xs
xsm
sm
md
lg

สพฐ.เตรียมนำระบบเดบิตมาใช้จ่ายเงินเรียนฟรีให้ผู้ปกครอง ใจป้ำทำบัตรสมาร์ทการ์ดให้ นร.ฟรี!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สพฐ.เตรียมนำระบบเดบิต มาใช้ในการจ่ายเงินเรียนฟรี 15 ปี ให้ผู้ปกครอง โดยให้ นร.ทำบัตรสมาร์ทการ์ดแล้วจัดสรรเงินค่าอุปกรณ์-เครื่องแบบ ผ่านบัตรให้ไปรูดซื้อสินค้าตามร้านค้า ซึ่งไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ เลขาฯ กพฐ.ยัน ไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายในการทำบัตร พร้อมเดินหน้า ภาคเรียน 1 ปีการศึกษา 55 นี้

วันนี้ (24 ม.ค.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปีการศึกษา 2555 นี้ สพฐ.มีแผนเปลี่ยนแปลงวิธีจ่ายเงินเรียนฟรี 15 ปี ในส่วนของค่าอุปกรณ์การเรียน และค่าเครื่องแบบให้ผู้ปกครองนักเรียน จากเดิมที่เคยจัดสรรเป็นเงินสดให้ผู้ปกครองนักเรียนซึ่งพบปัญหาในทางปฏิบัติหลายเรื่อง เพราะฉะนั้น ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 นี้ จะมีการจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ดให้นักเรียนของ สพฐ.ทุกระดับชั้นประมาณ 7.8 ล้านคน แล้วจัดสรรเงินค่าอุปกรณ์การเรียน และค่าชุดนักเรียนผ่านบัตรสมาร์ทการ์ด

บัตรสมาร์ทการ์ดนี้จะทำหน้าที่เหมือนบัตรเดบิต ผู้ปกครองนักเรียนสามารถนำบัตรไปรูดซื้ออุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียนได้ตามมูลค่าของเงินที่มีอยู่ในบัตร แต่ไม่สามารถกดเงินสดออกจากบัตรได้ เพราะฉะนั้น ร้านค้าที่ผู้ปกครองจะสามารถซื้อสินค้าได้นั้น จะต้องเป็นร้านที่มีอุปกรณ์รองรับ อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายในการจัดทำบัตรสมาร์ดการ์ดกับนักเรียนท เพราะโครงการนี้ สพฐ.ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารออมสิน จัดทำบัตรสมาร์ทการ์ดให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย” นายชินภัทร กล่าว
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
นายชินภัทร กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ ธ.ออมสิน เคยนำเสนอโครงการนี้กับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มาแล้ว แต่ในครั้งนั้น ธ.ออมสิน จะคิดค่าทำบัตรสมาร์ทการ์ดในประมาณ 50-70 บาท สพฐ.จึงไม่ตกลงเพราะเห็นว่า ไม่ควรมีการคิดค่าใช้จ่ายในการทำบัตรสมาร์ทการ์ด ทั้งนี้ เพื่อตัดปัญหาไม่ให้เกิดข้อถกเถียงกันว่า สพฐ.ทำเรื่องสิ้นเปลือง อีกทั้ง เป็นโครงการที่ทำเพื่อการศึกษา ผลการเจรจาทำให้ ธ.ออมสิน ยกเว้นการคิดค่าใช้จ่ายในการทำบัตร สพฐ.จึงเตรียมนำระบบนี้มาใช้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2555นี้ แต่ในขั้นนี้ ยังไม่ได้คุยรายละเอียดถึงเรื่องค่าธรรมเนียมรายปีว่า จะมีการยกเว้นด้วยหรือไม่

“ สพฐ.ได้นำเสนอเรื่องนี้กับ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) คนใหม่ ซึ่งได้รับความเห็นชอบ และในเร็วๆ นี้ จะให้ผู้บริหารและฝ่ายเทคนิคของธ.ออมสิน มานำเสนอกับ รมว.ศึกษาธิการ จากนั้น สพฐ.ก็จะได้คุยในรายละเอียดกับธ.ออมสินต่อไปเชื่อว่า เมื่อนำระบบนี้มาใช้ จะทำให้การใช้เงินเรียนฟรี 15 ปี เป็นไปตามเจตนารมณ์มากขึ้นกว่าการจัดสรรเป็นเงินสดให้ผู้ปกครอง ซึ่งพบว่า มีปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะพบกรณี ผู้ปกครองไม่ได้นำเงินไปซื้ออุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียนจริง แต่ทำหลักฐานเท็จมาตบตา นอกจากนั้น การที่ สพฐ.นำสมาร์ทการร์ดมาใช้กับการจัดสรรเงินเรียนฟรีนั้น ถือเป็นการเริ่มต้นการใช้บัตรสมาร์ทการ์ดซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องการดำเนินการให้เกิดขึ้น” นายชินภัทร กล่าวและว่า ทั้งนี้ ก่อนจะนำมาใช้จริง จะต้องมีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆ ด้วย โดยเฉพาะการพูดคุยกับร้านค้า เพราะบัตรนี้ไม่สามารถกดเงินสดออกมาได้ การใช้จึงจำกัดวงเฉพาะร้านค้าที่มีเครื่องรูดบัตรเท่านั้น จึงต้องมีการฟังเสียงร้านค้าด้วยว่า สามารถเตรียมความพร้อมได้ทันหรือไม่ แต่ทาง ธ.ออมสิน ยืนยันว่า อุปกรณ์รูดบัตรนั้น สมารถจัดหาให้ร้านค้าได้และมีราคาไม่แพง ส่วนโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลตามชนบทซึ่งอาจไม่สามารถหาร้านค้าที่มีเครื่องรูดบัตรได้ ก็อาจแก้ปัญหาโดยให้สหกรณ์โรงเรียนเป็นร้านค้าที่รองรับแทน

อนึ่ง สำหรับค่าอุปกรณ์การเรียนนั้น จัดสรรให้ในอัตราดังนี้ ก่อนประถมศึกษา 100 บาท/ภาคเรียน ประถมศึกษา 195 บาท/ภาคเรียน มัธยมศึกษาตอนต้น 210 บาท/ภาคเรียน และมัธยมศึกษาตอนปลาย 230 บาท/ภาคเรียน ส่วนค่าเครื่องแบบนักเรียน ให้คนละ 2 ชุดต่อปี ในอัตราดังนี้ ก่อนประถมศึกษา 300 บาท/คน ประถมศึกษา 360 บาท/คน มัธยมศึกษาตอนต้น 450 บาท/คน และ มัธยมศึกษาตอนปลาย 500 บาท/คน
กำลังโหลดความคิดเห็น