ศธ.จัดพิธีอำลา 3 รัฐมนตรี ไร้เงา “บุญรื่น-สุรพงษ์” ขณะที่ “วรวัจน์” ฝาก รมว.ศึกษาฯ ใหม่สานต่อยุทธศาสตร์ 2555 และเตรียมพร้อมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เผย แม้ต้องไปอยู่สำนักนายกฯ แต่ได้รับมอบดูแลงบประมาณซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของประเทศ พร้อมฝากคำประพันธ์แทนใจให้ข้าราชการ ศธ.
วันนี้ (20 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จัดพิธีอำลา นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และนางบุญรื่น ศรีธเรศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล รัฐมนตรีช่วยว่า ศธ.แต่เนื่องจาก รมช.ศึกษาธิการ 2 ท่านติดภารกิจจึงไม่ได้มาร่วมพิธี
เมื่อเวลา 09.45 น.นายวรวัจน์ เดินทางมาถึง ศธ.เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ห้องทำงาน จากนั้นเดินไปสักการะสิ่งศักดิ์ประจำกระทรวง ต่อมาได้ขึ้นไปพบปะผู้บริหารระดับสูงของ ศธ.และผู้บริหารหน่วยงานกำกับ และข้าราชการ ศธ.ที่ห้องประชุมกระทรวงศึกษาธิการ และรับชมวีดีทัศน์ภาพความประทับใจขณะปฏิบัติภารกิจในโอกาสต่างๆ ที่ผ่านมา
ต่อมา นายวรวัจน์ ได้กล่าวต่อข้าราชการ ศธ.ว่า ขอบคุณผู้บริหาร และข้าราชการทุกคนที่ได้ให้ความร่วมมือด้วยดีในขณะที่ดำรงตำแหน่งใน ศธ.ขณะนี้ งานของ ศธ.กำลังจะเดินหน้าและมองเห็นเป้าหมายในอนาคตข้างหน้าที่จะก้าวต่อเพื่อไปสู่การแข่งขันในสังคมโลก ทั้งนี้ ศธ.เป็นกระทรวงสำคัญที่สุด เป็นยักษ์หลักในการพัฒนาทรัพยากรของประเทศ ตนมาทำงานที่ ศธ.ก็ต้องการวางระบบต่างๆ ให้เข้ารูปเข้ารอย เพราะที่ผ่านมา ศธ.ขาดการวางยุทธศาสตร์การพัฒนาการศึกษา ซึ่งตนได้จัดทำยุทธศาสตร์ 2555 ไว้เป็นแนวทางในการพัฒนาคนของประเทศสำหรับ ศธ.ใช้ดำเนินการ และกำลังเตรียมการแถลงในวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์นี้ด้วย ดังนั้น ตนอยากฝากให้ ศ.ดร.สุชาติ ธาราธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ คนใหม่สานงานนี้ต่อ ซึ่งตนก็เชื่อว่า รมว.ศึกษาธิการ คนใหม่จะสามารถดำเนินไปตามยุทธศาสตร์นี้ได้ เพราะตนและ ศ.ดร.สุชาติ ทำงานทีมเศรษฐกิจของพรรคมาร่วมกัน รวมทั้งฝากเรื่องการพัฒนาขีดความสามารถของคนไทยให้เข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างมีประสิทธิภาพ
“ที่ผ่านมา ผมเริ่มทำงานในกระทรวงที่เล็กที่สุด คือ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จากนั้นได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้มาดูแลกระทรวงที่ใหญ่ที่สุด คือ กระทรวงศึกษาธิการ และที่นี่เป็นหน่วยงานพัฒนาคนของประเทศเป็นหลักแต่เสียดายผมมีเวลาอยู่ในตำแหน่งนี้สั้นไป