เผย 10 อันดับงานว่างที่คนไทยไม่สนใจ พบงานภาคการผลิตมีมากสุด รองลงมาเป็น พนง.ขาย พนง.ขับรถ สำรวจจากตำแหน่งงานว่างกว่า 74,530 อัตรา ขณะที่ภาคกลางติดอันดับแชมป์คนปฏิเสธงาน
นางสาวส่งศรี บุญบา รองปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กองวิจัยตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน ได้ประมวลผล ข้อมูลตำแหน่งงานว่างที่ได้รับแจ้งจากนายจ้างและสถานประกอบการที่ประกอบการกิจการทุกประเภททั่วประเทศ ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 พบว่า มีตำแหน่งงานที่ขาดแคลน หรือตำแหน่งงานว่างที่คนหางานไม่สนใจ กว่า 74,530 อัตรา ทั้งนี้ ประเภทตำแหน่งงานว่างใน 10 อันดับแรก ที่คนไม่สนใจ ได้แก่ แรงงานด้านการผลิต จำนวน 23,984 อัตรา พนักงานขาย ผู้นำเสนอสินค้า 5,522 อัตรา พนักงานขับรถยนต์ 3,459 อัตรา เสมียน พนักงานธุรการ 2,501 อัตรา ช่างเทคนิค 2,007 อัตรา เจ้าหน้าที่คลังสินค้า 1,717 อัตรา ช่างไฟฟ้า 1,579 อัตรา ช่างเชื่อม 1,528 อัตรา พนักงานบัญชี 1,410 อัตรา และช่างซ่อมเครื่องจักรกล 1,222 อัตรา
โดยหากจำแนกเป็นรายภาค พบว่า มีตำแหน่งงานที่ยังไม่ได้รับการบรรจุมากที่สุด ได้แก่ ภาคกลาง จำนวน 34,352 อัตรา รองลงมาคือ ภาคตะวันออก จำนวน 20,357 อัตรา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 7,243 อัตรา ภาคเหนือ จำนวน 5,741 อัตรา ภาคตะวันตก จำนวน 3,732 อัตรา และภาคใต้ จำนวน 3,105 อัตรา อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ประกันตนที่มาขึ้นทะเบียนขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ในเดือนธันวาคม 2554 พบว่ามีจำนวน 50,327 คน นั้น ขณะที่ยอดการขาดแคลนแรงงานในเดือนกุมภาพันธ์ (2555) มีถึง 74,530 อัตรา ทั้งนี้ หลังรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานแล้ว หากยังไม่มีงานทำ ต้องเข้ารับการฝึกอบรมเพื่อยกระดับฝีมือ หรือให้มีทักษะฝีมือตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน ซึ่งจากจำนวนสถิติของทั้งสองกรณีก็เชื่อว่าจะนำมาทดแทนกันได้
น.ส.ส่งศรี กล่าวอีกว่า จากสถิติผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่มาขึ้นทะเบียนขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ปรากฏว่ามีผู้ลาออกจากงานมากกว่าผู้ถูกเลิกจ้าง เนื่องมาจากต้องการเปลี่ยนงานใหม่ ต้องการดูแลคนในครอบครัว ค่าจ้าง รายได้ลดลงเนื่องจากนายจ้างลดชั่วโมงการทำงาน และมีปัญหาสุขภาพ
ทั้งนี้ เมื่อเทียบจากข้อมูลของเดือนธันวาคม 2553 กับช่วงเดียวกันในปี 2554 พบว่า มีผู้ใช้สิทธิ์กรณีว่างงาน เพิ่มขึ้น จาก 32,243 คน เป็น 50,327 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 56.09 หรือคิดเป็น 18,084 คน ขณะที่สถานการณ์การว่างงาน จากสถิติของสำนักงานสถิติแห่งชาติที่ทำการสำรวจในเดือนธันวาคม 2554 ปรากฏว่า มีกำลังแรงงานประมาณ 39.78 ล้านคน เป็นผู้มีงานทำ 39.49 ล้านคน ผู้ว่างงาน จำนวน 1.71 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 0.4 และผู้รอทำงานตามฤดูกาล 1.20 แสนคน
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาผู้ว่างงาน จากประสบการณ์การทำงาน พบว่า เป็นผู้ที่ไม่เคยทำงานมาก่อน 4.9 หมื่นคน และเคยทำงานมาแล้ว 1.23 แสนคน ซึ่งในจำนวนผู้ที่เคยทำงานนั้น ส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในภาคการบริการและการค้ามากที่สุด โดยมีจำนวนถึง 7.7 หมื่นคน รองลงมาอยู่ในภาคการผลิต จำนวน 2.8 หมื่นคน และภาคเกษตรกรรมจำนวนน้อยที่สุด 1.8 หมื่นคน
