“สมุนแม้ว” เชื่อยังไม่ถึงเวลาสลับเก้าอี้ รมต. ฉะบ้าน 111 ใจร้อนปล่อยข่าวป่วนรบ. ฟันธง“ไอ้ตู่” มา มท.แน่ เหตุหวังใช้เป็นกระบอกเสียง การันตี “ยงยุทธ” เกาะเก้าอี้แน่น เผย “ทักษิณ - แกนนำ พท.” ให้ “ยิ่งลักษณ์” สอบผ่าน อวยเขี้ยวเล็บเริ่มออกประคองตัวได้ ประเมิน“เสื้อแดง” ไม่แตกแยก แค่เห็นต่างบางกรณี พูดเป็นนัยประเทศเดินหน้าได้ต้องสลายสีเสื้อ
วันนี้(4พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องนี้ยังไม่จบ ระดับผู้ตัดสินใจยังไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง เป็นเพียงคนระดับล่างที่พยายามปล่อยข่าวกันออกมา ซึ่งกลยุทธ์การบริหารคนที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้นแตกต่างจากรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีการปรับ ครม.ทุก 4-6 เดือน โดยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะประเมินสถานการณ์เป็นหลัก จึงไม่ได้สามารถกำหนดระยะเวลาได้ อย่างในตอนนี้ควรปล่อยให้ ครม.ชุดนี้ได้ทำงาน ได้หายใจบ้าง ประเทศยังถูกขับเคลื่อนไปได้ หากเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ข้าราชการก็ปรับตัวไม่ทัน ก็จะทำให้คนที่เข้าไปทำงานเหนื่อยมากขึ้น เพราะข้าราชการจะเกียร์ว่าง เรื่องปรับ ครม.ต้องใจเย็นๆ ถ้าจะปรับต้องคำนึงถึงประโยชน์ประชาชน
“ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าพวกบ้านเลขที่ 111 จะรีบร้อนไปทำไม คนเหล่านี้รอได้ก็รอไปก่อน อยู่อย่างทุกวันก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร” แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับกรณีที่ปรากฎชื่อนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแกนนำคนเสื้อแดง จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในการปรับ ครม.ครั้งถัดไปนั้น แหล่งข่าว กล่าวว่า ผู้ใหญ่ในพรรคก็เห็นว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมหลายด้าน เพราะถือเป็นบุคลากรที่มีความสามารถ ขณะที่กระทรวงมหาดไทยเองก็มีงานมาก ต้องการคนลักษณะนายจตุพรเข้ามาช่วยงาน แต่คงไม่ถึงเป็นรัฐมนตรีว่าการ คงมาเสริมในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการเท่านั้น โดยเบื้องต้นการันตี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี จะยังควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอยู่เช่นเดิม ซึ่งที่ผ่านมาการทำงานก็อยู่ในระดับน่าพึงพอใจ เพียงแต่นายยงยุทธมีภาระหน้าที่หลายด้าน ทั้งตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อาจทำให้ขับเคลื่อนงานในกระทรวงมหาดไทยได้ไม่เต็มที่ จึงเห็นว่าควรมีคนลักษณะอย่างนายจตุพรเข้าช่วยงาน โดยนอกเหนือจากแบ่งเบาภาระที่เกี่ยวกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับท้องถิ่นทั่วประเทศแล้ว ยังมีความสามารถในด้านการพูด เพื่อประชาสัมพันธ์และอธิบายงานต่างๆได้ดีด้วย ที่สำคัญเป็นคนที่เข้าใจการทำงานการเมือง เพราะคว่ำหวอดในวงการมานาน
“อย่าไปคิดว่าถึงคิวของจตุพรต้องได้ตำแหน่งรัฐมนตรี คนเสื้อแดงเขาก็พูดน่ารัก ว่าเขาสร้างคนด้วยมือ คงไม่ถูกลบด้วยเท้า เพียงแค่ขอโอกาสให้คนของเขาได้ทำงาน และผมก็เชื่อว่าจตุพรน่าจะทำได้ดี ส่วนตัวก็ไม่คิดว่าจตุพรจะเข้ามาเป็นสายล่อฟ้าอะไร เพราะไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเข้ามาโจมตีเท่าไร พอทำงานไประยะหนึ่งประชาชนก็จะตัดสินเอง การโจมตีกันในยุคนี้ไม่เหมือนในอดีต หากถูกโจมตีเราก็มีวิธีการแก้ไขที่ไม่ยาก มีช่องทางในการสื่อสารเยอะ ประชาชนก็รู้เท่าทันเหตุการณ์มากขึ้น” แหล่งข่าว ระบุ
ส่วนการทำงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ผ่านมานั้น แหล่งข่าวกล่าวว่า ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และผู้ใหญ่ในพรรค เห็นว่ายนายกฯทำงานดีขึ้น ต่างจากในช่วงแรกที่มีความห่วงใยสูง เพราะก่อนดึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้ามาพรรคเพื่อไทยมีปัญหา ถูกยุบพรรคมา 2 หน มีหัวหน้าพรรคมา 3 คน ฉะนั้นจะหาคนที่กล้าเข้ามาทำงานให้ค่อนข้างลำบาก หาได้ก็แต่คนที่ไม่เคยผ่านการเมืองมาก่อน มีบุคลิกนิ่มนวล อ่อนเรื่องการเมือง แต่เมื่อเข้ามาแล้ว เวลาการบริหารงานจะช่วยให้เกิดความเข้มแข็งได้ในระยะ 3 - 6 เดือน
“คุณยิ่งลักษณ์เป็นผู้บริหารที่เก่ง แต่เรื่องการเมืองอ่อนสุดๆ มาวันนี้ผู้ใหญ่ในพรรคเริ่มเห็นเขี้ยวเล็บของคุณยิ่งลักษณ์ แม้จะด้อยเรื่องการพรีเซ้นท์ผลงานและตอบโต้ทางการเมือง แต่ก็มีตัวช่วยอื่น เช่น คุณณัฐวุฒิ ที่คอยอธิบาย ตีรวน และตอบโต้แทนได้ แม้ไม่เอาคุณจตุพรเข้ามาก็มีเขี้ยวเล็บพร้อมอยู่แล้ว” คนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุ
แหล่งข่าวยังได้พูดถึงกรณีที่หลายฝ่ายมองว่า มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในกลุ่มคนเสื้อแดง จนกระทบมาถึงเสถียรภาพของรัฐบาลว่า วันนี้คนเสื้อแดงไม่ได้แตก จำนวนคนเสื้อแดงยังมีมหาศาล เพียงแต่ความคิดเห็นแตกต่าง เชื่อว่าวันนี้คนเสื้อแดงเข้าในสถานการณ์ดี ว่าประเทศจะขับเคลื่อนไม่ได้ หากยังมีแบ่งสีแบ่งเหล่ากันอยู่ ประเทศไทยเวลามีการปฏิวัติรัฐประหารก็จะทำการค้าขายกับต่างชาติลำบาก ที่ผ่านมาประเทศไทยเดินเฟืองขบกัน วันนี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้องปรับเฟืองให้หมุนในรอบปกติ หากเราไม่ปรับนักลงทุนก็จะหนีไปลงทุนที่อื่น อย่างในตอนนี้ที่แห่กันไปลงทุนที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งจะทำให้ประเทศเราล้าหลัง สิ่งหนึ่งที่ต่างชาติไม่ชอบก็คือ การถูกตรวจสอบมากๆ