กลุ่มบริษัทในเครือมิตรผล มอบครุภัณฑ์การศึกษา มูลค่ากว่า 5 ล้าน ให้โรงเรียนในสังกัด สพฐ.56 แห่ง ใน 7 จ.ที่ถูกน้ำท่วม และอีก 4 จ.ที่ขาดแคลนอุปกรณ์การศึกษา ด้าน รมช.ศึกษาฯ ฝากให้ภาคเอกชนช่วยส่งเสริมการพัฒนาทักษะฝีมือ นศ.อาชีวะ ให้ได้รับประสบการณ์จริง
วันนี้ (22 มี.ค.) เวลา 11.30 น.ที่ห้องประชุมอาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ นายศักดา คงเพชร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานในพิธีรับมอบครุภัณฑ์การศึกษา ประกอบด้วย โต๊ะนักเรียน จำนวน 1,755 ตัว โต๊ะพับอเนกประสงค์ จำนวน 351 ตัว และตู้หนังสือ จำนวน 351 ตัว รวมมูลค่า 5,300,000 บาท จาก นายศุภนิตย์ มานะจิตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานทรัพยากรบุคคลและบริหาร พร้อมคณะผู้บริหารกลุ่มมิตรผล เพื่อส่งมอบต่อยังโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 56 แห่ง ใน 7 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554 ได้แก่ จ.ลพบุรี สิงห์บุรี อยุธยา สระบุรี ชัยนาถ พิษณุโลก และ สุโขทัย รวมถึง จ.กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น และชัยภูมิ ที่ยังขาดแคลนครุภัณฑ์การศึกษา
นายศุภนิตย์ กล่าวว่า เนื่องจากช่วงปลายปี 2554 ประเทศไทยได้เกิดเหตุการณ์มหาอุทกภัยขึ้นอย่างหนัก โรงเรียนต่างๆ ต้องหยุดการเรียนการสอน เนื่องจากครุภัณฑ์สื่อการเรียนการสอนถูกน้ำท่วมเสียหายจำนวนมาก ดังนั้น กลุ่มมิตรผล จึงได้ร่วมกับสมาคมผู้ผลิตน้ำตาลและชีวพลังงานไทย ระดมความช่วยเหลือทางด้านครุภัณฑ์เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพโรงเรียนตั้งแต่เดือนมกราคม ที่ผ่านมา เพื่อให้โรงเรียนสามารถเปิดการเรียนการสอนได้เร็วขึ้น ซึ่งครุภัณฑ์เหล่านี้ผลิตจากไม้อัดชานอ้อยและเศษไม้ยางที่ตัดจากต้นซึ่งหมดอายุการให้น้ำยางแล้ว โดยกลุ่มมิตรผล ได้ดำเนินธุรกิจภาคอุตสาหกรรมอ้อย น้ำตาล และชีวพลังงานมากว่า 55 ปีด้วยกรรมวิธีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม และที่ผ่านมากลุ่มมิตรผลได้ดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือด้านการศึกษาในหลายโครงการ อาทิ “โครงการเทิดไท้ 84 พรรษา” “มิตรผลอาสาพัฒนา 84 โรงเรียน” และ “โครงการพลังน้ำใจไทย” เป็นต้น
ด้าน นายศักดา กล่าวว่า ขอขอบคุณกลุ่มบริษัทมิตรผล ที่ทำหน้าที่จิตอาสาในการให้ความช่วยเหลือการศึกษาของประเทศ ถือว่าได้ทดแทนคุณของครูทั้ง 3 โดยครูที่ 1 ซึ่งเปรียบเสมือนครูแห่งแผ่นดิน คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนครูที่ 2 คือ คุณพ่อ-แม่ ซึ่งเป็นครูแห่งชีวิต และครูที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้กับเรา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์การศึกษาในสถานศึกษาต่างๆ ที่ประสบอุทกภัยยังเสียหายอยู่อีกเป็นจำนวนมาก จึงอยากฝากภาคเอกชนให้เข้ามาช่วยเหลือฟื้นฟู เนื่องจากรัฐบาลเองก็มีความพยายามในการหาทางมาฟื้นฟูและป้องกันปัญหาอุทกภัยทั้งระบบอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีนักเรียนมาเรียนสายอาชีวะเพียง 39% เท่านั้น ทั้งที่การเรียนการสอนของอาชีวศึกษามุ่งเน้นการสร้างทักษะอาชีพ เป็นกำลังที่สร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศ หากเปรียบเทียบกับต่างประเทศจะพบว่ามีนักเรียนที่สนใจเรียนสายอาชีพ 50-60% เพราะฉะนั้น อยากให้ทางบริษัท มิตรผล และภาคเอกชนช่วยให้การสนับสนุนส่งเสริมนักเรียน นักศึกษา ได้มีโอกาสเข้าร่วมฝึกประสบการณ์ทำงานจริงที่โรงงานด้วยเพื่อที่จะได้จบออกมาทำงานเป็นกำลังสำคัญที่มีคุณภาพของประเทศ
