วานนี้(25 ม.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ช่วยประสานงานกับทางกทม.ใน การเร่งรัดโครงการฟื้นฟูและเตรียมการป้องกันน้ำท่วม ว่า นายกฯได้มอบหมายให้ประสานงานโครงการของรัฐบาล โดยที่เราไม่ได้เป็นผู้
ลงมือทำ แต่จะเป็นผู้สนับสนุนประสานงานให้สามารถดำเนินงานให้สำเร็จตามเป้าหมาย และเวลาที่กำหนด เพราะเราไม่ทราบว่าเดือน พ.ค.นี้ น้ำจะท่วมอีกหรือไม่ ดังนั้นโครงการต่งๆ ที่วางแผนไว้แล้ว ต้องรีบทำโดยเร่งด่วน ซึ่งเราจะต้องเร่งมือในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้านี้ ขณะนี้แผนงานและเงินมีแล้ว แต่เราต้องรีบทำ
เมื่อถามว่า ในการประชุมครม.ที่ผ่านมา ครม.มีการไล่บี้การทำงานของ กทม. นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า จะไปไล่บี้เขาได้อย่างไร แต่เราทำงานร่วมกัน ประสานงานกัน ให้งบประมาณไปแล้ว และทราบว่าจะมีการประชุมร่วมกับกทม.เพื่อร่วมกันดำเนินการโดยเร็วต่อไป ตนขอเชิญชวนสื่อมวลชนไปช่วยกันไปดู เพราะเป็นเรื่องของเราทุกคนที่จะต้องช่วยกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมอย่างปีที่ แล้วและทำให้เสียหายน้อยลง
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯระบุในที่ประชุมครม.ว่า กทม.มีการนำกระสอบทรายไปทิ้งลงคลองขวางทางน้ำ จะมีการตรวจสอบหรือไม่อย่างไร รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า มันอยู่ในกระบวนการที่ต้องไปดูแลทั้งหมด ทั้งเรื่องกระสอบทรายของเก่าที่ยังค้างอยู่ คูคลองที่จะต้องขุดใหม่ มีงบประมาณอยู่แล้ว เราคงไปว่าเขาไม่ได้ แต่ตนเชื่อว่ากทม.มีความห่วงใยและต้องการแก้ไขปัญหา เชื่อมั่นว่ากทม.ในฐานะที่เป็นองค์กรส่วนท้องถิ่นจะต้องดูแลพื้นที่ “ผมเชื่อมั่นว่าท่านวิ่งอยู่แล้วแหละ”
เมื่อถามย้ำว่า เชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากกทม.หรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าอย่างนั้น ส่วนกำหนดการที่นายกฯและครม.จะลงพื้นที่ติดตามการใช้งบประมาณในการฟื้นฟู และแก้ไขน้ำท่วมทั้งระบบระหว่างวันที่ 13-17 ก.พ. นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการเมื่อได้รายละเอียดแล้วจะแจ้งให้ทราบ
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับผู้ว่าฯ กทม. ได้รับการยืนยันว่า กทม.ทำทุกอย่างตามนโยบายของ ศปภ. และตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ที่ได้ทำมาให้เป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งระบุว่าได้มอบหมายให้ผู้ว่าฯ กทม. ปิดเปิดประตูน้ำ การระบายน้ำเพื่อไม่ให้เกิด
ผลกระทบต่อพื้นที่ทางเศรษฐกิจ
ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ว่าฯกทม. จะไปฝ่าฝืนคำสั่ง ถ้าผู้ว่าฯกทม.ฝ่าฝืนรัฐบาลมีสิทธิ์ที่จะปลดได้ เพียงแต่รัฐบาลไม่ยอมรับผิดชอบ เวลาผู้ว่าฯกทม. ตัดสินใจอะไรแล้วมีพี่น้องบางส่วนไม่พอใจ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา เวลาที่จะต้องมีการจัดการเรื่องระบายน้ำ รัฐบาลก็ทำเพิกเฉย แทนที่จะมาช่วยกทม. อธิบายว่าที่ผู้ว่าฯ ตัดสินใจอย่างนั้นเพราะรัฐบาลให้นโยบายไป แต่พอเกิดความไม่พอใจขึ้นก็โยนมาใส่ผู้ว่าฯ กทม.
