“เผดิมชัย” ชู นโยบายปี 2555 เน้นยกระดับฝีมือแรงงาน ทักษะภาษา-เข้าใจวัฒนธรรมต่างชาติ รองรับประชาคมอาเซียน ขยายตลาดแรงงานต่างประเทศ ไปแถบเอเชีย-ตะวันออกกลาง มอบทูตแรงงาน-กกจ.ดูแลแรงงานไทยไปทำงานนอก
นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.รง.) เปิดเผยว่า ในปี 2555 กระทรวงแรงงาน มีนโยบายที่สำคัญ คือ การยกระดับทักษะฝีมือของแรงงานเพื่อรองรับการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีในการเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนใน พ.ศ.ปี 2558 โดยตนได้ให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน(กพร.) ร่วมกับ กรมการจัดหางาน (กกจ.) ไปศึกษาตำแหน่งงานว่างในธุรกิจต่างๆ เพื่อที่จะพัฒนาทักษะฝีมือและจัดหาแรงงานได้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานในประเทศต่างๆ อีกทั้งจะต้องยกระดับความรู้แรงงานไทยที่จะไปทำงานต่างประเทศทั้งในเรื่องทักษะภาษาต่างประเทศและวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ ด้วย
รมว.แรงงาน กล่าวอีกว่า ยังได้ให้นโยบายอัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงานในต่างประเทศทำงานให้รอบด้านมากขึ้น ทั้งการคุ้มครองแรงงานในต่างประเทศ การหาตำแหน่งงานเพิ่มเติมเพื่อรองรับการเปลี่ยนงานของแรงงานไทยในต่างประเทศ เพื่อไม่ให้การเดินทางไปต่างประเทศเสียเปล่า อีกทั้งยังได้มองหาตลาดต่างประเทศที่จะจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานเพิ่มขึ้นได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฮ่องกง ประเทศในตะวันออกกลาง เช่น ลิเบีย อิสราเอล
ขณะที่ในส่วนของ กกจ.จะต้องตรวจสอบการการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศให้เป็นไปอย่างประสิทธิภาพ ไม่ให้เรียกเก็บค่าจัดส่งสูงเกินจริง รวมถึงดูแลให้บริษัทจัดหางานต้องมีมาตรฐาน ระบบบริหารจัดการที่ดีและมีเงินสำรอง หากเกิดปัญหาฉุกเฉิน เช่น กรณีเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น จะได้สามารถเคลื่อนย้ายแรงงานไทยกลับประเทศได้ทันที
รมว.แรงงาน กล่าวด้วยว่า ส่วนสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้ให้ปรับการบริการให้ทันสมัยและเข้าถึงความต้องการของผู้ประกันตนมากขึ้น โดยในปี 2555 จะประสานให้แต่ละโรงพยาบาลคู่สัญญาของสปส.จัดรถโรงพยาบาลในนามของ สปส.เพื่ออกไปรับผู้ประกันตนโดยเฉพาะ หากมีการร้องขอผ่านสายด่วน 1506
ขณะเดียวกัน ได้ให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ดูแลให้แรงงานมีความปลอดภัยจากการทำงานเน้นในเรื่องสภาพแวดล้อมที่ดี และอุปกรณ์ป้องกันในการทำงาน รวมทั้งขยายโครงการโรงงานสีขาวให้มากขึ้น โดยจะนำหน่วยแพทย์ของโรงพยาบาลคู่สัญญาของสปส.ออกตรวจสารเสพติดในโรงงาน เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ หากพบมีแรงงานติดสารเสพติดก็จะได้รับการบำบัดก่อนที่จะกลับมาทำงาน โดยไม่มีการเลิกจ้าง
นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.รง.) เปิดเผยว่า ในปี 2555 กระทรวงแรงงาน มีนโยบายที่สำคัญ คือ การยกระดับทักษะฝีมือของแรงงานเพื่อรองรับการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีในการเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนใน พ.ศ.ปี 2558 โดยตนได้ให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน(กพร.) ร่วมกับ กรมการจัดหางาน (กกจ.) ไปศึกษาตำแหน่งงานว่างในธุรกิจต่างๆ เพื่อที่จะพัฒนาทักษะฝีมือและจัดหาแรงงานได้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานในประเทศต่างๆ อีกทั้งจะต้องยกระดับความรู้แรงงานไทยที่จะไปทำงานต่างประเทศทั้งในเรื่องทักษะภาษาต่างประเทศและวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ ด้วย
รมว.แรงงาน กล่าวอีกว่า ยังได้ให้นโยบายอัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงานในต่างประเทศทำงานให้รอบด้านมากขึ้น ทั้งการคุ้มครองแรงงานในต่างประเทศ การหาตำแหน่งงานเพิ่มเติมเพื่อรองรับการเปลี่ยนงานของแรงงานไทยในต่างประเทศ เพื่อไม่ให้การเดินทางไปต่างประเทศเสียเปล่า อีกทั้งยังได้มองหาตลาดต่างประเทศที่จะจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานเพิ่มขึ้นได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฮ่องกง ประเทศในตะวันออกกลาง เช่น ลิเบีย อิสราเอล
ขณะที่ในส่วนของ กกจ.จะต้องตรวจสอบการการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศให้เป็นไปอย่างประสิทธิภาพ ไม่ให้เรียกเก็บค่าจัดส่งสูงเกินจริง รวมถึงดูแลให้บริษัทจัดหางานต้องมีมาตรฐาน ระบบบริหารจัดการที่ดีและมีเงินสำรอง หากเกิดปัญหาฉุกเฉิน เช่น กรณีเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น จะได้สามารถเคลื่อนย้ายแรงงานไทยกลับประเทศได้ทันที
รมว.แรงงาน กล่าวด้วยว่า ส่วนสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้ให้ปรับการบริการให้ทันสมัยและเข้าถึงความต้องการของผู้ประกันตนมากขึ้น โดยในปี 2555 จะประสานให้แต่ละโรงพยาบาลคู่สัญญาของสปส.จัดรถโรงพยาบาลในนามของ สปส.เพื่ออกไปรับผู้ประกันตนโดยเฉพาะ หากมีการร้องขอผ่านสายด่วน 1506
ขณะเดียวกัน ได้ให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ดูแลให้แรงงานมีความปลอดภัยจากการทำงานเน้นในเรื่องสภาพแวดล้อมที่ดี และอุปกรณ์ป้องกันในการทำงาน รวมทั้งขยายโครงการโรงงานสีขาวให้มากขึ้น โดยจะนำหน่วยแพทย์ของโรงพยาบาลคู่สัญญาของสปส.ออกตรวจสารเสพติดในโรงงาน เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ หากพบมีแรงงานติดสารเสพติดก็จะได้รับการบำบัดก่อนที่จะกลับมาทำงาน โดยไม่มีการเลิกจ้าง