เครือข่ายงดเหล้าชี้ งานบุญบั้งไฟร้อยเอ็ดส่อจัดงานผิดกม.ควบคุมเหล้า จี้ รมว.มหาดไทยจัดระเบียบ แฉมีนักการเมืองท้องถิ่นเปิดทางบริษัทเหล้าเบียร์เป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ ร้านเหล้าแห่ขาย-ดื่มในงานอย่างเสรีทุกปี วอนเจ้าหน้าที่เข้มงวดเอาผิดตามกฎหมาย
วันนี้ (27 พ.ค.) นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวถึงงานบุญบั้งไฟที่จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งจะจัดขึ้นในอำเภอสุวรรณภูมิ วันที่ 30 พ.ค. - 3 มิ.ย. 2555 และอำเภอพนมไพร วันที่ 4-5 มิ.ย.2555 ว่า สคล.ได้ทำจดหมายเปิดผนึก 3 ฉบับ เพื่อร้องเรียนการกระทำที่อาจเข้าข่ายละเมิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ไปยังนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค เนื่องจากทั้ง 2 พื้นที่ที่ใช้จัดงานบุญบั้งไฟ มีบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ให้การสนับสนุนหลักทุกครั้ง และทุกปีจะมีการจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ห้ามจำหน่าย โดยเฉพาะวัดและโรงเรียน ซึ่งผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ที่สำคัญยังมีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีด้วย ส่งผลให้เกิดการทะเลาะวิวาทในกลุ่มผู้มาเที่ยวงานโดยเฉพาะวัยรุ่น และอาจจะเกิดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับได้ รวมทั้งได้มีการลักลอบเล่นพนันบั้งไฟที่มีวงเงินการเล่นตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสน
นายธีระ กล่าวว่า ถึงแม้ว่าร่าง กม.ทั้ง 3 ฉบับ ที่มีเนื้อหาห้ามขายบนทางสาธารณะหรือบนรถยนต์ยังไม่ได้ประกาศใช้เป็นกฎหมาย แต่ในทางปฏิบัติแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเอาผิดกับผู้ขายในพื้นที่ดังกล่าวได้ตามกฎหมายเดิมที่ได้กำหนดไว้ และเป็นที่น่าเศร้าใจไปยิ่งกว่านี้เมื่อ ในปีนี้ อำเภอสุวรรณภูมิประกาศรับเงินสนับสนุนจากบริษัทเครื่องแอลกอฮอล์รายใหญ่ ด้วยความเห็นชอบจากนักการเมืองท้องถิ่น
“งานบุญบั้งไฟในอดีต เป็นประเพณีที่ดีงามของคนอีสาน แต่มาวันนี้กลับกลายเป็นงานที่เต็มไปด้วยผู้ประกอบการที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภายในงานเต็มไปด้วยอบายมุขทุกรูปแบบ แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาจัดระเบียบได้ ซึ่งหากปล่อยให้เป็นไปอย่างนี้เท่ากับเป็นการทำลายประเพณีที่ดีงามของคนอีสานไปอย่างสิ้นเชิง หนทางที่จะแก้ปัญหาดังกล่าวได้คือ เจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องเอาจริงเองจังกับเรื่องดังกล่าว” นายธีระ กล่าว
ด้าน นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า การเฝ้าระวังการกระทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ในเทศกาลงานบุญบั้งไฟนั้น ต้องดูว่ามีการกระทำผิดตามกฎหมายหรือไม่ เช่น การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในที่ห้ามขาย ขายเกินเวลา และมีการจำหน่ายให้เด็กต่ำกว่า 20 ปี รวมถึงต้องดูว่าเข้าข่ายโฆษณาด้วย จึงจะสามารถเอาผิดได้ ซึ่งหากมีการกระทำผิดกฎหมายเดิมอยู่แล้วก็จะดำเนินการทันที แต่หากเป็นการกระทำผิดโดยอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายจะต้องดูว่ามีกฎหมายอื่นที่สามารถเอาผิดได้หรือไม่ ส่วนเรื่องที่อยู่นอกเหนือกฎหมายต้องทำในลักษณะของการรณรงค์ขอความร่วมมือ โดยต้องดูเป็นกรณีไป
นพ.สมาน กล่าวอีกว่า ในช่วงนี้อยู่ระหว่างการประกาศบังคับใช้กฎหมายห้ามขาย-ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในโรงงานอุตสาหกรรม รัฐวิสาหกิจ และบนรถทุกประเภท จะจัดให้มีการสัมมนาให้ความรู้ด้านกฎหมายกับเครือข่ายผู้ปฏิบัติงานในกระบวนการยุติธรรมประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตำรวจ อัยการ และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อให้เข้าใจและสามารถปฏิบัติงานไปในทิศทางเดียวกันโดยจะจัดนำร่องครั้งแรกในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลภายเดือนมิถุนายน 2555 นี้จากนั้นจะหมุนเวียนไปจัดตามสถานที่ต่างๆทั่วประเทศ จำนวน 8 ครั้ง ขณะเดียวกันก็จะมีการให้ความรู้และทำความเข้าใจด้านกฎหมายกับประชาชนควบคู่ไปด้วยเพื่อให้เข้าใจตรงกัน