เข้าตรวจสอบคลินิกทำแท้ง ไม่พบเวชระเบียนนางแบบแม็กซิม แต่พบพิรุธ คลินิกทำลายเวชระเบียนทิ้งไม่เป็นไปตามกฎหมาย เร่งตรวจสอบย้อนหลังทำรายงานแพทยสภาเรื่องยุติการตั้งครรภ์ผิดปกติหรือไม่
เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ ซอยสุขุมวิท 12 บริเวณสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน ซึ่งภายในพื้นที่เดียวกันเป็นที่ตั้งคลินิกชุมชนเวชกรรม ก.131/2525(374/20) พ.ต.อ.ชนิน วชิรปาณีกูล ผกก.สน.ลุมพินี พร้อม นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นำหมายค้นมายังคลินิกดังกล่าว เพื่อหาหลักฐานตามกรณีที่ นายฮาเวิร์ด หวัง ดารานายแบบหนุ่ม ออกมายอมรับว่า เคยพา น.ส.พิลาวรรณ อารีรอบ หรือ หมวย นางแบบแม็กซิม อดีตแฟนสาว ไปทำแท้งที่คลินิกดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบสวนและทำการตรวจสอบเอกสาร และคลินิกเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ สถานพยาบาลในนามสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชนมีอยู่ 19 แห่งทั่วประเทศ และมีนายมีชัย วีระไวทยะ เป็นนายกสมาคม
พ.ต.อ.ชนิน เปิดเผยภายหลังเข้าตรวจค้นว่า การเข้าตรวจสอบครั้งนี้เป็นการหาข้อมูลเพิ่มเติมจากที่มีการพาดพิงว่า คลีนิกดังกล่าวเกี่ยวพันในการทำแท้ง ของ น.ส.พิลาวรรณ จึงได้ประสานให้เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมตรวจสอบเอกสาร ประวัติการรักษา ซึ่งเบื้องต้นไม่พบประวัติของ น.ส.พิลาวรรณ โดยขั้นตอนต่อไป จะเชิญ น.ส.พิลาวรรณ เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมในวันที่ 29 ก.พ.เพื่อยืนยันว่าได้ใช้บริการที่ไหน และใช้ชื่อในการเข้ารับบริการว่าอะไร เนื่องจากข้อมูลเบื้องต้นนั้น ได้รับมาจาก พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รองผบช.น.จึงจำเป็นต้องเรียก น.ส.พิลาวรรณ เข้าสอบปากคำอีกครั้ง เพื่อดำเนินการขยายคดีว่ามีความเกี่ยวข้องกับ นายฮาเวิร์ด หวัง หรือไม่ จากนั้นจึงดำเนินการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวเข้าสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง
ด้าน นายพสิษฐ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า คลินิกดังกล่าวเปิดถูกต้องตามกฎหมาย แต่ได้รับการเชิญจากตำรวจให้ร่วมตรวจสอบมาตรฐานในการดำเนินงาน ซึ่งพบความผิดปกติในเรื่องเวชระเบียนของคลีนิกดังกล่าว เนื่องจากตามปกติกฎหมายระบุว่า เวชระเบียนต้องเก็บไว้อย่างน้อย 5 ปี แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ทำลายทิ้งเมื่อครบ 1 เดือน และมีการอ้างว่าลงเวชระเบียนด้วยการการเขียน ทั้งที่ปัจจุบันการลงเวชระเบียนจะใช้คอมพิวเตอร์ และในคลินิกดังกล่าวก็มีคอมพิวเตอร์อยู่ด้วย โดยคาดว่ามีเวชระเบียนที่สูญหายไปจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ที่ร่วมตรวจสอบมาตรฐานในการปฏิบัติงานของคลีนิค จึงแจ้งข้อหา กระทำผิดตาม มาตรา 35 พ.ร.บ.สถานพยาบาล ว่าด้วยเรื่องเวชระเบียน มีโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
“จากการตรวจสอบพบข้อสงสัยหลายประเด็น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องเวชระเบียน ว่าจัดเก็บอย่างไร เพราะคลินิกดังกล่าวเปิดมาตั้งแต่ปี 2517 ควรจะทราบระเบียบการทำเวชระเบียนอย่างดี นอกจากนี้ จะตรวจสอบการทำรายงานส่งยังแพทยสภา ในเรื่องการยุติการตั้งครรภ์ในรายอื่นๆ ว่ามีรายงานถูกต้องหรือไม่ มีจำนวนการยุติการตั้งครรภ์ที่เป็นไปตามกฎหมายกี่รายต่อเดือน ผิดปกติหรือไม่อย่างไร ”นายพสิษฐ์ กล่าว
นายพสิษฐ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบครั้งนี้ พบว่า ภายในคลินิกมีห้องให้การรักษาจำนวน 5 ห้อง มีแพทย์ประจำ 5 นาย โดยแจ้งเปิดคลินิกเพื่อวัตถุประสงค์ ให้การป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการตั้งครรภ์ และ แก้ไข ซึ่งมีการให้บริการทำหมั้นชาย และให้คำปรึกษาการวางแผนครอบครัว โดยสถานพยาบาลดังกล่าวตามกฎหมายสามารถยุติการตั้งครรภ์ตามที่กฎหมายกำหนดขอบเขตไว้ได้ คือ ปัญหาจากการข่มขืนกระทำชำเรา และปัญหาสุขภาพ ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งหากมีการยุติการตั้งครรภ์นอกเหนือจากขอบเขตดังกล่าว สถานพยาบาลดังกล่าวก็ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 305 ซึ่งจะมีการตรวจสอบเพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อไป