ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดคาร์บอมบ์โวยแตก ทนไม่ไหวกับปัญหาที่เกิดขึ้น ปรี่เข้าร้องเรียนกับรองนายกฯ หลังต้องประสบปัญหาความไม่สงบติดต่อกันมาหลายครั้ง ทำให้สูญเสียคนใกล้ชิด และหวาดวิตกกับสถานการณ์ แต่ถูก จนท.นำตัวออก
วันนี้ (1 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดยะลาว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ขณะที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีฯ พร้อมด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายปกรณ์ พันธุ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เดินทางลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ ที่ถนนรวมมิตร เขตเทศบาลนครยะลา
โดยมีนายเดชรัฐ สิมสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ให้การต้อนรับ ซึ่งขณะที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีฯ กำลังพูดคุยพบปะกับประชาชนที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ได้มีนายอุดม แซ่ตั้น อายุ 52 ปี ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ เดินเข้ามาด้วยอาการมึนเมา ทั้งนี้แม้จะอยู่ในอาการเมา แต่ก็ถือเป็นเหยื่อไฟใต้ที่ได้รับผลกระทบจริง และเกิดความคับแค้นใจอย่างมาก ซึ่งเพียงต้องการเข้าร้องเรียนต่อผู้บริหารบ้านเมืองเท่านั้น และพยายามจะยกมือพูดคุยสอบถามกับรองนายกรัฐมนตรี ถึงเหตุการณ์ทีเกิดขึ้น แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ของจังหวัดยะลา เข้ามาสอบถามถึงปัญหา และได้นำตัวออกมา
จากนั้นนายอุดมจึงได้นำเจ้าหน้าที่ไปดูร้านขายเสื้อผ้าเลขที่ 61 และ 63 ซึ่งเป็นร้านของลูกสาว และน้องสาว ที่เปิดร้านขายเสื้อผ้า แต่ก็ถูกระเบิดคาร์บอมบ์ ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ จนได้รับความเสียหาย โดยร้านอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์คันแรกเพียงไม่กี่เมตร โชคดี ที่คนภายในร้านได้รับบาดเจ็บไม่มาก
นายอุดม แซ่ตั้น จึงได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเอง รู้สึกอัดอั้นใจ หลังเกิดเหตุระเบิดเมื่อวานนี้ คนภายในบ้านทั้ง ภรรยา ลูกสาว และญาติๆ ก็ไม่ยอมให้ออกไปไหน ตนเองเคยประสบเหตุความไม่สงบมาแล้ว เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2554 ขณะที่ไปหาสัตว์แถวพื้นที่ ต.กะพ้อ จ.ปัตตานี พร้อมกับน้องชาย และหลานรวม 3 คน ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามไล่ยิง จนทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บ ส่วนน้องชาย และหลานที่ไปด้วยถูกยิงเสียชีวิตทั้ง 3 ราย
หลังเกิดเหตุ ทางราชการก็ช่วยเหลือเยียวยา แต่เงินที่ได้มาก็ไม่เพียงพอที่จะชดใช้หนี และซ่อมแซมรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งค่ารักษาพยาบาลด้วย หลังจากออกจากโรงพยาบาล ออกมาแล้วก็ไม่สามารถประกอบอาชีพอะไรได้ ตอนนี้ก็อาศัยอยู่กับลูกสาวที่เปิดร้านขายเสื้อผ้า แต่ก็ต้องมาประสบเหตุระเบิดอีกครั้งเมื่อวานนี้ ทำให้ข้าวของในร้านได้รับความเสียหาย ตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปเรียกร้องกับผู้ใด จึงอยากให้หน่วยงานราชการเข้ามาดูแล
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ของจังหวัดได้สอบถามข้อมูล และแนะนำให้ไปยื่นเรื่องกับศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบ ที่ทางจังหวัดยะลาได้ตั้งศูนย์เฉพาะกิจขึ้นรับร้องเรียนความเสียหายจากเหตุระเบิด โดยทางญาติๆ ของนายอุดม ได้เข้าทำความสะอาดภายในร้าน และตรวจดุความเสียหายของร้าน ซึ่งญาติๆ ได้กล่าวเป็นเสียงเดียวเลยว่าสูญเสียกำลังใจ และเสียขวัญต่อเหตุระเบิดในครั้งนี้เป็นอย่างมาก