กทม.เตรียมตรวจสอบการขอรับเงินเยียวยาที่ไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ระบุใครนำเงินไป ขอให้เอามาคืน ไม่เช่นนั้นจะดำเนินการทางกฎหมาย
วันนี้ (18 ม.ค.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษก กทม.เปิดเผยว่า ขณะนี้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด ว่า หากพื้นที่ใดที่ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติจะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาททุกครัวเรือน แต่หลักเกณฑ์ของรัฐบาลได้ระบุไว้ คือ 1.ต้องประสบน้ำท่วมฉับพลัน บ้านเรือนและทรัพย์สินได้รับความเสียหายทั้งหมด และ 2.ประสบน้ำท่วมนานเกิน 7 วัน บ้านเรือนและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ มีการร้องเรียนว่า มีประชาชนที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ในการรับเงินเยียวยา มาลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินแล้ว
นายวสันต์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องดังกล่าว ให้แจ้งมายัง กทม.เป็นลายลักษณ์อักษร หรือที่สายด่วนผู้ว่าฯ กทม.081-933-5999 จากนั้นจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะกำชับไปยังเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ให้มีการตรวจสอบก่อนจะลงนามรับรองให้ประชาชน เพื่อให้การจ่ายเงินไม่ล่าช้า ส่งถึงมือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจริงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังพบว่า มีสมาชิกท้องถิ่นที่อยู่คนละพรรคกับผู้ว่าฯ กทม.และมีอำนาจในการรับรอง ได้รับรองให้ประชาชนที่มายื่นคำร้อง แต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบว่า ไม่ได้เข้าหลักเกณฑ์ ทำให้สมาชิกท้องถิ่นเหล่านี้ กล่าวหาผู้ว่าฯ กทม.ไม่จ่ายเงินเยียวยา ดังนั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง ผู้ที่ได้รับสิทธิ์จริง จึงได้รับเงินล่าช้าตามไปด้วย
“ใครที่ทราบว่าตนเองไม่ได้อยู่ในหลักเกณฑ์ แล้วนำเงินไป ถ้าสุจริตใจขอให้นำเงินมาคืน เพราะเป็นเงินภาษีอากรของประชาชน หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการแจ้งหลักฐานเท็จ กทม.จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ” นายวสันต์ กล่าว
วันนี้ (18 ม.ค.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษก กทม.เปิดเผยว่า ขณะนี้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด ว่า หากพื้นที่ใดที่ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติจะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาททุกครัวเรือน แต่หลักเกณฑ์ของรัฐบาลได้ระบุไว้ คือ 1.ต้องประสบน้ำท่วมฉับพลัน บ้านเรือนและทรัพย์สินได้รับความเสียหายทั้งหมด และ 2.ประสบน้ำท่วมนานเกิน 7 วัน บ้านเรือนและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ มีการร้องเรียนว่า มีประชาชนที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ในการรับเงินเยียวยา มาลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินแล้ว
นายวสันต์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องดังกล่าว ให้แจ้งมายัง กทม.เป็นลายลักษณ์อักษร หรือที่สายด่วนผู้ว่าฯ กทม.081-933-5999 จากนั้นจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะกำชับไปยังเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ให้มีการตรวจสอบก่อนจะลงนามรับรองให้ประชาชน เพื่อให้การจ่ายเงินไม่ล่าช้า ส่งถึงมือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจริงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังพบว่า มีสมาชิกท้องถิ่นที่อยู่คนละพรรคกับผู้ว่าฯ กทม.และมีอำนาจในการรับรอง ได้รับรองให้ประชาชนที่มายื่นคำร้อง แต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบว่า ไม่ได้เข้าหลักเกณฑ์ ทำให้สมาชิกท้องถิ่นเหล่านี้ กล่าวหาผู้ว่าฯ กทม.ไม่จ่ายเงินเยียวยา ดังนั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง ผู้ที่ได้รับสิทธิ์จริง จึงได้รับเงินล่าช้าตามไปด้วย
“ใครที่ทราบว่าตนเองไม่ได้อยู่ในหลักเกณฑ์ แล้วนำเงินไป ถ้าสุจริตใจขอให้นำเงินมาคืน เพราะเป็นเงินภาษีอากรของประชาชน หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการแจ้งหลักฐานเท็จ กทม.จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ” นายวสันต์ กล่าว