และวันนี้ผมยังไม่ได้ไปไหนแต่ได้รับมอบหมายจากนายกฯให้ไปดูแลด้านงบประมาณซึ่งเป็นงานที่หนักและมีความสำคัญกับประเทศ แม้ตอนนี้จะมีคนมองว่าผมพ้นจากกระทรวงใหญ่แล้วต้องไปอยู่สำนักนายกรัฐมนตรีแทน แต่หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายดูแลเรื่องงบประมาณนั้น ผมมองว่า นั่นคือ หัวใจของการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณส่วนต่างๆ ยังขาดความเชื่อมต่อกันดังนั้นเป้าหมายที่ผมไปทำ คือการวางระบบงบประมาณให้เชื่อมต่อกัน โดยเฉพาะ ศธ.มีงบประมาณมากที่สุดแต่ก็ขาดแคลนมากที่สุดเพราะข้าราชการเยอะ การดูแลเด็กก็เยอะ”นายวรวัจน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังกล่าวจบ นายวรวัจน์ ได้รับมอบแจกันดอกไม้จากผู้บริหาร และดอกกุหลาบจากข้าราชการ ศธ.ที่มารอส่ง พร้อมกันนี้ นายวรวัจน์ ได้แต่งคำประพันธ์เพื่อมอบให้แก่ข้าราชการ ศธ.ทุกคน มีใจความว่า
อนาคต ฤาเราจะล่วงรู้วิถี ความทรงจำที่มี ในวันนี้ ล้ำความหมาย
แรกรู้จัก ไม่มักคุ้น พลันกลับกลาย ผูกสัมพันธ์มั่นหมายลึกซึ้งถึงวิญญา
ร่วมทำงานเพื่ออนาคต ของประเทศ เดินทางทั่วทุกเขตเพื่อสรรหา
ศักยภาพของประเทศ ในพารา กำหนดอนาคตของประเทศให้แข่งได้ในแดนไกล
2555 คือ วิสัยทัศน์ กำหนดชชัด อนาคตของประเทศคือเป้าหมาย
2558 ไทยเป็นผู้นำในอาเซี่ยน มิกลับกลาย สัญญาใจมุ่งหมาย ทำให้ได้ เราร่วมกัน
ต่อจากนี้ไป ไม่ว่ากายจะอยู่ ณ แห่งไหน สัญญาได้ไหม สัญญาใจว่า จะมิเปลี่ยน มิแปรผัน
วังจันทรเกษม คือ ความรัก คือเรียนรู้ คือผูกพัน ก่อเกิดสัมพันธ์ รักเราเกิดมั่น ขอจดจำกันไว้...นิรันดร์กาล
วันนี้ (20 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จัดพิธีอำลา นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และนางบุญรื่น ศรีธเรศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล รัฐมนตรีช่วยว่า ศธ.แต่เนื่องจาก รมช.ศึกษาธิการ 2 ท่านติดภารกิจจึงไม่ได้มาร่วมพิธี
เมื่อเวลา 09.45 น.นายวรวัจน์ เดินทางมาถึง ศธ.เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ห้องทำงาน จากนั้นเดินไปสักการะสิ่งศักดิ์ประจำกระทรวง ต่อมาได้ขึ้นไปพบปะผู้บริหารระดับสูงของ ศธ.และผู้บริหารหน่วยงานกำกับ และข้าราชการ ศธ.ที่ห้องประชุมกระทรวงศึกษาธิการ และรับชมวีดีทัศน์ภาพความประทับใจขณะปฏิบัติภารกิจในโอกาสต่างๆ ที่ผ่านมา
ต่อมา นายวรวัจน์ ได้กล่าวต่อข้าราชการ ศธ.ว่า ขอบคุณผู้บริหาร และข้าราชการทุกคนที่ได้ให้ความร่วมมือด้วยดีในขณะที่ดำรงตำแหน่งใน ศธ.ขณะนี้ งานของ ศธ.กำลังจะเดินหน้าและมองเห็นเป้าหมายในอนาคตข้างหน้าที่จะก้าวต่อเพื่อไปสู่การแข่งขันในสังคมโลก ทั้งนี้ ศธ.เป็นกระทรวงสำคัญที่สุด เป็นยักษ์หลักในการพัฒนาทรัพยากรของประเทศ ตนมาทำงานที่ ศธ.ก็ต้องการวางระบบต่างๆ ให้เข้ารูปเข้ารอย เพราะที่ผ่านมา ศธ.ขาดการวางยุทธศาสตร์การพัฒนาการศึกษา ซึ่งตนได้จัดทำยุทธศาสตร์ 2555 ไว้เป็นแนวทางในการพัฒนาคนของประเทศสำหรับ ศธ.ใช้ดำเนินการ และกำลังเตรียมการแถลงในวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์นี้ด้วย ดังนั้น ตนอยากฝากให้ ศ.ดร.สุชาติ ธาราธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ คนใหม่สานงานนี้ต่อ ซึ่งตนก็เชื่อว่า รมว.ศึกษาธิการ คนใหม่จะสามารถดำเนินไปตามยุทธศาสตร์นี้ได้ เพราะตนและ ศ.ดร.สุชาติ ทำงานทีมเศรษฐกิจของพรรคมาร่วมกัน รวมทั้งฝากเรื่องการพัฒนาขีดความสามารถของคนไทยให้เข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างมีประสิทธิภาพ
“ที่ผ่านมา ผมเริ่มทำงานในกระทรวงที่เล็กที่สุด คือ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จากนั้นได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้มาดูแลกระทรวงที่ใหญ่ที่สุด คือ กระทรวงศึกษาธิการ และที่นี่เป็นหน่วยงานพัฒนาคนของประเทศเป็นหลักแต่เสียดายผมมีเวลาอยู่ในตำแหน่งนี้สั้นไป และวันนี้ผมยังไม่ได้ไปไหนแต่ได้รับมอบหมายจากนายกฯให้ไปดูแลด้านงบประมาณซึ่งเป็นงานที่หนักและมีความสำคัญกับประเทศ แม้ตอนนี้จะมีคนมองว่าผมพ้นจากกระทรวงใหญ่แล้วต้องไปอยู่สำนักนายกรัฐมนตรีแทน แต่หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายดูแลเรื่องงบประมาณนั้น ผมมองว่า นั่นคือ หัวใจของการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณส่วนต่างๆ ยังขาดความเชื่อมต่อกันดังนั้นเป้าหมายที่ผมไปทำ คือการวางระบบงบประมาณให้เชื่อมต่อกัน โดยเฉพาะ ศธ.มีงบประมาณมากที่สุดแต่ก็ขาดแคลนมากที่สุดเพราะข้าราชการเยอะ การดูแลเด็กก็เยอะ”นายวรวัจน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังกล่าวจบ นายวรวัจน์ ได้รับมอบแจกันดอกไม้จากผู้บริหาร และดอกกุหลาบจากข้าราชการ ศธ.ที่มารอส่ง พร้อมกันนี้ นายวรวัจน์ ได้แต่งคำประพันธ์เพื่อมอบให้แก่ข้าราชการ ศธ.ทุกคน มีใจความว่า
อนาคต ฤาเราจะล่วงรู้วิถี ความทรงจำที่มี ในวันนี้ ล้ำความหมาย
แรกรู้จัก ไม่มักคุ้น พลันกลับกลาย ผูกสัมพันธ์มั่นหมายลึกซึ้งถึงวิญญา
ร่วมทำงานเพื่ออนาคต ของประเทศ เดินทางทั่วทุกเขตเพื่อสรรหา
ศักยภาพของประเทศ ในพารา กำหนดอนาคตของประเทศให้แข่งได้ในแดนไกล
2555 คือ วิสัยทัศน์ กำหนดชชัด อนาคตของประเทศคือเป้าหมาย
2558 ไทยเป็นผู้นำในอาเซี่ยน มิกลับกลาย สัญญาใจมุ่งหมาย ทำให้ได้ เราร่วมกัน
ต่อจากนี้ไป ไม่ว่ากายจะอยู่ ณ แห่งไหน สัญญาได้ไหม สัญญาใจว่า จะมิเปลี่ยน มิแปรผัน
วังจันทรเกษม คือ ความรัก คือเรียนรู้ คือผูกพัน ก่อเกิดสัมพันธ์ รักเราเกิดมั่น ขอจดจำกันไว้...นิรันดร์กาล