ตำรวจร่วมกับสาธารณสุขเข้าตรวจค้นคลินิกย่านสุขุมวิท 12 หลัง “หมวย แม็กซิม” อ้างไปทำแท้ง แต่ไม่พบประวัติเจ้าตัว จะต้องตรวจเอกสารย้อนหลังทั้งหมดอีกครั้ง ชี้พรุ่งนี้จะเชิญ “หมวย” ไปยืนยันสถานที่ พร้อมชื่อ-สกุลที่มาใช้บริการ ขณะที่ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข เผยคลินิกมีใบประกอบวิชาชีพถูกต้อง และไม่ได้จัดทำระเบียบผู้ป่วยที่ต้องเก็บไว้อย่างน้อย 5 ปี ตามกฎหมายกำหนด
วันนี้ (28 ก.พ.) เวลา 12.30 น. ที่ ซอยสุขุมวิท 12 บริเวณสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน ซึ่งภายในพื้นที่เดียวกันเป็นที่ตั้งคลินิกชุมชนเวชกรรม ก.131/2525(374/20) พ.ต.อ.ชนินทร์ วชิรปาณีกุล ผกก.สน.ลุมพินี พ.ต.ท.ปิโยรส กัณหะสิริ สว.สส.สน.ลุมพินี ร.ต.อ.สากล รัศมีบรรพตกุล รอง สว.สส.สน.ลุมพินี พร้อมด้วย นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษา รมว.กระทรวงสาธาณสุข เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุข ร่วม 10 นาย ได้นำหมายค้นจากศาลอาญากรุงเทพใต้ ค 55/2555 ลงวันที่ 28 ก.พ. 25555 ขอตรวจสอบคลินิกชุมชนเวชกรรม อยู่เลขที่ 6 ซ.สุขุมวิท 12 ถ.สุขุมวิท แขวงและเขตคลองเตย กทม. หลังจากกรณี น.ส.พิลาวรรณ อารีรอบ หรือหมวย แม็กซิม อายุ 29 ปี ให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ กก.ดส.บช.น.ว่าเดินทางไปทำแท้งที่คลินิกภายในซอยสุขุมวิท 12 ที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ โดยมีเจ้าหน้าที่ของคลินิกให้การต้อนรับและร่วมพูดคุยประมาณ 1 ชั่วโมง
ต่อมาเจ้าหน้าที่คลินิกได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขเดินขึ้นไปสำรวจอาคารที่เป็นคลินิกตามที่เป็นข่าวดังกล่าว โดยมีลักษณะความสูง ทั้งหมด 4 ชั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ให้สื่อมวลชนขึ้นไปด้านบนอาคาร แต่ให้รออยู่ข้างล่างทั้งหมด โดยใช้เวลาตรวจสอบนานกว่า 1 ชั่วโมง
พ.ต.อ.ชนินทร์เปิดเผยภายหลังการตรวจสอบคลินิกว่า การปฏิบัติงานในวันนี้ทาง สน.ลุมพินี ได้ขอหมายค้นจากศาล เพื่อที่จะมาหาพยานหลักฐานที่อาจเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว โดยในส่วนของตำรวจได้ประสานไปที่กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งนายพสิษฐ์ได้ให้ความกรุณามาร่วมตรวจค้นด้วย
“ทางตำรวจจะตรวจประวัติการรักษาของ น.ส.พิลาวรรณ หรือหมวย ว่ามีประวัติการรักษาที่แห่งนี้หรือไม่ต่อไป โดยเบื้องต้นตรวจสอบแต่ไม่พบชื่อดังกล่าว แต่จะตรวจเอกสารผู้ป่วยย้อนหลังทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำหนังสือเชิญ น.ส.พิลาวรรณ หรือหมวย มาพบที่ สน.ลุมพินี ในวันพรุ่งนี้ (29 ก.พ.) ช่วงบ่าย เพื่อมายืนยันว่าใช่สถานที่แห่งนี้หรือไม่ และมายืนยันชื่อ-นามสกุล ที่มาใช้บริการด้วย เพราะถ้าไม่ใช่ชื่อ-นามสกุลตามที่เป็นข่าวก็จะตรวจสอบไม่ได้” ผกก.สน.ลุมพินีกล่าว
พ.ต.อ.ชนินทร์กล่าวอีกว่า ส่วน น.ส.พิลาวรรณ หรือหมวย ที่ได้ให้การไว้กับ กก.ดส.บช.น. ซึ่งทางสน.ลุมพินี ได้รับเรื่องมาจาก พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รอง ผบช.น.ส่งมาเพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และต้องให้ น.ส.พิลาวรรณมาสอบสวนกับทางพนักงานสอบสวนของ สน.ลุมพินี อีกครั้งหนึ่งเพื่อยืนยันใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเอาผิดต่อนายฮาเวิร์ด หวัง ได้หรือไม่ พ.ต.อ.ชนินทร์กล่าวว่า ต้องเริ่มจากตัว น.ส.พิลาวรรณก่อน ซึ่งถ้า น.ส.พิลาวรรณได้พาดพิงไปถึงบุคคลใดก็จะเชิญบุคคลดังกล่าวมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยในวันนี้ทางคลินิกได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพียงแค่มีปัญหาเรื่องการจัดเก็บเอกสารเท่านั้น
