คกก.ควบคุม มอส.รับทราบ “สุมนต์” ลาออกอธิการ ขอช่วยรักษาการและส่งมอบงานให้กับผู้บริหารชุดใหม่ก่อน 15 วัน “กำจร” เผย 24 มี.ค.นี้จะมีการเสนอชื่อคนใหม่ที่เหมาะสมมาให้ คกก.ควบคุมฯ พิจารณาก่อน ชี้ ได้ตรวจสอบข้อร้องเรียนที่ส่งถึง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวหาว่าทำงานล่าช้าแล้วยันไม่เกี่ยวข้องแต่เพราะผลจากกระบวนการเรียนการสอนไม่ได้มาตรฐาน
วันนี้ (9 มี.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) ในฐานะคณะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการควบคุม มอส.ว่า ตนได้รายงานที่ประชุมว่า ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เห็นชอบให้คณะกรรมการควบคุมฯ ดำเนินการต่อ พร้อมกันนี้ได้พิจารณากรณีที่มีผู้ร้องเรียนผ่าน รมว.ศึกษาธิการ ด้วยว่าคณะกรรมการควบคุมทำงานล้าช้าเป็นผลให้นักศึกษาเสียประโยชน์ ไม่ได้รับอนุมัติจบการศึกษาจำนวนมาก โดยเฉพาะในระดับปริญญาโท ที่ค้างอยู่กว่า 2,000 คน ทั้งนี้ คณะกรรมการควบคุมฯได้ทำการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ พบว่า ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เป็นสาเหตุมาจากคณะกรรมการควบคุมทำงานล้าช้า แต่เป็นเพราะที่ผ่านมากระบวนการเรียนการสอนของ มอส.ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ สกอ.กำหนด เช่น นักศึกษาไม่มีผลการเรียนมายืนยัน และไม่มีอาจารย์ที่ปรึกษา ฯลฯ ซึ่งกำลังแก้ไขปัญหาอยู่ นอกจากนี้ ได้พิจารณากรณีที่มีผู้อ้างตัวเป็นนักศึกษาของ มอส.ยื่นหนังสือถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวหาในเรื่องเดียวกัน ซึ่งทางสำนักนายกรัฐมนตรีได้ติดต่อไปยังนักศึกษาคนดังกล่าว ปรากฏว่า นักศึกษาปฏิเสธ ว่า ไม่ได้ร้องเรียน แต่ถูกแอบอ้างชื่อไปใช่ในการปลอมแปลงเอกสารและปลอมลายเซ็นต์ ซึ่งทางคณะกรรมการควบคุมฯจะตรวจสอบและส่งเรื่องรายงานกลับไปยังสำนักนายกฯอีกครั้ง
“ที่ประชุมรับทราบการลาออกของ นายสุมนต์ สกลไชย อธิการบดี มอส.ซึ่งตามกฎหมายคณะผู้บริหารจะต้องหมดวาระตามไปด้วย ซึ่งอาจจะทำให้การทำงานหยุดชะงัก ดังนั้น คณะกรรมการควบคุมจึงขอเวลาให้นายสุมนต์ ทำงานต่ออีก 15 วันเพื่อเตรียมส่งข้อมูลต่างๆ ให้ผู้บริหารชุดใหม่ และระหว่างนี้คณะกรรมการควบคุมฯ จะหาตัวอธิการบดีพร้อมผู้บริหาร มอส.ชุดใหม่ โดยจะมีการเสนอชื่อผู้เหมาะสมให้ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมฯพิจารณาในวันที่ 24 มีนาคม ซึ่งเมื่อได้ผู้บริหารชุดใหม่แล้ว ก็จะต้องเชิญผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งมาหารือเกี่ยวแผนบริหาร มอส.ซึ่งปัญหาขณะนี้ยังขาดงบประมาณพัฒนาอาจารย์ จำนวน 150 ล้าน หากไม่มีงบประมาณตรงนี้ทางคณะกรรมการควบคุมฯจะเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ว่าไม่สามารถบริหารต่อไปได้” นพ.กำจร กล่าว
ด้าน นายสุมนต์ กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบการลาออกของตนเองแล้ว โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ซึ่งหากทางคณะกรรมการควบคุมฯยังไม่สามารถหาอธิการบดีคนใหม่ได้ตนก็อาจจะต้องช่วยรักษาการไปก่อนระยะหนึ่ง จนกว่าจะได้อธิการบดีคนใหม่ ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังได้อนุมัติการจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ของนักศึกษา มอส.จำนวน 108 ราย แบ่งเป็นหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพครู หรือ ป.บัณฑิต 28 ราย หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต 88 ราย และหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการปกครองท้องถิ่น 2 ราย
