยฝั่งตะวันออก แต่ฝั่งตะวันตกจะประคองให้ดีที่สุด เชื่อ 2 ประสานช่วยสถานการณ์น้ำปีนี้เบาบางลง
วันนี้ (10 ก.พ.) เวลา 11.00 น.ที่ห้องนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา และอดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายนิกร จำนง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เข้าหารือกับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.และคณะผู้บริหาร กทม.ในการหลักการบริหารจัดการน้ำ
ทั้งนี้ นายบรรหาร กล่าวก่อนการเข้าหารือ ว่า สถานการณ์น้ำปีนี้ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าปริมาณน้ำจะมากหรือน้อย เพราะมีปัจจัยหลายอย่างทั้งภัยธรรมชาติ และการบริหารจัดการของกรมชลประทาน อย่างไรก็ตาม ตนเองมีความเป็นห่วงพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบอย่างหนัก วันนี้จึงมาหารือถึงแนวทางร่วมกันกับ กทม.ในการจัดการน้ำ โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับกรมชลประทาน ซึ่งตนเองจะให้ นายนิกร จำนง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ประสานการทำงานร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาระหว่าง กทม.กับรัฐบาลอาจมีปัญหาการทำงานร่วมกัน โดยมองว่าสาเหตุมาจากขาดการประสานงานที่ดี ดังนั้น เชื่อว่า ปีนี้จะไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกับ กทม.อย่างแน่นอน และตนเองก็ได้ให้นโยบายกับกรมชลประทานเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งนำข้อเสนอแนะ และผลสรุปจากการหารือร่วมกับ กทม.ไปหารือกับกรมชลประทานต่อไป
จากนั้นเวลา 12.00 น.นายบรรหาร กล่าวภายหลังการหารือว่า ปัญหาน้ำท่วมปีที่ผ่านมา ทุกคนทราบว่า กทม.และกรมชลประทาน ได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ แต่ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นจะให้เกิดขึ้นอีกในปีนี้ไม่ได้ ทั้งนี้ ในส่วนของรัฐบาลได้เร่งรัดขั้นตอนหลายอย่าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วม โดยเฉพาะการบริหารการระบายน้ำในเขื่อนภูมิพล ซึ่งที่ประชุมการจัดการน้ำ (กยน.) เห็นว่า ภายในเดือนพฤษภาคม ต้องปล่อยน้ำในเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ให้น้ำเหลือในเขื่อน 45 เปอร์เซ็นต์ หากมีพายุจะได้รองรับน้ำได้เต็มที่ เนื่องจากปี 2554 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตไม่ได้ปล่อยน้ำในเขื่อนทั้ง 2 เขื่อนตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีน้ำไว้ผลิตไฟฟ้า และทำการเกษตรประกอบกับมีพายุเข้ามา ทำให้น้ำในเขื่อนล้น เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมตั้งแต่จังหวัด นครสวรรค์ ชัยนาท อ่างทอง อยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพพฯ อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนการปล่อยระบายน้ำจะต้องดูทุกสัปดาห์
“ผมเป็นห่วงมาก ดังนั้น ผมจะเพิ่มเครื่องสูบน้ำที่คลองรังสิต 24 ชุด และดำเนินการติดตั้งให้แล้วเสร็จภายในพฤษภาคมนี้ ซึ่งจะช่วยให้ระบายน้ำจากคลองรังสิตลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จาก 75 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 108 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะช่วยทางฝั่งตะวันออก ส่วนทางฝั่งตะวันตกก็จะพยายามประคับประคองให้ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ถ้าได้มีการประสานงานกันสถานการณ์น้ำปีนี้ก็จะเบาบางลง” นายบรรหาร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาการบริหารจัดการน้ำมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง จะแก้ไขอย่างไร นายบรรหารกล่าวว่า นักการเมืองก็ทำหน้าที่ดูแลประชาชน คนทำงานจริงๆ ก็มีอยู่แล้ว นักการเมืองคงไม่สามารถเข้าไปสั่งการได้ เพราะคนไม่รู้ก็คงไม่กล้าตัดสินใจ
ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า การหารือครั้งนี้ นายบรรหารได้ให้ความรู้ในการแก้ปัญหาน้ำท่วม พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนปัญหาน้ำท่วมในภาพรวมของกรุงเทพฯ รวมทั้งให้ข้อคิดหลายเรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำ ซึ่งข้อคิดเห็นต่างๆ บางเรื่องก็อยู่ระหว่างการดำเนินการ บางเรื่องกทม.เพิ่งได้รับงบประมาณและกำลังดำเนินการ นอกจากนี้ ยังมีแผนป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ซึ่งหากมีปัญหาเกี่ยวกับการจัดการน้ำ กทม.สามารถแจ้งให้นายนิกร รับทราบได้ทันที เพื่อให้การประสานงานเป็นไปอย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ด้านนายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักระบายน้ำ (สนน.) กล่าวว่า การตั้ง นายนิกร ขึ้นมาเพื่อประสานงานระหว่างกรมชลประทาน กับ กทม.นั้น ไม่ได้หมายความว่าที่ผ่านมาการประสานงานของกทม.กับกรมชลประทานไม่มีประสิทธิภาพ แต่ นายนิกร เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความรู้ความเข้าใจและสามารถประสานงานไปยังรัฐบาลได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดยไม่ติดขัด อย่างไรก็ตาม การตั้งผู้ประสานงานขึ้นมาจะทำให้ปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ เบาบางลง แต่ไม่หมายความว่าน้ำจะไม่ท่วมกรุงเทพฯ
