xs
xsm
sm
md
lg

ผช.ผบ.ตร.แนะภาค 5 จับตาสารตั้งต้น-ชี้ใช้มาตรการยึดทรัพย์ช่วยปราบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผช.ผบ.ตร.ประชุมร่วม ตร.ภาค 5 หลังจับสารตั้งต้นจำนวนมากได้ในพื้นที่ อ.สันกำแพง ชี้ เรื่องสารตั้งต้นน่าเป็นห่วงเหตุการณ์ควบคุมยังหละหลวม เตรียมจี้บริษัทผู้ผลิตตรวจสอบผู้ซื้อ-คนรับ เข้มงวด หากจับได้มีสิทธิโดนสอบสวนด้วย พร้อมแนะใช้มาตรการยึดทรัพย์ร่วมเหตุพ่อค้ายาที่ถูกจับมักใช้คนอื่นถือเงินแทน

วันนี้ (23 ก.พ.) พล.ต.ท.จรัมพร สระมณี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ปป 22), (ปป 32) เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5 และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เกี่ยวกับการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการจำหน่ายและขนส่งสารตั้งต้นหรือซูโดอีเฟรดีน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัยในพื้นที่ อ.สันกำแพง และสามารถยึดยาแก้หวัดจำนวนกว่า 130,000 เม็ดได้ เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.จรัมพร เปิดเผยภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นลง ว่า การเดินทางมาประชุมร่วมกับตำรวจภูธรภาค 5 และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ สืบเนื่องจากปัญหาเรื่องสารซูโดอีเฟรดีน ถือเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญที่มีเกี่ยวข้องกับปัญหายาเสพติด เนื่องจากสารซูโดอีเฟรดีนถูกนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาบ้า โดยซูโดอีเฟรดีน 1 เม็ดสามารถผลิตยาบ้าได้ 3 เม็ด

อีกทั้งที่ผ่านมาการเคลื่อนย้ายของซูโดอีเฟรดีนภายในประเทศ ยังมีความหละหลวมอยู่มาก แม้ว่าจะมีการกำหนดให้ยาดังกล่าวเป็นยาควบคุมพิเศษแล้วก็ตาม แต่ปรากฏว่า ยังมีการลักลอบจำหน่วยหรือขนส่งเพื่อนำไปใช้ในการผลิตยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยจากการจับกุมในระยะหลังจะพบว่ามีการนำยามาแกะออกจากหีบห่อเพื่อเอาแต่เม็ดยาสำหรับขนส่งหรือนำไปผลิตยาเสพติด

พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวต่อไปว่า ในที่ประชุมได้หารือกันถึงการกำหนดมาตรการในการควบคุมบริษัทผู้ผลิตยาดังกล่าว โดยเฉพาะการจำหน่ายยาไปยังผู้ซื้อต่างๆ ซึ่งต้องมีการตรวจสอบที่มาที่ไปของผู้รับอย่างเข้มงวด รวมทั้งจะมีการเพิ่มมาตรการการตรวจสอบบริษัทยาด้วย หากมีการจับหรือตรวจยึดสารตั้งต้นได้ แล้วพบว่าเป็นยาที่ผลิตหรือจำหน่ายมาจากบริษัทนั้นๆ

ขณะเดียวกัน ยังได้เสนอแนะให้ตำรวจภูธรภาค 5 ให้ความสำคัญในเรื่องของการตรวจสอบพยานหลักฐานและการยึดทรัพย์เพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากกระบวนการตรวจสอบพยานหลักฐานในปัจจุบันสามารถช่วยให้ทราบถึงเบาะแสหรือที่มาของยาเสพติดได้เป็นอย่างดี เพียงแต่ที่ผ่านมาตำรวจมักจะมุ่งเน้นไปที่การสืบสวนสอบสวนเป็นหลักมากกว่า

ส่วนการยึดทรัพย์นั้นถือเป็นมาตรการหนึ่งที่สามารถใช้เพื่อปราบปรามกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดอย่างได้ผล โดยการยึดทรัพย์นั้นสามารถยึดได้ทั้งตัวผู้กระทำผิดและผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งคาดว่าอาจมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดหรือรู้เห็นในการกระทำความผิด เนื่องจากการจับกุมผู้ต้องหาที่ผ่านมา หลายครั้งพบว่าตัวผู้ต้องหาไม่ได้เป็นผู้เก็บ หรือครอบครองเงินหรือทรัพย์สินที่ได้จากการค้ายาเสพติดไว้ แต่เป็นคนในครอบครัว คนใกล้ชิดหรือเพื่อนร่วมขบวนการที่เก็บเงินหรือทรัพย์สินดังกล่าวไว้แทน ซึ่งหากนำมาตรการยึดทรัพย์เข้ามาใช้ร่วมด้วยก็จะทำให้การปราบปรามกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


พล.ต.ท.จรัมพร สระมณี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
กำลังโหลดความคิดเห็น