นางสาวส่งศรี บุญบา รองปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กองวิจัยตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน ได้ประมวลผล ข้อมูลตำแหน่งงานว่างที่ได้รับแจ้งจากนายจ้างและสถานประกอบการที่ประกอบการกิจการทุกประเภททั่วประเทศ ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 พบว่า มีตำแหน่งงานที่ขาดแคลน หรือตำแหน่งงานว่างที่คนหางานไม่สนใจ กว่า 74,530 อัตรา ทั้งนี้ ประเภทตำแหน่งงานว่างใน 10 อันดับแรก ที่คนไม่สนใจ ได้แก่ แรงงานด้านการผลิต จำนวน 23,984 อัตรา พนักงานขาย ผู้นำเสนอสินค้า 5,522 อัตรา พนักงานขับรถยนต์ 3,459 อัตรา เสมียน พนักงานธุรการ 2,501 อัตรา ช่างเทคนิค 2,007 อัตรา เจ้าหน้าที่คลังสินค้า 1,717 อัตรา ช่างไฟฟ้า 1,579 อัตรา ช่างเชื่อม 1,528 อัตรา พนักงานบัญชี 1,410 อัตรา และช่างซ่อมเครื่องจักรกล 1,222 อัตรา
โดยหากจำแนกเป็นรายภาค พบว่า มีตำแหน่งงานที่ยังไม่ได้รับการบรรจุมากที่สุด ได้แก่ ภาคกลาง จำนวน 34,352 อัตรา รองลงมาคือ ภาคตะวันออก จำนวน 20,357 อัตรา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 7,243 อัตรา ภาคเหนือ จำนวน 5,741 อัตรา ภาคตะวันตก จำนวน 3,732 อัตรา และภาคใต้ จำนวน 3,105 อัตรา อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ประกันตนที่มาขึ้นทะเบียนขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ในเดือนธันวาคม 2554 พบว่ามีจำนวน 50,327 คน นั้น ขณะที่ยอดการขาดแคลนแรงงานในเดือนกุมภาพันธ์ (2555) มีถึง 74,530 อัตรา ทั้งนี้ หลังรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานแล้ว หากยังไม่มีงานทำ ต้องเข้ารับการฝึกอบรมเพื่อยกระดับฝีมือ หรือให้มีทักษะฝีมือตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน ซึ่งจากจำนวนสถิติของทั้งสองกรณีก็เชื่อว่าจะนำมาทดแทนกันได้
น.ส.ส่งศรี กล่าวอีกว่า จากสถิติผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่มาขึ้นทะเบียนขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ปรากฏว่ามีผู้ลาออกจากงานมากกว่าผู้ถูกเลิกจ้าง เนื่องมาจากต้องการเปลี่ยนงานใหม่ ต้องการดูแลคนในครอบครัว ค่าจ้าง รายได้ลดลงเนื่องจากนายจ้างลดชั่วโมงการทำงาน และมีปัญหาสุขภาพ
ทั้งนี้ เมื่อเทียบจากข้อมูลของเดือนธันวาคม 2553 กับช่วงเดียวกันในปี 2554 พบว่า มีผู้ใช้สิทธิ์กรณีว่างงาน เพิ่มขึ้น จาก 32,243 คน เป็น 50,327 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 56.09 หรือคิดเป็น 18,084 คน ขณะที่สถานการณ์การว่างงาน จากสถิติของสำนักงานสถิติแห่งชาติที่ทำการสำรวจในเดือนธันวาคม 2554 ปรากฏว่า มีกำลังแรงงานประมาณ 39.78 ล้านคน เป็นผู้มีงานทำ 39.49 ล้านคน ผู้ว่างงาน จำนวน 1.71 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 0.4 และผู้รอทำงานตามฤดูกาล 1.20 แสนคน
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาผู้ว่างงาน จากประสบการณ์การทำงาน พบว่า เป็นผู้ที่ไม่เคยทำงานมาก่อน 4.9 หมื่นคน และเคยทำงานมาแล้ว 1.23 แสนคน ซึ่งในจำนวนผู้ที่เคยทำงานนั้น ส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในภาคการบริการและการค้ามากที่สุด โดยมีจำนวนถึง 7.7 หมื่นคน รองลงมาอยู่ในภาคการผลิต จำนวน 2.8 หมื่นคน และภาคเกษตรกรรมจำนวนน้อยที่สุด 1.8 หมื่นคน
