xs
xsm
sm
md
lg

“ฟันเทียมพระราชทาน” คืนรอยยิ้มให้ผู้สูงวัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย...สุกัญญา แสงงาม

เวลาชาวบ้านไม่มีฟัน กินอะไรก็ไม่อร่อย ทำให้ไม่ความสุข จิตใจก็ไม่สบาย ร่างกายก็ไม่เเข็งเเรง

นพ.สุธา เจียรมณีโชติชัย ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย บอกว่า พระราชดำรัส ตอนหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ทรงห่วงใยพสกนิกร แล้วเรานำพระราชดำรัสมาคิด และเริ่มต้นสำรวจสุขภาพช่องปากอย่างจริงจัง ผ่านโรงพยาบาลทั่วประเทศภายใต้การควบคุมดูแลของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า มีผู้สูงอายุที่ไม่มีฟันเหลืออยู่เลยประมาณ 3 แสนราย หมายถึง ฟันหลอหมดทั้งปาก นอกจากนี้ ยังมีฟันหลอบางส่วนอีกจำนวนมาก ในขณะที่เราสามารถจัดบริการใส่ฟันเทียมได้เพียง 4,000 ซี่
นพ.สุธา เจียรมณีโชติชัย
ผลการสำรวจที่ออกมาทำให้เราตกใจมา เพราะพบว่าผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ขึ้นไป ฟันเริ่มถูกถอนไปหรือโยกไป ประมาณ 5% ของผู้สูงอายุ หรือประมาณ 300,000 ราย ที่ต้องการใส่ฟันเทียมทั้งปาก หรือสมัยก่อนเราเรียกว่า ฟันปลอม ถ้าหากผู้สูงอายุที่สูญเสียฟันแล้วไม่ใส่ฟันเทียมเลย มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เพราะเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด กินอาหารชิ้นใหญ่ ซึ่งมีผลต่อระบบการย่อยอาหาร ทำให้เกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ กระทรวงสาธารณสุข รู้ถึงผลกระทบของการไม่มีฟัน จึงร่วมกับภาคีต่าง ๆ ร่วมดำเนินการจัดโครงการฟันเทียมพระราชทานขึ้น เพื่อแก้ปัญหาการสูญเสียฟัน การไม่มีฟันเคี้ยวอาหาร และย่อยอาหาร ซึ่งมีผลต่อสุขภาพโดยรวมด้วย” นพ.สุธา กล่าว
ผู้สูงอายุที่ได้รับรางวัลฟันดี
สาเหตุของการสูญเสียฟันว่า เกิดจากปัญหาสุขภาพในช่องปาก โรคฟันผุ ที่สะสมมาตั้งแต่เด็ก รวมทั้งพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การกินหมาก ส่งผลให้เกิดโรคปริทันต์ หรือแผลในช่องปากและอาจลุกลามกลายเป็นมะเร็งช่องปากได้ ทางกรมอนามัย รณรงค์ให้คนไทยใส่ใจตรวจสุขภาพฟันอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อลดปัญหาการสูญเสียฟัน หรือฟันหลอ เมื่อก้าวเข้าสู่อายุสูงวัย

อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินการใส่ฟันเทียมในอดีตจนถึงปัจจุบันได้ช่วยเหลือคนไข้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องฟันประมาณ 230,000 ราย ซึ่งก็เข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะศักยภาพของทันตกรุ๊ป หรือทันตแพทย์ที่อยู่ในกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานอื่นๆ ที่มีส่วนร่วมในปีหนึ่งจัดบริการได้ประมาณ 32,000 ราย โครงการฟันเทียมพระราชทานได้เป็น 1 ในโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสมหามงคลที่ท่านเจริญมายุครบ 7 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นเมื่อเราดำเนินการมาถึงระยะหนึ่งแล้วเราจึงได้มีภาคีเครือข่ายต่างๆ ร่วมบริการค่อนข้างมาก และให้ความร่วมมือในการจัดบริการเป็นอย่างดี เช่น ชมรมผู้สูงอายุมาร่วมสร้างสุขภาพช่องปาก หน่วยงานของจังหวัด โรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อถ่ายทอดเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อโครงการฟันเทียมพระราชทาน ที่สำคัญ ทำให้ผู้สูงอายุได้รับการใส่ฟันเทียมทั้งปากเกิดขึ้น
ตัวอย่างฟันเทียม
นอกจากนี้ ยังมีแผนรณรงค์ให้ผู้สูงอายุที่ยังมีฟันอยู่สามารถรักษาฟันนั้นไว้จนกระทั่งถึงบั้นปลายชีวิต จะได้ไม่ต้องใส่ฟันเทียม โดยจัดให้มีชมรมผู้สูงอายุด้านการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก เพื่อแก้ปัญหาการสูญเสียฟันอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสนับสนุนการประกวด “10 ยอดฟันดี วัย 80 และ 90 ปี” เพื่อยกย่องเชิดชูผู้สูงวัยที่ดูแลช่องปากได้ดี และเป็นแบบอย่างที่แสดงให้เห็นว่าการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีทำให้มีฟันใช้งานได้ตลอดชีวิต

ลองคิดดู...ผู้สูงอายุจะมีความสุขมากแค่ไหน ? หากสามารถเก็บรักษาฟันเพื่อใช้บดเคี้ยวอาหารได้จนถึง บั้นปลายชีวิต โดยไม่ต้องใส่ฟันเทียม
กำลังโหลดความคิดเห็น