กทม.สั่งสำนักการคลัง ซื้อถังดับเพลิง 1 แสนใบ แจกจ่ายสถานีดับเพลิง และชุมชนที่มีความเสี่ยง พร้อมให้ กปน.และเด็กอาชีวะช่วยตรวจสอบสายไฟเก่าในบ้านเรือนประชาชน
พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า เหตุภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ทั้งภัยธรรมชาติและฝีมือของมนุษย์ ที่มีทั้งไฟไหม้ แผ่นดินไหว ลมพายุ ทวีความรุนแรงมากขึ้น กทม.จึงจะสร้างพันธกิจที่ชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้สามารถเข้าดูแล และช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงทีในภัยพิบัติทุกรูปแบบ โดยจะมีการเพิ่มอัตรากำลังคน เพิ่มอุปกรณ์ที่จำเป็นในภารกิจ เพิ่มการดูแล และทำความเข้าให้กับประชาชนให้มีความรู้และป้องกันตนเองและปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง ซึ่งจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในช่วงหน้าแล้งที่ผ่านมา เกิดจากเหตุไฟฟ้าลัดวงจรในหลายจุด จึงได้ประสานกับทางการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสายไฟเก่าตามบ้านเรือนของประชาชนที่อาจชำรุด ใช้งานมานาน รวมถึงทางเข้า-ออกทางหนีไฟ สำหรับตึกสูง ซึ่งอาจยังไม่ทั่วถึงจึงได้ให้หน่วยงานไปจับมือกับทางอาชีวศึกษา ให้นักเรียนอาชีวะมาช่วยตรวจสอบ เพื่อให้ดำเนินการได้รวดเร็วและทั่วถึงมากขึ้น
สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้หากเกิดเพลิงไหม้ กทม.ได้มอบหมายให้สำนักการคลัง จัดซื้อถังดับเพลิงประมาณ 1 แสนใบ โดยตอนนี้ได้ทยอยส่งไปให้กับหน่วยงานและชุมชนต่างๆ แล้ว โดยแบ่งเป็นของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) จำนวน 2 หมื่นใบ เพื่อแจกจ่ายไปยังสถานีดับเพลิงต่างๆ อีกประมาณ 7 หมื่นใบ จะแจกจ่ายไปตามสำนักงานเขต เพื่อให้เขตแจกจ่ายไปยังชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อไป โดยถังดับเพลิงที่ซื้อในล็อตนี้ ราคาอยู่ที่ถังละ 1,100 บาท ขนาด 9.5 กิโลกรัม ซึ่งทาง สปภ.จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปฝึกอบรมให้กับชุมชนในการใช้อุปกรณ์ และการปฏิบัติตนเมื่อเกิดเพลิงไหม้อย่างไร
พญ.มาลินี กล่าวด้วยว่า ได้สั่งการให้ สปภ.ไปตรวจสอบว่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันภัยจะต้องมีอะไรเพิ่มเติม อุปกรณ์ใดที่มีความจำเป็น อุปกรณ์ใดที่ต้องมีการปรับปรุงให้มีความทันสมัย เพื่อดำเนินการจัดซื้อต่อไป
พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า เหตุภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ทั้งภัยธรรมชาติและฝีมือของมนุษย์ ที่มีทั้งไฟไหม้ แผ่นดินไหว ลมพายุ ทวีความรุนแรงมากขึ้น กทม.จึงจะสร้างพันธกิจที่ชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้สามารถเข้าดูแล และช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงทีในภัยพิบัติทุกรูปแบบ โดยจะมีการเพิ่มอัตรากำลังคน เพิ่มอุปกรณ์ที่จำเป็นในภารกิจ เพิ่มการดูแล และทำความเข้าให้กับประชาชนให้มีความรู้และป้องกันตนเองและปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง ซึ่งจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในช่วงหน้าแล้งที่ผ่านมา เกิดจากเหตุไฟฟ้าลัดวงจรในหลายจุด จึงได้ประสานกับทางการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสายไฟเก่าตามบ้านเรือนของประชาชนที่อาจชำรุด ใช้งานมานาน รวมถึงทางเข้า-ออกทางหนีไฟ สำหรับตึกสูง ซึ่งอาจยังไม่ทั่วถึงจึงได้ให้หน่วยงานไปจับมือกับทางอาชีวศึกษา ให้นักเรียนอาชีวะมาช่วยตรวจสอบ เพื่อให้ดำเนินการได้รวดเร็วและทั่วถึงมากขึ้น
สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้หากเกิดเพลิงไหม้ กทม.ได้มอบหมายให้สำนักการคลัง จัดซื้อถังดับเพลิงประมาณ 1 แสนใบ โดยตอนนี้ได้ทยอยส่งไปให้กับหน่วยงานและชุมชนต่างๆ แล้ว โดยแบ่งเป็นของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) จำนวน 2 หมื่นใบ เพื่อแจกจ่ายไปยังสถานีดับเพลิงต่างๆ อีกประมาณ 7 หมื่นใบ จะแจกจ่ายไปตามสำนักงานเขต เพื่อให้เขตแจกจ่ายไปยังชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อไป โดยถังดับเพลิงที่ซื้อในล็อตนี้ ราคาอยู่ที่ถังละ 1,100 บาท ขนาด 9.5 กิโลกรัม ซึ่งทาง สปภ.จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปฝึกอบรมให้กับชุมชนในการใช้อุปกรณ์ และการปฏิบัติตนเมื่อเกิดเพลิงไหม้อย่างไร
พญ.มาลินี กล่าวด้วยว่า ได้สั่งการให้ สปภ.ไปตรวจสอบว่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันภัยจะต้องมีอะไรเพิ่มเติม อุปกรณ์ใดที่มีความจำเป็น อุปกรณ์ใดที่ต้องมีการปรับปรุงให้มีความทันสมัย เพื่อดำเนินการจัดซื้อต่อไป