วันนี้ (22 มี.ค.) เวลา 11.30 น.ที่ห้องประชุมอาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ นายศักดา คงเพชร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานในพิธีรับมอบครุภัณฑ์การศึกษา ประกอบด้วย โต๊ะนักเรียน จำนวน 1,755 ตัว โต๊ะพับอเนกประสงค์ จำนวน 351 ตัว และตู้หนังสือ จำนวน 351 ตัว รวมมูลค่า 5,300,000 บาท จาก นายศุภนิตย์ มานะจิตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานทรัพยากรบุคคลและบริหาร พร้อมคณะผู้บริหารกลุ่มมิตรผล เพื่อส่งมอบต่อยังโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 56 แห่ง ใน 7 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554 ได้แก่ จ.ลพบุรี สิงห์บุรี อยุธยา สระบุรี ชัยนาถ พิษณุโลก และ สุโขทัย รวมถึง จ.กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น และชัยภูมิ ที่ยังขาดแคลนครุภัณฑ์การศึกษา
นายศุภนิตย์ กล่าวว่า เนื่องจากช่วงปลายปี 2554 ประเทศไทยได้เกิดเหตุการณ์มหาอุทกภัยขึ้นอย่างหนัก โรงเรียนต่างๆ ต้องหยุดการเรียนการสอน เนื่องจากครุภัณฑ์สื่อการเรียนการสอนถูกน้ำท่วมเสียหายจำนวนมาก ดังนั้น กลุ่มมิตรผล จึงได้ร่วมกับสมาคมผู้ผลิตน้ำตาลและชีวพลังงานไทย ระดมความช่วยเหลือทางด้านครุภัณฑ์เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพโรงเรียนตั้งแต่เดือนมกราคม ที่ผ่านมา เพื่อให้โรงเรียนสามารถเปิดการเรียนการสอนได้เร็วขึ้น ซึ่งครุภัณฑ์เหล่านี้ผลิตจากไม้อัดชานอ้อยและเศษไม้ยางที่ตัดจากต้นซึ่งหมดอายุการให้น้ำยางแล้ว โดยกลุ่มมิตรผล ได้ดำเนินธุรกิจภาคอุตสาหกรรมอ้อย น้ำตาล และชีวพลังงานมากว่า 55 ปีด้วยกรรมวิธีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม และที่ผ่านมากลุ่มมิตรผลได้ดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือด้านการศึกษาในหลายโครงการ อาทิ “โครงการเทิดไท้ 84 พรรษา” “มิตรผลอาสาพัฒนา 84 โรงเรียน” และ “โครงการพลังน้ำใจไทย” เป็นต้น
ด้าน นายศักดา กล่าวว่า ขอขอบคุณกลุ่มบริษัทมิตรผล ที่ทำหน้าที่จิตอาสาในการให้ความช่วยเหลือการศึกษาของประเทศ ถือว่าได้ทดแทนคุณของครูทั้ง 3 โดยครูที่ 1 ซึ่งเปรียบเสมือนครูแห่งแผ่นดิน คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนครูที่ 2 คือ คุณพ่อ-แม่ ซึ่งเป็นครูแห่งชีวิต และครูที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้กับเรา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์การศึกษาในสถานศึกษาต่างๆ ที่ประสบอุทกภัยยังเสียหายอยู่อีกเป็นจำนวนมาก จึงอยากฝากภาคเอกชนให้เข้ามาช่วยเหลือฟื้นฟู เนื่องจากรัฐบาลเองก็มีความพยายามในการหาทางมาฟื้นฟูและป้องกันปัญหาอุทกภัยทั้งระบบอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีนักเรียนมาเรียนสายอาชีวะเพียง 39% เท่านั้น ทั้งที่การเรียนการสอนของอาชีวศึกษามุ่งเน้นการสร้างทักษะอาชีพ เป็นกำลังที่สร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศ หากเปรียบเทียบกับต่างประเทศจะพบว่ามีนักเรียนที่สนใจเรียนสายอาชีพ 50-60% เพราะฉะนั้น อยากให้ทางบริษัท มิตรผล และภาคเอกชนช่วยให้การสนับสนุนส่งเสริมนักเรียน นักศึกษา ได้มีโอกาสเข้าร่วมฝึกประสบการณ์ทำงานจริงที่โรงงานด้วยเพื่อที่จะได้จบออกมาทำงานเป็นกำลังสำคัญที่มีคุณภาพของประเทศ