ASTVผู้จัดการรายวัน - พสกนิกรทุกหมู่เหล่าพร้อมใจร่วมถวายอาลัย “ เจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ ” ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ ขณะที่ประชาชนรอถวาย ดอกไม้จันทน์แน่นท่ามกลางสายฝน ส่วน 2 ประชาชน จาก “ปทุมธานี” เผยเคยถวายงานรับใช้ ขอส่งเสด็จสู่สวรรค์คาลัยครั้งสุดท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ที่บริเวณท้องสนามหลวง บรรยากาศงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ โดยมีประชาชนทุกหมู่เหล่า ทั้งประชาชนทั่วไป ข้าราชการ ทหาร ตำรวจฯลฯ เดินทางมาจากในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเพื่อรอรับชมริ้วขบวนพระอิสริยยศตามโบราณราชประเพณี ตั้งแต่พิธีการอัญเชิญพระโกศพระศพลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เคลื่อนขบวนไปตามเส้นทาง จนถึงพิธีอัญเชิญพระโกศโดยเกรินสู่พระเมรุ ประดิษฐาน ณ พระจิตกาธาน ที่ตั้งตระหง่านอยู่ ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง
ทั้งนี้ ในส่วนบริเวณที่จัดไว้ให้ประชาชนชื่นชมริ้วขบวนฯ ส่วนใหญ่จะรวมตัวอยู่บริเวณศาลฎีกา โดยบริเวณดังกล่าวมีการติดตั้งเครื่องถ่ายทอดสดจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ 4 จุด ขณะที่ประชาชนจำนวนมากที่มาจากต่างจังหวัดและกทม. เข้ามาจับจองที่นั่งตั้งแต่เมื่อคืน และเช้าตรู่
**แม่พาลูกลมชักจากลำปาง ร่วมส่งเสด็จฯ
นางลูกอิน เมืองแก้ว อายุ 50 ปี ชาว ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง กล่าวว่า ตนและลูกชายวัย 20 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคลมชัก เดินทางจากลำปางด้วยรถไฟฟรี โดยออกเดินทางตั้งแต่เวลา 14.00 น.เมื่อวันที่ 8 เม.ย. มาถึงหัวลำโพง ตอน03.00 น. โดยตั้งใจว่าจะมาร่วมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ซึ่งเป็นโอกาสสุดท้ายที่ได้ชื่นชมริ้วขบวนฯ หลังจากเห็นพระราชกรณียกิจเมื่อครั้งยังทรงมีพระชนม์ชีพ ผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ และถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ชื่นชมพระบารมีพระบรมวงศานุวงศ์ ในฐานะคนไทยถือน่าปลาบปลื้มใจที่สุดแล้ว แม้ว่าการเดินทางมาจะลำบากเนื่องจากมีประชาชนมาเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก แต่เป็นความปรารถนาของลูกชาย ตนจึงตัดสินในพามาซึ่งได้เตรียมยาที่ใช้รักษาอาการลูกชายมาพร้อม เพราะตั้งใจจะเฝ้าดูพระราชพิธีตลอดทั้งวันและค้างคืนที่สนามหลวง โดยจะเดินทางกลับวันที่ 10 เม.ย.นี้
ด้านนายเมืองอิน เมืองแก้ว หรือน้องแม็ก ซึ่งมีอาการพูดไม่ชัดเนื่องจากโรคลมชัก กล่าวว่า ตนได้ติดตามข่าวงานพระราชพิธีทางโทรทัศน์มานาน ทราบว่ามีขบวนพระอิสริยยศตามโบราณราชประเพณีอย่างยิ่งใหญ่ จึงอยากมารอชมขบวนทหารซึ่งตอนเด็กๆ เคยฝันอยากเป็นทหารแต่เป็นไม่ได้ พร้อมบอกว่าจะถวายดอกไม้จันทน์ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพด้วยตนเอง
**พสกนิกรเข้าคิวรอถวายดอกไม้จันทน์กลางสายฝน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลาประมาณ 12.30 น.ประชาชนที่เข้าร่วมในงานราชพิธี ต่างทยอยรับดอกไม้จันทน์ เพื่อถวายแด่พระศพเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ ซึ่งระหว่างที่ประชาชนเข้าแถวมอบถวายดอกไม้จันทน์นั้น มีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ก็ยังคงตากฝนเพื่อถวายความเคารพอย่างหนาแน่น
นางเชวง แก้วงาม ชาวบ้านคลองหลวง ปทุมธานี และประธานผู้สูงอายุในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระบรมราชชนนี อายุ 76 ปี กล่าวว่า ตนเดินทางมาร่วมพิธีในวาระสุดท้ายของเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ ด้วยความจงรักภักดี เนื่องจากมีความรักและศรัทธาในพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และจะประจำอยู่ที่สนามหลวงจนกว่าจะเสร็จพิธี ทั้งนี้ เพราะทราบซึ้งในพระเมตตาขององค์เจ้าฟ้า เมื่อครั้งยังรับราชการในกรมสวัสดิการ กองทัพอากาศ