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กทม.ไม่ได้ทำงานล่าช้าตามที่รัฐมนตรีหลายคนออกมาตำหนิติติงเรื่องการจัดทำแผนปฏิบัติงานฟื้นฟูเยียวยาน้ำท่วมและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่ง กทม.ได้ส่งรายละเอียดแผนงานโครงการระยะเร่งด่วนให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สคช.) จำนวน 114 รายการ 22 เล่ม ตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.แล้ว
นายธีระชน กล่าวว่า กทม.ได้รับหนังสือด่วนที่สุดจากสำนักงบประมาณ ลงวันที่ 12 ม.ค. ซึ่งเร่งรัดให้ กทม.จัดทำแผนปฏิบัติงานโดยกำหนดระยะเวลาว่าต้องบันทึกข้อมูลลงในเว็บไซต์ของสำนักงบประมาณให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 ม.ค. แต่หนังสือดังกล่าวเพิ่งส่งมาถึง กทม.เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ช่วงบ่าย ล่าสุด กทม.ยังได้รับหนังสือด่วนที่สุดอีกฉบับลงวันที่ 18 ม.ค. แต่หนังสือดังกล่าวกลับส่งมาถึง กทม.ในวันที่ 23 ม.ค.
นายธีระชน กล่าวว่า หนังสือด่วนที่สุดยังได้อ้างมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 ม.ค. ว่ามีการสั่งการให้การจัดทำแผนฟื้นฟูเยียวยา แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีการประชุมเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้นการออกมาตำหนิ กทม.จึงอาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน
นอกจากนี้ กทม.ได้เสนอของบประมาณจากรัฐบาลทั้งสิ้นประมาณ 7,300 ล้านบาท แต่ปัจจุบันยังไม่ได้รับการจัดสรรงบกลางแม้แต่รายการเดียว มีเพียงเงินทดลองจ่าย 50 ล้านบาทเท่านั้น ขณะเดียวกัน กทม.ยังได้ของบประมาณในการขุดลอกคูคลอง 67 ล้านบาทเท่านั้น แต่รัฐบาลก็ยังไม่จัดสรรให้ ทำให้ กทม.ต้องสำรองจ่ายเองทั้งสิ้นกว่า 200 ล้านบาท เพราะไม่สามารถรอรัฐบาลได้
ทั้งหมดนี้เป็นเกมการเมืองล้วนๆ แต่ถ้า กทม.ยืนบนหลักการและยึดฐานข้อมูลข้อเท็จจริง สุดท้ายแล้วประชาชนก็จะรู้เองว่าใครกันแน่โกหก
ลงมือทำ แต่จะเป็นผู้สนับสนุนประสานงานให้สามารถดำเนินงานให้สำเร็จตามเป้าหมาย และเวลาที่กำหนด เพราะเราไม่ทราบว่าเดือน พ.ค.นี้ น้ำจะท่วมอีกหรือไม่ ดังนั้นโครงการต่งๆ ที่วางแผนไว้แล้ว ต้องรีบทำโดยเร่งด่วน ซึ่งเราจะต้องเร่งมือในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้านี้ ขณะนี้แผนงานและเงินมีแล้ว แต่เราต้องรีบทำ
เมื่อถามว่า ในการประชุมครม.ที่ผ่านมา ครม.มีการไล่บี้การทำงานของ กทม. นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า จะไปไล่บี้เขาได้อย่างไร แต่เราทำงานร่วมกัน ประสานงานกัน ให้งบประมาณไปแล้ว และทราบว่าจะมีการประชุมร่วมกับกทม.เพื่อร่วมกันดำเนินการโดยเร็วต่อไป ตนขอเชิญชวนสื่อมวลชนไปช่วยกันไปดู เพราะเป็นเรื่องของเราทุกคนที่จะต้องช่วยกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมอย่างปีที่ แล้วและทำให้เสียหายน้อยลง
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯระบุในที่ประชุมครม.ว่า กทม.มีการนำกระสอบทรายไปทิ้งลงคลองขวางทางน้ำ จะมีการตรวจสอบหรือไม่อย่างไร รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า มันอยู่ในกระบวนการที่ต้องไปดูแลทั้งหมด ทั้งเรื่องกระสอบทรายของเก่าที่ยังค้างอยู่ คูคลองที่จะต้องขุดใหม่ มีงบประมาณอยู่แล้ว เราคงไปว่าเขาไม่ได้ แต่ตนเชื่อว่ากทม.มีความห่วงใยและต้องการแก้ไขปัญหา เชื่อมั่นว่ากทม.ในฐานะที่เป็นองค์กรส่วนท้องถิ่นจะต้องดูแลพื้นที่ “ผมเชื่อมั่นว่าท่านวิ่งอยู่แล้วแหละ”
