“รพ.แมคคอร์มิค” รอด สธ.พบเบิกจ่ายยาสมเหตุผล รุดตรวจเพิ่มที่ นครศรีธรรมราช
นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ โฆษกคณะทำงานป้องกันและปราบปราบ ฟื้นฟู และเยียวยาด้านยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงผลการตรวจสอบ รพ.แมคคอร์มิค จ.เชียงใหม่ ที่พบว่า มีการสั่งยาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสมถึง 233,290 เม็ด ว่า จากการตรวจสอบเวชระเบียนผู้ป่วยของทางโรงพยาบาล พบว่า ไม่มีความผิดปกติ เนื่องจากโรงพยาบาลดังกล่าวมีผู้เข้ารับบริการจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นในการใช้ยาดังกล่าวจำนวนมาก
นายธนกฤต กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา คณะทำงานฯ นำโดย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากพบข้อมูลจากทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่า คลินิกแห่งนี้มียอดการสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยวจำนวนมากถึง 442,000 เม็ด โดยเป็นยอดการสั่งซื้อเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า คลินิกดังกล่าวมีการสั่งซื้อจริง ทั้งยังมีการขายยาซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยวโดยที่ไม่ต้องพบแพทย์ก่อน และยังไม่มีการรายงานการจ่ายยาในเวชระเบียนด้วย ซึ่งเมื่อคณะทำงานฯตรวจสอบสต๊อกยาของคลินิกแห่งนี้ ก็พบว่า ไม่เหลือยาซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยวที่สั่งมาแล้ว ดังนั้น ทางคณะทำงานฯจึงรวบรวมข้อมูลส่งต่อไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้ว เพื่อทำการสืบสวนว่าคลินิกแห่งนี้มีการขายยาให้ใครไปบ้าง
นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ โฆษกคณะทำงานป้องกันและปราบปราบ ฟื้นฟู และเยียวยาด้านยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงผลการตรวจสอบ รพ.แมคคอร์มิค จ.เชียงใหม่ ที่พบว่า มีการสั่งยาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสมถึง 233,290 เม็ด ว่า จากการตรวจสอบเวชระเบียนผู้ป่วยของทางโรงพยาบาล พบว่า ไม่มีความผิดปกติ เนื่องจากโรงพยาบาลดังกล่าวมีผู้เข้ารับบริการจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นในการใช้ยาดังกล่าวจำนวนมาก
นายธนกฤต กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา คณะทำงานฯ นำโดย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากพบข้อมูลจากทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่า คลินิกแห่งนี้มียอดการสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยวจำนวนมากถึง 442,000 เม็ด โดยเป็นยอดการสั่งซื้อเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า คลินิกดังกล่าวมีการสั่งซื้อจริง ทั้งยังมีการขายยาซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยวโดยที่ไม่ต้องพบแพทย์ก่อน และยังไม่มีการรายงานการจ่ายยาในเวชระเบียนด้วย ซึ่งเมื่อคณะทำงานฯตรวจสอบสต๊อกยาของคลินิกแห่งนี้ ก็พบว่า ไม่เหลือยาซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยวที่สั่งมาแล้ว ดังนั้น ทางคณะทำงานฯจึงรวบรวมข้อมูลส่งต่อไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้ว เพื่อทำการสืบสวนว่าคลินิกแห่งนี้มีการขายยาให้ใครไปบ้าง