ด้านน.ส.สมพร แขกซอง ชาวปทุมธานี อายุ 74 ปี กล่าวว่า ตนรู้สึกระลึกถึงพระคุณของพระองค์ท่าน สมัยที่ยังมีพระชนม์อยู่ พระองค์ทรงมีความสามารถหลายด้าน และมีเมตตากับประชาชนทุกระดับ โดยตนได้เคยถวายงานรับใช้ในฐานะอาสาสมัครของสมาคมสตรีอาสาสาสมัครรักษาดินแดน กรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่รับใช้พระองคท่านมานานกว่า 25 ปี และเมื่อถึงวาระสุดท้ายก็ต้องมาร่วมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ที่บริเวณท้องสนามหลวง บรรยากาศงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ โดยมีประชาชนทุกหมู่เหล่า ทั้งประชาชนทั่วไป ข้าราชการ ทหาร ตำรวจฯลฯ เดินทางมาจากในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเพื่อรอรับชมริ้วขบวนพระอิสริยยศตามโบราณราชประเพณี ตั้งแต่พิธีการอัญเชิญพระโกศพระศพลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เคลื่อนขบวนไปตามเส้นทาง จนถึงพิธีอัญเชิญพระโกศโดยเกรินสู่พระเมรุ ประดิษฐาน ณ พระจิตกาธาน ที่ตั้งตระหง่านอยู่ ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง
ทั้งนี้ ในส่วนบริเวณที่จัดไว้ให้ประชาชนชื่นชมริ้วขบวนฯ ส่วนใหญ่จะรวมตัวอยู่บริเวณศาลฎีกา โดยบริเวณดังกล่าวมีการติดตั้งเครื่องถ่ายทอดสดจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ 4 จุด ขณะที่ประชาชนจำนวนมากที่มาจากต่างจังหวัดและกทม. เข้ามาจับจองที่นั่งตั้งแต่เมื่อคืน และเช้าตรู่
**แม่พาลูกลมชักจากลำปาง ร่วมส่งเสด็จฯ
นางลูกอิน เมืองแก้ว อายุ 50 ปี ชาว ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง กล่าวว่า ตนและลูกชายวัย 20 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคลมชัก เดินทางจากลำปางด้วยรถไฟฟรี โดยออกเดินทางตั้งแต่เวลา 14.00 น.เมื่อวันที่ 8 เม.ย. มาถึงหัวลำโพง ตอน03.00 น. โดยตั้งใจว่าจะมาร่วมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ซึ่งเป็นโอกาสสุดท้ายที่ได้ชื่นชมริ้วขบวนฯ หลังจากเห็นพระราชกรณียกิจเมื่อครั้งยังทรงมีพระชนม์ชีพ ผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ และถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ชื่นชมพระบารมีพระบรมวงศานุวงศ์ ในฐานะคนไทยถือน่าปลาบปลื้มใจที่สุดแล้ว แม้ว่าการเดินทางมาจะลำบากเนื่องจากมีประชาชนมาเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก แต่เป็นความปรารถนาของลูกชาย ตนจึงตัดสินในพามาซึ่งได้เตรียมยาที่ใช้รักษาอาการลูกชายมาพร้อม เพราะตั้งใจจะเฝ้าดูพระราชพิธีตลอดทั้งวันและค้างคืนที่สนามหลวง โดยจะเดินทางกลับวันที่ 10 เม.ย.นี้
ด้านนายเมืองอิน เมืองแก้ว หรือน้องแม็ก ซึ่งมีอาการพูดไม่ชัดเนื่องจากโรคลมชัก กล่าวว่า ตนได้ติดตามข่าวงานพระราชพิธีทางโทรทัศน์มานาน ทราบว่ามีขบวนพระอิสริยยศตามโบราณราชประเพณีอย่างยิ่งใหญ่ จึงอยากมารอชมขบวนทหารซึ่งตอนเด็กๆ เคยฝันอยากเป็นทหารแต่เป็นไม่ได้ พร้อมบอกว่าจะถวายดอกไม้จันทน์ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพด้วยตนเอง
**พสกนิกรเข้าคิวรอถวายดอกไม้จันทน์กลางสายฝน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลาประมาณ 12.30 น.ประชาชนที่เข้าร่วมในงานราชพิธี ต่างทยอยรับดอกไม้จันทน์ เพื่อถวายแด่พระศพเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ ซึ่งระหว่างที่ประชาชนเข้าแถวมอบถวายดอกไม้จันทน์นั้น มีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ก็ยังคงตากฝนเพื่อถวายความเคารพอย่างหนาแน่น
นางเชวง แก้วงาม ชาวบ้านคลองหลวง ปทุมธานี และประธานผู้สูงอายุในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระบรมราชชนนี อายุ 76 ปี กล่าวว่า ตนเดินทางมาร่วมพิธีในวาระสุดท้ายของเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ ด้วยความจงรักภักดี เนื่องจากมีความรักและศรัทธาในพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และจะประจำอยู่ที่สนามหลวงจนกว่าจะเสร็จพิธี ทั้งนี้ เพราะทราบซึ้งในพระเมตตาขององค์เจ้าฟ้า เมื่อครั้งยังรับราชการในกรมสวัสดิการ กองทัพอากาศ
ด้านน.ส.สมพร แขกซอง ชาวปทุมธานี อายุ 74 ปี กล่าวว่า ตนรู้สึกระลึกถึงพระคุณของพระองค์ท่าน สมัยที่ยังมีพระชนม์อยู่ พระองค์ทรงมีความสามารถหลายด้าน และมีเมตตากับประชาชนทุกระดับ โดยตนได้เคยถวายงานรับใช้ในฐานะอาสาสมัครของสมาคมสตรีอาสาสาสมัครรักษาดินแดน กรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่รับใช้พระองคท่านมานานกว่า 25 ปี และเมื่อถึงวาระสุดท้ายก็ต้องมาร่วมด้วย