เมื่อถามย้ำว่า เชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากกทม.หรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าอย่างนั้น ส่วนกำหนดการที่นายกฯและครม.จะลงพื้นที่ติดตามการใช้งบประมาณในการฟื้นฟู และแก้ไขน้ำท่วมทั้งระบบระหว่างวันที่ 13-17 ก.พ. นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการเมื่อได้รายละเอียดแล้วจะแจ้งให้ทราบ
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับผู้ว่าฯ กทม. ได้รับการยืนยันว่า กทม.ทำทุกอย่างตามนโยบายของ ศปภ. และตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ที่ได้ทำมาให้เป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งระบุว่าได้มอบหมายให้ผู้ว่าฯ กทม. ปิดเปิดประตูน้ำ การระบายน้ำเพื่อไม่ให้เกิด
ผลกระทบต่อพื้นที่ทางเศรษฐกิจ
ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ว่าฯกทม. จะไปฝ่าฝืนคำสั่ง ถ้าผู้ว่าฯกทม.ฝ่าฝืนรัฐบาลมีสิทธิ์ที่จะปลดได้ เพียงแต่รัฐบาลไม่ยอมรับผิดชอบ เวลาผู้ว่าฯกทม. ตัดสินใจอะไรแล้วมีพี่น้องบางส่วนไม่พอใจ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา เวลาที่จะต้องมีการจัดการเรื่องระบายน้ำ รัฐบาลก็ทำเพิกเฉย แทนที่จะมาช่วยกทม. อธิบายว่าที่ผู้ว่าฯ ตัดสินใจอย่างนั้นเพราะรัฐบาลให้นโยบายไป แต่พอเกิดความไม่พอใจขึ้นก็โยนมาใส่ผู้ว่าฯ กทม.
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กทม.ไม่ได้ทำงานล่าช้าตามที่รัฐมนตรีหลายคนออกมาตำหนิติติงเรื่องการจัดทำแผนปฏิบัติงานฟื้นฟูเยียวยาน้ำท่วมและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่ง กทม.ได้ส่งรายละเอียดแผนงานโครงการระยะเร่งด่วนให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สคช.) จำนวน 114 รายการ 22 เล่ม ตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.แล้ว
นายธีระชน กล่าวว่า กทม.ได้รับหนังสือด่วนที่สุดจากสำนักงบประมาณ ลงวันที่ 12 ม.ค. ซึ่งเร่งรัดให้ กทม.จัดทำแผนปฏิบัติงานโดยกำหนดระยะเวลาว่าต้องบันทึกข้อมูลลงในเว็บไซต์ของสำนักงบประมาณให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 ม.ค. แต่หนังสือดังกล่าวเพิ่งส่งมาถึง กทม.เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ช่วงบ่าย ล่าสุด กทม.ยังได้รับหนังสือด่วนที่สุดอีกฉบับลงวันที่ 18 ม.ค. แต่หนังสือดังกล่าวกลับส่งมาถึง กทม.ในวันที่ 23 ม.ค.
นายธีระชน กล่าวว่า หนังสือด่วนที่สุดยังได้อ้างมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 ม.ค. ว่ามีการสั่งการให้การจัดทำแผนฟื้นฟูเยียวยา แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีการประชุมเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้นการออกมาตำหนิ กทม.จึงอาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน
นอกจากนี้ กทม.ได้เสนอของบประมาณจากรัฐบาลทั้งสิ้นประมาณ 7,300 ล้านบาท แต่ปัจจุบันยังไม่ได้รับการจัดสรรงบกลางแม้แต่รายการเดียว มีเพียงเงินทดลองจ่าย 50 ล้านบาทเท่านั้น ขณะเดียวกัน กทม.ยังได้ของบประมาณในการขุดลอกคูคลอง 67 ล้านบาทเท่านั้น แต่รัฐบาลก็ยังไม่จัดสรรให้ ทำให้ กทม.ต้องสำรองจ่ายเองทั้งสิ้นกว่า 200 ล้านบาท เพราะไม่สามารถรอรัฐบาลได้
ทั้งหมดนี้เป็นเกมการเมืองล้วนๆ แต่ถ้า กทม.ยืนบนหลักการและยึดฐานข้อมูลข้อเท็จจริง สุดท้ายแล้วประชาชนก็จะรู้เองว่าใครกันแน่โกหก
