ประชาชนรอถวายดอกไม้จันทน์ “เจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ” แน่น! กลางสายฝน ขณะ 2 ประชาชน จาก “ปทุมธานี” เผย เคยถวายงานรับใช้ ขอส่งเสด็จสู่สวรรค์คาลัยครั้งสุดท้าย
ภายหลังเสร็จสิ้นริ้วขบวนพระอิสริยยศ ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ ในริ้วขบวนที่ 3 แล้ว ก็ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทั้งที่บรรยากาศในช่วงเช้าร้อน ท้องฟ้าแจ่มใส ถือเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง และถึงแม้ว่าจะตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ประชาชนก็ยังปักหลักจับจองริมฟุตปาธโดยไม่หวั่นต่อสายฝน เพื่อรอรับเสด็จพระราชดำเนิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ในการเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงพระศพ ในเวลา 16.30 น.
นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า การเคลื่อนริ้วขบวนพระอิสริยยศ เป็นไปด้วยความสง่างามสมพระเกียรติ ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นริ้วขบวนที่ 3 แล้ว คณะช่าง กรมศิลปากร ได้ดำเนินการรื้อสะพานเกรินบันไดนาค สำหรับอัญเชิญพระโกศพระศพขึ้นประดิษฐานบนพระจิตกาธานในพระเมรุ ซึ่งเป็นไปตามโบราณราชประเพณี เนื่องจากในเวลา 16.30 น.จะมีพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลาประมาณ 12.30 น.ประชาชนที่เข้าร่วมในงานราชพิธี ต่างทยอยรับดอกไม้จันทน์ เพื่อถวายแด่พระศพเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ ซึ่งระหว่างที่ประชาชนเข้าแถวมอบถวายดอกไม้จันทน์นั้น มีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ก็ยังคงตากฝนเพื่อถวายความเคารพอย่างหนาแน่น
โดยนางเชวง แก้วงาม ชาวบ้านคลองหลวง ปทุมธานี และประธานผู้สูงอายุในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระบรมราชชนนี อายุ 76 ปี กล่าวว่า ตนเดินทางมาร่วมพิธีในวาระสุดท้ายของเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ ด้วยความจงรักภักดี เนื่องจากมีความรักและศรัทธาในพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และจะประจำอยู่ที่สนามหลวงจนกว่าจะเสร็จพิธี ทั้งนี้ เพราะทราบในพระเมตตาขององค์เจ้าฟ้า เพื่อครั้งยังรับราชการในกรมสวัสดิการ กองทัพอากาศ
“ก่อนจะเดินทางมา ลูกหลานถามว่า กลัวแดดร้อน หรือฝนตกแล้วเป็นลมไหม ตอบพวกเขาไปว่า เราเป็นข้าราชการรับใช้พระองค์มานาน ในเมื่อมาถึงวาระสุดท้า ก็ต้องส่งเสด็จสู่สวรรค์ ซึ่งไม่ว่าจะเจอเหตุการณฺ์ใดก็ต้องมา และตั้งใจไว้ว่าจะทยอยซื้อของที่ระลึกงานพระศพเพื่อสะสมไว้ให้ลูกหลานได้ดู” นางเชวง กล่าว
ด้านน.ส.สมพร แขกซอง ชาวปทุมธานี อายุ 74 ปี กล่าวว่าเหตุผลที่ตนเข้าร่วมในวันนี้ เพราะรู้สึกระลึกถึงพระคุณของพระองค์ท่าน สมัยที่ยังมีพระชนม์อยู่ พระองค์ทรงมีความสามารถหลายด้าน และมีเมตตากับประชาชนทุกระดับ โดยตนได้เคยถวายงานรับใช้ในฐานะอาสาสมัครของสมาคมสตรีอาสาสาสมัครรักษาดินแดน กรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่รับใช้พระองคท่านมานานกว่า 25 ปี และเมื่อถึงวาระสุดท้าก็ต้องมาร่วมด้วย
“จากนี้เมื่อไม่มีพระองค์ท่านแล้ว ก็คงต้องน้อมรับคำสอนของพระองค์ท่านไว้ในใจ นั่นคือ เรื่องของความมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ ซึ่งสมัยยังทำงานในสมาคม ก็ออกพื้นที่ช่วยเหลือคนยากไร้เสมอ และทุกครั้งที่ลำบาก พระองค์ก็ทรงให้กำลังใจแก่อาสาสมัครทุกคนเสมอ นอกจากนี้ ยังทรงมีอารมณ์ขันในยามที่ร่วมกิจกรรมทุกอย่างกับประชะชาชน ทำให้ทุกคนจงรักภักดีในพระเมตตาอย่างมาก ดังนั้น ในเมื่อไม่มีครอบครัว ก็ตั้งใจไว้ว่า จะถวายงานรับใช้พระบรมวงศานุวงศ์ ตลอดไปเทาที่จะมีแรงทำ” น.ส.สมพร กล่าว
