อย.ชี้ ยาอันตราย 5 ชนิด นำไปทำสารตั้งต้นยาเสพติดไม่ได้ แต่ใช้ฤทธิ์ข้างเคียงของยา เตือนอันตรายถึงชีวิต
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีการเปิดเผยข้อมูลยาอันตรายอีก 5 ชนิด ซึ่งยังมีวางจำหน่ายในร้านขายยาทั่วไป เช่น ยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของ Diphenhydramine หรือ Promethazine หรือ Dextromethorphan ยาสเตียรอยด์ (Steriod) ชนิดเม็ดรับประทาน และยาแก้ปวด Tramadol ว่า ยากลุ่มนี้เป็นยาอันตรายที่ อย.เฝ้าระวังและจับตาดูเป็นพิเศษอยู่แล้ว แต่ต้องทำความเข้าใจว่า ยากลุ่มนี้ไม่สามารถนำไปทำสารตั้งต้นเพื่อผลิตยาเสพติดได้ แต่เป็นการนำยาไปใช้ในทางที่ผิด โดยใช้ฤทธิ์ข้างเคียงของยาทดแทนสารเสพติด ไม่ใช่นำยากลุ่มนี้ไปสกัดเป็นสารเสพติดชนิดอื่น โดยที่ผ่านมา มักพบการใช้ยาผิดประเภทลักษณะดังกล่าวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ทำให้ อย.จึงได้ออกมาตรการเฝ้าระวังและป้องกัน เช่น กำหนดปริมาณการขายยาให้กับร้านขายยาในพื้นที่ดังกล่าว และห้ามร้านขายยาในพื้นที่ดังกล่าวขายยาที่ควบคุมให้กับผู้บริโภคในจำนวนครั้งละมากๆ
“การเฝ้าระวังการใช้ยาที่มีผลข้างเคียง ที่อาจจะนำไปใช้เพื่อเสพติด อย.ได้ทำอย่างต่อเนื่อง แต่พบว่ากลุ่มผู้เสพยามักจะหายามาทดแทนและเปลี่ยนกลุ่มยาเพื่อใช้เสพติดไปเรื่อยๆ ซึ่งการใช้ผลข้างเคียงจากยาเหล่านี้ ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้” เลขาธิการ อย.กล่าว
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีการเปิดเผยข้อมูลยาอันตรายอีก 5 ชนิด ซึ่งยังมีวางจำหน่ายในร้านขายยาทั่วไป เช่น ยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของ Diphenhydramine หรือ Promethazine หรือ Dextromethorphan ยาสเตียรอยด์ (Steriod) ชนิดเม็ดรับประทาน และยาแก้ปวด Tramadol ว่า ยากลุ่มนี้เป็นยาอันตรายที่ อย.เฝ้าระวังและจับตาดูเป็นพิเศษอยู่แล้ว แต่ต้องทำความเข้าใจว่า ยากลุ่มนี้ไม่สามารถนำไปทำสารตั้งต้นเพื่อผลิตยาเสพติดได้ แต่เป็นการนำยาไปใช้ในทางที่ผิด โดยใช้ฤทธิ์ข้างเคียงของยาทดแทนสารเสพติด ไม่ใช่นำยากลุ่มนี้ไปสกัดเป็นสารเสพติดชนิดอื่น โดยที่ผ่านมา มักพบการใช้ยาผิดประเภทลักษณะดังกล่าวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ทำให้ อย.จึงได้ออกมาตรการเฝ้าระวังและป้องกัน เช่น กำหนดปริมาณการขายยาให้กับร้านขายยาในพื้นที่ดังกล่าว และห้ามร้านขายยาในพื้นที่ดังกล่าวขายยาที่ควบคุมให้กับผู้บริโภคในจำนวนครั้งละมากๆ
“การเฝ้าระวังการใช้ยาที่มีผลข้างเคียง ที่อาจจะนำไปใช้เพื่อเสพติด อย.ได้ทำอย่างต่อเนื่อง แต่พบว่ากลุ่มผู้เสพยามักจะหายามาทดแทนและเปลี่ยนกลุ่มยาเพื่อใช้เสพติดไปเรื่อยๆ ซึ่งการใช้ผลข้างเคียงจากยาเหล่านี้ ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้” เลขาธิการ อย.กล่าว
