“วิทยา” สั่งตรวจสอบการสั่งจ่ายยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดฯ ใน รพ.สังกัด สธ.ทั่วประเทศ พบอีก รพ.ภาคกลางมีพิรุธจ่ายยาแก้หวัดผสมซูโดฯ ร่วมล้านเม็ด อุบชื่อกลัวไหวตัวทันเร่งสอบสวน ด้านที่ อย.เตรียมยกระดับยาสูตรผสมซูโดฯ เป็นวัตถุออกฤทธิ์ คุมเข้ม อย.นำเข้าได้เพียงผู้เดียวเท่านั้น ปลัด สธ.เผยเภสัชฯ อุดรฯ หลบหนีอยู่ระหว่างติดตาม
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าปัญหาการลักลอบจ่ายยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนที่ใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดว่า ขณะนี้ได้เร่งให้ตรวจสอบโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงฯ ทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากพบเภสัชกรมีการจ่ายยาดังกล่าวมากกว่าปกติ ทั้งที่จ.อุดรธานี และอุตรดิถต์นั้น ล่าสุดได้รับรายงานว่าพบพิรุธที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในภาคกลาง เนื่องจากพบว่ามีการเบิกยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนร่วมล้านเม็ด แต่คงบอกไม่ได้ว่าเป็นจังหวัดใด เนื่องจากอาจส่งผลต่อการสอบสวน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ปล่อยแน่ๆ ใครผิดก็ต้องลงโทษ
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้ เตรียมเรียกประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ทั่วประเทศเพื่อหารือ และเตรียมมาตราการป้องกันการลักลอบนำยาสูตรดังกล่าวไปใช้ในทางที่ผิด อย่างไรก็ตาม สธ.เตรียมออกมาตรการเพิ่มในการควบคุมการจ่ายยาซูโดเอีเฟดรีนใหม่ 1. เตรียมยกระดับการควบคุมยา จากเดิมกำหนดให้เป็นยาควบคุมพิเศษ ให้เป็นกลุ่มยาออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภทที่ 2 พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 โดยต้องมีการรายงานการใช้ การทำบัญชีต่างๆ ซึ่งจะเข้มงวดยิ่งขึ้น โดยห้ามนำเข้าเด็ดขาด มีเพียงสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นำเข้าได้เท่านั้น มีลักษณะคล้ายสารซูโดอีเฟดรีนชนิดเดี่ยวที่ปัจจุบันอยู่ในกลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ฯ
2. ให้ผู้บริหารสถานพยาบาลออกมาตราการตรวจสอบยาใหม่ จากเดิมที่ให้เภสัชกรควบคุมอย่างเดียว เป็นให้รายงานมากลับโรงพยาบาล จากนั้นรายงานกลับมายังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และส่งรายงานกลับให้กระทรวงสาธารณสุขทราบ ก่อนเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรับทราบต่อไป เพื่อเป็นการตรวจสอบที่มาที่ไปของยาอย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเภสัชกร 2 คนที่สงสัยว่ากระทำความผิดในจังหวัดอุดรธานี และอุตรดิตถ์นั้น ได้ส่งเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการ เนื่องจากเป็นข้าราชการระดับ 8 อยู่ภายใต้การดูแลของทางจังหวัด แต่ล่าสุดเภสัชกรที่ จ.อุดรฯ ได้หลบหนีไปแล้ว โดยอยู่ระหว่างการติดตาม
นพ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการ อย.กล่าวว่า การยกระดับยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา เนื่องจากเดิมพ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ฯ กำหนดว่า หากนำซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนผสมให้ถือเป็นยา ไม่เข้าข่ายวัตถุออกฤทธิ์ แต่เมื่อขณะนี้ปัญหามาก จึงต้องมีการพิจารณาใหม่ โดยต้องรอคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความก่อน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คณะกรรมการยาได้มีมติให้ยาเฟนิลเอฟรินเป็นยาทดแทนยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน เนื่องจากมีประสิทธิภาพเท่าเทียม เพียงแต่ก่อนหน้านี้นิยมใช้กลุ่มยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน
