xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการ ชี้ 5 เดือน “บัตรทอง” ไร้ผลงานเป็นจุดเริ่มต้นยุคถดถอย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประชุมบอร์ด ด่วน 24 มกราคม นี้ “วิทยา” เตรียมเสนอ 217 คนนอกเข้าอนุ กก.บอร์ด สปสช. นักวิชาการชี้เป็นจุดเริ่มต้นยุคถดถอยของระบบบัตรทองที่หมอสงวนสร้างไว้ เปิดโปง 5 เดือนประชุมบอร์ดใหม่เพียง 2 ครั้ง เสนอ 10 วาระ มีมติเป็นชิ้นเป็นอันผ่านเพียง 2 เรื่อง ต่างจากยุค ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็น รมว.สธ. เพียง 2 เดือน ผ่านมติ 5 เรื่องสำคัญ

นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้ประสานเครือข่ายนักวิชาการด้านประกันสุขภาพ เปิดเผยว่า ได้ติดตามผลการประเมิน 10 ปี ระบบหลักประกันสุขภาพของไทย พบว่า ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จทำให้ประชาชนเข้าถึงการบริการต่างๆ มากขึ้น ระบบมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมี ประสิทธิภาพ เป็นตัวอย่างให้กับประเทศต่างๆ เป็นที่ยอมรับขององค์การอนามัยโลกแม้กระทั่ง นายบันคีมูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ยังได้กล่าวชื่นชมความสำเร็จของระบบหลักประกันสุขภาพของไทย แต่จากการติดตามงานที่ผ่านมา เครือข่ายนักวิชาการมีความเป็นห่วงอนาคตของระบบนี้ เพราะที่ผ่านมา 5 เดือน ตั้งแต่ที่นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มาเป็นประธานคณะ กก.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติชุดใหม่สามารถจัดประชุมคณะ กก.ได้เพียง 2 ครั้ง มีเรื่องเสนอ 10 วาระเข้าสู่การพิจารณา แต่มีมติผ่านเพียง 2 เรื่องย่อย คือ เห็นชอบผลการประเมินตาม KPI ของ สปสช.ปี 2554 และรับทราบผลการสำรวจความพึงพอใจของประชาชนและผู้ให้บริการต่อระบบบัตรทอง ปี 2554 ส่วนอีก 8 เรื่องสำคัญยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ ต่างจากยุคสมัยของ นายพินิจ จารุสมบัติ รมว.สาธารณสุข พรรคไทยรักไทย ที่ใช้เวลาเพียง 5 เดือนประชุมบอร์ด 8 ครั้ง ผ่าน 22 วาระ ตั้งแต่เรื่องวางระบบ E-service บริการประชาชนบัตรทองทั่วประเทศ อนุมัติงบจัดตั้งระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน และจัดตั้งกองทุนบัตรทองร่วมกับ อบต.และเทศบาล เป็นต้น หรือแม้กระทั่งยุค ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็น รมว.สธ.เพียง 2 เดือน ได้ประชุมบอร์ด 2 ครั้ง ผ่านวาระทั้งหมด 5 เรื่อง เช่น ผ่านแนวทางการดำเนินงานกรณีให้ประชาชนใช้บริการที่ใดก็ได้ภายในจังหวัดเดียวกัน เป็นต้น
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
รายงานข่าวแจ้งว่า นายวิทยา ในฐานะประธานบอร์ด สปสช.ได้สั่งประชุมด่วนจากเดิมนัดไว้วันที่ 6 กุมภาพันธ์ เป็น 24 มกราคม นี้ โดยมีวาระสำคัญเรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการการเงินการคลังและคณะอนุกรรมการอื่นๆ อีก 12 คณะ โดยนพ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านแพทย์แผนไทย จะเป็นผู้เสนอโผที่จัดทำขึ้นในห้องปลัดกระทรวงสาธารณสุขโดยจะเสนออนุกรรมการทั้งหมด จำนวน 217 คน เข้าสู่คณะกรรมการทั้ง 13 คณะ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของกลไกกำหนดนโยบายของระบบบัตรทอง โดยเฉพาะคณะอนุ กก.การเงินการคลังส่วนใหญ่มาจากเจ้าหน้าที่สำนักงบประมาณ และผู้แทนสถาบันการแพทย์ชั้นสูง ต่างจากชุดเดิมที่มาจากองค์ประกอบของหน่วยบริการที่หลากหลายและมีตัวแทนผู้ใช้บริการและท้องถิ่นร่วม ด้วย

นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า การเอาพวกพ้องที่สั่งได้ และไม่มีประสบการณ์ด้านระบบหลักประกันสุขภาพและไม่เปิดให้มีส่วนร่วมจากผู้ป่วยรวมทั้งองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นเป็นการทำให้ระบบบัตรทองถอยหลังเข้าคลองและล่มสลายในที่สุดสอด คล้องกับแผนล้มระบบหลักประกันสุขภาพขั้นตอนที่สอง ที่มุ่งทำให้ระบบอ่อนแอลงทำให้กลุ่มผลประโยชน์เข้าช่วงชิงเงินกองทุนหลัก ประกันสุขภาพได้ง่ายมากขึ้น นำไปสู่การผลักดันให้เพิ่มงบประมาณครั้งใหญ่ในปีงบประมาณหน้า

“ทางชมรมแพทย์ชนบท เครือข่ายผู้ป่วยและกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพทุกกลุ่ม จะไม่ยอมปล่อยให้ฝ่ายการเมืองและแพทย์พาณิชย์ล้มระบบที่คุณหมอสงวนสร้างไว้อย่างแน่นอนและ รมว.สธ.จะต้องรับผิดชอบกับผลงานชิ้นโบว์ดำนี้”ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมตั้งคณะอนุกรรมการการเงินและคณะอนุกรรมการอื่นๆ อีก 12 คณะในวันที่ 24 มกราคมนี้ หลายฝ่ายโดยเฉพาะทางกรรมการตัวแทนองค์กรเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งสภาวิชาชีพหลายสภาจะเคลื่อนไหวคัดค้าน และคาดว่า จะหาข้อยุติได้ยาก ยกเว้นทาง รมว.สธ.จะทบทวนเรื่องนี้กันใหม่ และเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตทิศทางของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น