ด้าน นายพสิษฐ์เปิดเผยว่า วันนี้มาเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญให้มาในฐานะผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ เพื่อมาสนับสนุนการตรวจสอบการให้บริการของคลินิก ซึ่งการมาตรวจสถานพยาบาลนั้นเป็นเรื่องปกติ เบื้องต้นจากการตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพและการจัดตั้งสถานพยาบาล ถูกต้อง แต่ไม่ได้จัดทำระเบียบผู้ป่วยตามที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยปกติประวัติผู้ป่วยนั้นต้องเก็บไว้อย่างน้อย 5 ปี ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล 2541 ทั้งนี้ ยังไม่ทราบว่ามีประวัติผู้ป่วยหายไปกี่รายหรือไม่
“จากการตรวจสอบพบข้อสงสัยหลายประเด็น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องเวชระเบียน ว่าจัดเก็บอย่างไร เพราะคลินิกดังกล่าวเปิดมาตั้งแต่ปี 2517 ควรจะทราบระเบียบการทำเวชระเบียนอย่างดี นอกจากนี้ จะตรวจสอบการทำรายงานส่งยังแพทยสภา ในเรื่องการยุติการตั้งครรภ์ในรายอื่นๆ ว่ามีรายงานถูกต้องหรือไม่ มีจำนวนการยุติการตั้งครรภ์ที่เป็นไปตามกฎหมายกี่รายต่อเดือน ผิดปกติหรือไม่อย่างไร ”นายพสิษฐ์ กล่าว
นายพสิษฐ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบครั้งนี้ พบว่าภายในคลินิกมีห้องให้การรักษาจำนวน 5 ห้อง มีแพทย์ประจำ 5 นาย โดยแจ้งเปิดคลินิกเพื่อวัตถุประสงค์ ให้การป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการตั้งครรภ์ และ แก้ไข ซึ่งมีการให้บริการทำหมั้นชาย และให้คำปรึกษาการวางแผนครอบครัว โดยสถานพยาบาลดังกล่าวตามกฎหมายสามารถยุติการตั้งครรภ์ตามที่กฎหมายกำหนดขอบเขตไว้ได้ คือ ปัญหาจากการข่มขืนกระทำชำเรา และปัญหาสุขภาพ ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งหากมีการยุติการตั้งครรภ์นอกเหนือจากขอบเขตดังกล่าว สถานพยาบาลดังกล่าวก็ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 305 ซึ่งจะมีการตรวจสอบเพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อไป
วันนี้ (28 ก.พ.) เวลา 12.30 น. ที่ ซอยสุขุมวิท 12 บริเวณสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน ซึ่งภายในพื้นที่เดียวกันเป็นที่ตั้งคลินิกชุมชนเวชกรรม ก.131/2525(374/20) พ.ต.อ.ชนินทร์ วชิรปาณีกุล ผกก.สน.ลุมพินี พ.ต.ท.ปิโยรส กัณหะสิริ สว.สส.สน.ลุมพินี ร.ต.อ.สากล รัศมีบรรพตกุล รอง สว.สส.สน.ลุมพินี พร้อมด้วย นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษา รมว.กระทรวงสาธาณสุข เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุข ร่วม 10 นาย ได้นำหมายค้นจากศาลอาญากรุงเทพใต้ ค 55/2555 ลงวันที่ 28 ก.พ. 25555 ขอตรวจสอบคลินิกชุมชนเวชกรรม อยู่เลขที่ 6 ซ.สุขุมวิท 12 ถ.สุขุมวิท แขวงและเขตคลองเตย กทม. หลังจากกรณี น.ส.พิลาวรรณ อารีรอบ หรือหมวย แม็กซิม อายุ 29 ปี ให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ กก.ดส.บช.น.ว่าเดินทางไปทำแท้งที่คลินิกภายในซอยสุขุมวิท 12 ที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ โดยมีเจ้าหน้าที่ของคลินิกให้การต้อนรับและร่วมพูดคุยประมาณ 1 ชั่วโมง
ต่อมาเจ้าหน้าที่คลินิกได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขเดินขึ้นไปสำรวจอาคารที่เป็นคลินิกตามที่เป็นข่าวดังกล่าว โดยมีลักษณะความสูง ทั้งหมด 4 ชั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ให้สื่อมวลชนขึ้นไปด้านบนอาคาร แต่ให้รออยู่ข้างล่างทั้งหมด โดยใช้เวลาตรวจสอบนานกว่า 1 ชั่วโมง
