"ไกรฤกษ์ นานา" แนะคนไทยควรอ่านหนังสือดรุณศึกษา ชี้สอนการสะกดคำให้ใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง และยังสอนให้รู้จักความสามัคคี บอกคนไทยยังขาดอีกเยอะ
สำนักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช จำกัด จัดการเสวนา “มหัศจรรย์ดรุณศึกษา คุณค่าข้ามศตวรรษ” เนื่องในโอกาสครบรอบ 102 ปี หนังสือดรุณศึกษา แบบเรียนที่เด็กไทยใช้ศึกษามาอย่างยาวนาน โดยมี อ.ไกรฤกษ์ นานา ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ รัชกาลที่ 4-5 อ.ตวงพร ทิพย์จ้อย อาจารย์ภาษาไทยดีเด่น จากโรงเรียนอัสสัมชัญ สมุทรปราการ และ ผศ.อินทิรา บุนนาค ร่วมเสวนา ดำเนินรายการโดยคุณอริสรา กำธรเจริญ
อ.ไกรฤกษ์ กล่าวว่า แบบเรียนภาษาไทย "ดรุณศึกษา" ที่ร่ำเรียนกันมาแต่เด็กๆ และใช้กันยาวนานมากว่า 102 ปี ไม่ใช่หนังสือที่คนไทยแต่งขึ้น แต่กลับเป็นชาวฝรั่งเศสนามว่า ฟ. ฮีแลร์ ที่หลงใหลในภาษาไทยมาก เมื่อความรู้ถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระองค์จึงเรียกให้เข้าเฝ้า และเชิญให้เข้าร่วมสมาคมวรรณคดี ฟ.ฮีแลร์ใช้เวลาแต่ง 11 ปี มีทั้งหมด 5 เล่ม และได้รับโอกาสเป็นหนังสือที่ระลึกแจกในงานถวายพระเพลิงของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วย
"หนังสือเล่มนี้ใช้รูปภาพมาประกอบการสอน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทันสมัยมากในขณะนั้น เพราะหนังสือไทยในยุคก่อนจะไม่มีรูปภาพประกอบ และการที่หนังสือมีรูปภาพอยู่นี่เอง ทำให้เราได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์จากภาพได้อีกด้วย เช่น รูปขอมดำดิน ที่เราได้แต่จินตนาการว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร แต่ว่าหนังสือเล่มนี้มีการวาดภาพเพื่อบรรยายเนื้อเรื่องไว้" อ.ไกรฤกษ์ กล่าว
อ.ตวงพร กล่าวว่า เป็นหนังสือเล่มนี้มีวิธีการเรียงร้อยสระ การสะกดคำ ไว้อย่างครบถ้วน เด็กที่ได้อ่านจะสามารถอ่านเขียนได้คล่อง มีคำศัพท์กว้าง และมีความรอบรู้ และแม้ว่าโรงเรียนที่ใช้หนังสือเล่มนี้ในการเรียนการสอนจะเป็นโรงเรียนในเครือคาทอลิกแต่ก็แนะนำอยากให้ผู้ปกครองซื้อมาลองอ่านเอง เพื่อให้ลูกหลานได้เรียนรู้ภาษาไทยได้แตกฉานยิ่งขึ้น และนอกจากหนังสือเล่มนี้สอนภาษาไทยแล้ว ยังสอดแทรกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ประเพณี วัฒนธรรม และคำสอนต่างๆ ไว้ด้วย
"ความทันสมัยที่ ฟ.ฮีแลร์ ได้สอดแทรกไว้ในหนังสือเล่มนี้ คือ กล่าวถึงประวัติศาสตร์ของประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพม่า จีน มาเลเซีย ดังกับจะรู้ว่าในอีก 100 ปีต่อมา ประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่การเปิดเสรีอาเซียนทำให้เราต้องรู้จักประเทศเพื่อนบ้านของเราให้มากขึ้น ซึ่งในหนังสือเล่มนี้ได้เตรียมความพร้อมไว้ให้เด็กๆ เรียบร้อยแล้ว และสิ่งที่น่าอัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่งคือ หนังสือเล่มนี้ได้บันทึกเรื่องการล่มลงของเรือไททานิค จะเห็นได้ว่าขณะที่ประพันธ์หนังสือเล่มนี้ นอกจากตั้งใจที่จะแต่งหนังสือภาษาไทยแล้ว ยังตั้งใจที่จะใส่ประวัติศาสตร์ไทย และประวัติศาสตร์โลกลงไปในหนังสือด้วย" อ.ตวงพร กล่าว
ผศ.อินทิรา กล่าวว่า หนังสือเล่มนี้ทางไทยวัฒนาพานิช ได้รับความไว้วางใจมากว่า 50 ปี ในการพิมพ์และจัดจำหน่าย จำได้ว่าตั้งแต่สมัยคุณย่าแล้ว ซึ่งเราไม่ได้แตะต้องเนื้อหาในเล่มเลย นอกจากเปลี่ยนภาพปกของหนังสือเท่านั้น เนื้อหาและรูปประกอบยังคงเป็นของเดิมทั้งสิ้นเพราะเราถือว่าเป็นสิ่งที่มีความเป็นมายาวนานและมีคุณค่ามาก
นอกจากนี้ อ.ไกรฤกษ์ ยังกล่าวอีกว่า ช่วงที่ ฟ.ฮีแลร์ ประพันธ์หนังสือเป็นช่วงเวลาเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นการแตกความสามัคคีกันของทางฝั่งตะวันตก ฟ.ฮีแลร์ จึงทำให้เนื้อหาในหนังสือสอนเรื่องความสามัคคี ความรัก ความกลมเกลียวกันของคนในชาติ ซึ่งเนื้อหาที่คนไทยยุคปัจจุบันต้องอ่าน เพื่อให้เกิดความสำนึกในการรักชาติ และสร้างความกลมเกลียวกันมากขึ้น การแบ่งพวกพ้อง แบ่งฝ่าย ย่อมไม่เกิดผลดีใดๆ แก่ชาติบ้านเมือง
ทั้งนี้ แบบเรียนภาษาไทยชุดดรุณศึกษา มีทั้งสิ้น 5 เล่ม สำหรับเด็กระดับเตรียมประถม - ประถมศึกษาปีที่ 4 โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการสะกดคำให้ถูกต้อง สอดแทรกแนวคิดด้านคุณธรรม จริยธรรม ประเพณีปฏิบัติ และประวัติศาสตร์ต่างๆ