ศรีสะเกษ - “ดีเอสไอ” เรียกเค้นสอบเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกรณียาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีนหายไปจากบัญชียา รพ.ภูสิงห์ 2.5 แสนเม็ด คาดมีผู้ร่วมขบวนการมากกว่า 3 คน เหตุพบข้อมูลกระทำผิดในหลายขั้นตอน เจอพิรุธทั้งการสั่งซื้อยา-การเบิกจ่าย และอาจมีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายร่วมด้วย ระบุใช้เวลา 1 สัปดาห์สรุปผลการสอบสวนได้
วันนี้ (25 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงพยาบาลภูสิงห์ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายทัชชกร อรรณพเพ็ชร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม ได้ลงพื้นที่ทำการสอบสวนเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลภูสิงห์ กรณียาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีน ซึ่งใช้เป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดได้หายไปจากบัญชียาของโรงพยาบาลภูสิงห์ 2.5 แสนเม็ด เป็นวันที่ 2 หลังจากที่เมื่อวานนี้ (24 เม.ย.) ได้เข้าพบผู้อำนวยการโรงพยาบาล (ผอ.รพ.) ภูสิงห์ และนายอำเภอภูสิงห์ ซึ่งให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก
นายทัชชกร อรรณพเพ็ชร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ได้เดินทางมาลงพื้นที่ อ.ภูสิงห์ ในวันนี้ (25 เม.ย.) เป็นวันที่ 2 ของการสอบสวน ซึ่งได้เรียกเจ้าหน้าที่ประจำห้องยาของโรงพยาบาลภูสิงห์ มาสอบปากคำทีละคน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการของโรงพยาบาลที่มีการรับเรื่องการสั่งซื้อยาจากหัวหน้าฝ่ายเภสัชกรรมด้วย โดยการสอบสวนนั้นจะเร่งให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ และจะได้นำข้อมูลทั้งหมดเข้าประชุมเพื่อสรุปผลการสอบสวนที่สำนักงานสอบสวนคดีพิเศษอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นจึงจะสามารถดำเนินคดีเอาผิดผู้เกี่ยวข้องได้
นายทัชชกรกล่าวต่อว่า ในการสอบสวนเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องกรณียาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีนหายไปจากบัญชียาของโรงพยาบาลภูสิงห์นั้น ขณะนี้พบข้อมูลการกระทำความผิดในหลายขั้นตอน ซึ่งคาดว่าอาจมีผู้ร่วมขบวนการมากกว่า 3 คน ซึ่งต่างจากรายงานการสอบสวนของคณะกรรมการระดับจังหวัด ซึ่งอาจมีเจ้าหน้าที่จากหลายฝ่ายของโรงพยาบาลเข้าร่วมด้วย เพราะพบพิรุธในขั้นตอนการสั่งซื้อยา และการเบิกจ่ายยาของเจ้าหน้าที่เภสัชกรประจำห้องยาด้วย ซึ่งการสอบสวนจะใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์จึงจะสรุปผลการสอบสวนได้