พ.ต.อ.ชนินทร์เปิดเผยภายหลังการตรวจสอบคลินิกว่า การปฏิบัติงานในวันนี้ทาง สน.ลุมพินี ได้ขอหมายค้นจากศาล เพื่อที่จะมาหาพยานหลักฐานที่อาจเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว โดยในส่วนของตำรวจได้ประสานไปที่กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งนายพสิษฐ์ได้ให้ความกรุณามาร่วมตรวจค้นด้วย
“ทางตำรวจจะตรวจประวัติการรักษาของ น.ส.พิลาวรรณ หรือหมวย ว่ามีประวัติการรักษาที่แห่งนี้หรือไม่ต่อไป โดยเบื้องต้นตรวจสอบแต่ไม่พบชื่อดังกล่าว แต่จะตรวจเอกสารผู้ป่วยย้อนหลังทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำหนังสือเชิญ น.ส.พิลาวรรณ หรือหมวย มาพบที่ สน.ลุมพินี ในวันพรุ่งนี้ (29 ก.พ.) ช่วงบ่าย เพื่อมายืนยันว่าใช่สถานที่แห่งนี้หรือไม่ และมายืนยันชื่อ-นามสกุล ที่มาใช้บริการด้วย เพราะถ้าไม่ใช่ชื่อ-นามสกุลตามที่เป็นข่าวก็จะตรวจสอบไม่ได้” ผกก.สน.ลุมพินีกล่าว
พ.ต.อ.ชนินทร์กล่าวอีกว่า ส่วน น.ส.พิลาวรรณ หรือหมวย ที่ได้ให้การไว้กับ กก.ดส.บช.น. ซึ่งทางสน.ลุมพินี ได้รับเรื่องมาจาก พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รอง ผบช.น.ส่งมาเพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และต้องให้ น.ส.พิลาวรรณมาสอบสวนกับทางพนักงานสอบสวนของ สน.ลุมพินี อีกครั้งหนึ่งเพื่อยืนยันใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเอาผิดต่อนายฮาเวิร์ด หวัง ได้หรือไม่ พ.ต.อ.ชนินทร์กล่าวว่า ต้องเริ่มจากตัว น.ส.พิลาวรรณก่อน ซึ่งถ้า น.ส.พิลาวรรณได้พาดพิงไปถึงบุคคลใดก็จะเชิญบุคคลดังกล่าวมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยในวันนี้ทางคลินิกได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพียงแค่มีปัญหาเรื่องการจัดเก็บเอกสารเท่านั้น
ด้าน นายพสิษฐ์เปิดเผยว่า วันนี้มาเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญให้มาในฐานะผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ เพื่อมาสนับสนุนการตรวจสอบการให้บริการของคลินิก ซึ่งการมาตรวจสถานพยาบาลนั้นเป็นเรื่องปกติ เบื้องต้นจากการตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพและการจัดตั้งสถานพยาบาล ถูกต้อง แต่ไม่ได้จัดทำระเบียบผู้ป่วยตามที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยปกติประวัติผู้ป่วยนั้นต้องเก็บไว้อย่างน้อย 5 ปี ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล 2541 ทั้งนี้ ยังไม่ทราบว่ามีประวัติผู้ป่วยหายไปกี่รายหรือไม่
“จากการตรวจสอบพบข้อสงสัยหลายประเด็น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องเวชระเบียน ว่าจัดเก็บอย่างไร เพราะคลินิกดังกล่าวเปิดมาตั้งแต่ปี 2517 ควรจะทราบระเบียบการทำเวชระเบียนอย่างดี นอกจากนี้ จะตรวจสอบการทำรายงานส่งยังแพทยสภา ในเรื่องการยุติการตั้งครรภ์ในรายอื่นๆ ว่ามีรายงานถูกต้องหรือไม่ มีจำนวนการยุติการตั้งครรภ์ที่เป็นไปตามกฎหมายกี่รายต่อเดือน ผิดปกติหรือไม่อย่างไร ”นายพสิษฐ์ กล่าว
นายพสิษฐ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบครั้งนี้ พบว่าภายในคลินิกมีห้องให้การรักษาจำนวน 5 ห้อง มีแพทย์ประจำ 5 นาย โดยแจ้งเปิดคลินิกเพื่อวัตถุประสงค์ ให้การป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการตั้งครรภ์ และ แก้ไข ซึ่งมีการให้บริการทำหมั้นชาย และให้คำปรึกษาการวางแผนครอบครัว โดยสถานพยาบาลดังกล่าวตามกฎหมายสามารถยุติการตั้งครรภ์ตามที่กฎหมายกำหนดขอบเขตไว้ได้ คือ ปัญหาจากการข่มขืนกระทำชำเรา และปัญหาสุขภาพ ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งหากมีการยุติการตั้งครรภ์นอกเหนือจากขอบเขตดังกล่าว สถานพยาบาลดังกล่าวก็ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 305 ซึ่งจะมีการตรวจสอบเพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อไป