xs
xsm
sm
md
lg

รัฐทุ่ม 800 ล้าน ให้ กทม.ขุดคลอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ายธีระชน  มโนมัยพิบูลย์  รองผู้ว่าฯ กทม.
กทม.ยิ้มรัฐบาลจัดงบ 800 ล้าน ให้ขุดลอกคูคลอง พร้อมสนับสนุนงบจัดซื้อเครื่องผลักดันน้ำให้กองทัพเรือ

วันนี้ (26 ม.ค.) เวลา 13.00 น.ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ กทม.ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล ร่วมกับ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) ว่า ทางรัฐบาล และ กทม.จะมีการร่วมมือกัน โดยเฉพาะการขุดลอกคูคลอง ซึ่ง กทม.จะได้รับการสนับสนุนจากกองทัพบกและหน่วยงานอื่นๆ ที่มีศักยภาพ โดย กทม.จะถ่ายโอนงบประมาณจำนวน 67.5 ล้านบาท ให้กับกองทัพบก สำหรับการขุดลอกคลองจำนวน 29 คลอง นอกจากนี้ รัฐบาลจะมีการพิจารณาให้มีการขุดลอกคูคลองพื้นที่ใน 26 เขต จำนวน 347 คลองด้วย โดยจะจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมให้กับกองทัพบกอีกจำนวน 770 ล้านบาท ซึ่งจะมีการหารือกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (27 ม.ค.) ทั้งนี้ โดยภาพจำนวนคลองกว่า 370 คลอง จะได้รับงบประมาณในการขุดลอกประมาณ 800 ล้านบาท โดยกองทัพบกจะเข้าดำเนินการทันทีที่ได้รับงบประมาณ สำหรับคลองใหญ่ๆ บางคลอง อาทิ คลองลาดพร้าว คลองประเวศ คลองแสนแสบ หากมีความจำเป็นทางรัฐบาลก็ยินดีที่จะสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม

นายธีระชน กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมยังมีความกังวลในเรื่องท่อระบายในพื้นที่เอกชน ซึ่งมีข้อจำกัดไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้ โดย นายยงยุทธ ได้สั่งการให้ มท.และ กทม.ไปหาทางออกในเชิงกฎหมาย เพื่อให้สามารถเข้าไปดำเนินการในพื้นที่เอกชน นอกจากนี้ ในที่ประชุมมีมติที่จะเพิ่มเครื่องผลักดันน้ำให้กับกองทัพเรือ โดย กทม.ก็พร้อมที่จะสนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อเครื่องผลักดันน้ำให้กับกองทัพเรือ สำหรับงบประมาณจำนวน 1,900 ล้านบาทนั้น แบ่งออกเป็นงบประมาณในการสร้างเขื่อน และระบบป้องกันน้ำท่วมประมาณ 900 ล้านบาท การขุดลอกคูคลอง 67 ล้านบาท ระบบประมวลผล 20 กว่าล้าน และเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำประมาณ 1,000 ล้านบาท
นายธีระชน กล่าวต่อว่า การประชุมในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีมากที่ กทม.ได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุม โดยในที่ประชุมยังมีความเห็นในเรื่องแผนปฏิบัติการในการประสานความร่วมมือระหว่าง กทม.และท้องถิ่น หรือปริมณฑล ในการทำงานร่วมกัน ซึ่งทำให้เห็นภาพชัดขึ้นว่าประสิทธิภาพในการจัดการน้ำจะดีขึ้น มีความเข้าใจกันมากขึ้น ตนคิดว่า เป็นสัญญาณที่ในการร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลและรัฐบาลท้องถิ่น ซึ่ง กทม.ก็พร้อมที่จะสนับสนุน และต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่จะเข้ามาสนับสนุน กทม.ในเรื่องนี้

“ผมคิดว่า วันนี้ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน คือ ทำให้กรุงเทพฯ และจังหวัดต้นน้ำปลายน้ำผ่านพ้น หากมีการทำงานร่วมกันกับจังหวัดปริมณฑล การเผชิญหน้ากับมวลชนก็ไม่น่าจะมีแล้ว และผมเชื่อว่า หากไม่มีการไปขวางน้ำที่คลองรพีพัฒน์ สูง 3.5 เมตร เหมือนปีที่แล้ว และปล่อยให้น้ำไหลมาเรื่อยๆ ผมคิดว่าปัญหาจะไม่เกิด และที่ผ่านมา มีการกักน้ำไว้ ทำให้ประตูระบายน้ำที่คลอง 1 เสียหาย ซึ่งก็ได้แจ้งที่ประชุมว่าจะต้องมีการซ่อมประตูระบายน้ำเหล่านั้น” รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น