วันนี้ (9 มี.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) ในฐานะคณะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการควบคุม มอส.ว่า ตนได้รายงานที่ประชุมว่า ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เห็นชอบให้คณะกรรมการควบคุมฯ ดำเนินการต่อ พร้อมกันนี้ได้พิจารณากรณีที่มีผู้ร้องเรียนผ่าน รมว.ศึกษาธิการ ด้วยว่าคณะกรรมการควบคุมทำงานล้าช้าเป็นผลให้นักศึกษาเสียประโยชน์ ไม่ได้รับอนุมัติจบการศึกษาจำนวนมาก โดยเฉพาะในระดับปริญญาโท ที่ค้างอยู่กว่า 2,000 คน ทั้งนี้ คณะกรรมการควบคุมฯได้ทำการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ พบว่า ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เป็นสาเหตุมาจากคณะกรรมการควบคุมทำงานล้าช้า แต่เป็นเพราะที่ผ่านมากระบวนการเรียนการสอนของ มอส.ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ สกอ.กำหนด เช่น นักศึกษาไม่มีผลการเรียนมายืนยัน และไม่มีอาจารย์ที่ปรึกษา ฯลฯ ซึ่งกำลังแก้ไขปัญหาอยู่ นอกจากนี้ ได้พิจารณากรณีที่มีผู้อ้างตัวเป็นนักศึกษาของ มอส.ยื่นหนังสือถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวหาในเรื่องเดียวกัน ซึ่งทางสำนักนายกรัฐมนตรีได้ติดต่อไปยังนักศึกษาคนดังกล่าว ปรากฏว่า นักศึกษาปฏิเสธ ว่า ไม่ได้ร้องเรียน แต่ถูกแอบอ้างชื่อไปใช่ในการปลอมแปลงเอกสารและปลอมลายเซ็นต์ ซึ่งทางคณะกรรมการควบคุมฯจะตรวจสอบและส่งเรื่องรายงานกลับไปยังสำนักนายกฯอีกครั้ง
“ที่ประชุมรับทราบการลาออกของ นายสุมนต์ สกลไชย อธิการบดี มอส.ซึ่งตามกฎหมายคณะผู้บริหารจะต้องหมดวาระตามไปด้วย ซึ่งอาจจะทำให้การทำงานหยุดชะงัก ดังนั้น คณะกรรมการควบคุมจึงขอเวลาให้นายสุมนต์ ทำงานต่ออีก 15 วันเพื่อเตรียมส่งข้อมูลต่างๆ ให้ผู้บริหารชุดใหม่ และระหว่างนี้คณะกรรมการควบคุมฯ จะหาตัวอธิการบดีพร้อมผู้บริหาร มอส.ชุดใหม่ โดยจะมีการเสนอชื่อผู้เหมาะสมให้ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมฯพิจารณาในวันที่ 24 มีนาคม ซึ่งเมื่อได้ผู้บริหารชุดใหม่แล้ว ก็จะต้องเชิญผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งมาหารือเกี่ยวแผนบริหาร มอส.ซึ่งปัญหาขณะนี้ยังขาดงบประมาณพัฒนาอาจารย์ จำนวน 150 ล้าน หากไม่มีงบประมาณตรงนี้ทางคณะกรรมการควบคุมฯจะเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ว่าไม่สามารถบริหารต่อไปได้” นพ.กำจร กล่าว
ด้าน นายสุมนต์ กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบการลาออกของตนเองแล้ว โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ซึ่งหากทางคณะกรรมการควบคุมฯยังไม่สามารถหาอธิการบดีคนใหม่ได้ตนก็อาจจะต้องช่วยรักษาการไปก่อนระยะหนึ่ง จนกว่าจะได้อธิการบดีคนใหม่ ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังได้อนุมัติการจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ของนักศึกษา มอส.จำนวน 108 ราย แบ่งเป็นหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพครู หรือ ป.บัณฑิต 28 ราย หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต 88 ราย และหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการปกครองท้องถิ่น 2 ราย
